ทั้งแถทั้งตะแบง?

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 มี.ค. 62)

คำว่า “เจ้าหน้าที่รัฐ” ของ “ลุงตู่” กลายเป็น “เผือกร้อน” ที่ กกต. ต้องให้คำตอบชัดเจน หลังจาก “เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” และ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติของ “ลุงตู่” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ

หาก กกต. ไม่ดำเนินการพิจารณาคดีให้รวดเร็วเหมือนกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติอาจถูกดำเนินคดีข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ตำแหน่ง “หัวหน้า คสช.” รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ 125,590 บาท ตามความในพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญบางตำแหน่งปี 2557 ซึ่งต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐตามความในมาตรา 98 (15) ที่เข้าลักษณะต้องห้ามเสนอสภาผู้แทนราษฎรให้แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี

ที่สำคัญยังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2543 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2543 วินิจฉัยคำว่า “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ต้องมีลักษณะดังนี้คือ (1) ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย (2) มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ (3) อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับของรัฐ (4) มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย

แม้ “เนติบริกร” จะตะแบงว่า คสช. เป็น “องค์กรพิเศษ” ตำแหน่ง “หัวหน้า คสช.” ไม่ใช่ “เจ้าหน้าที่รัฐ” ก็มีคำถามว่า แล้ว “ลุงตู่” เอาอำนาจอะไรมาออกคำสั่งให้ประชาชนและข้าราชการต้องปฏิบัติตาม เช่น อำนาจตามมาตรา 44 ที่ให้อำนาจเฉพาะ “หัวหน้า คสช.”  หรือ “ลุงตู่” อยู่เหนือกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่แตะต้องไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้

หาก “กฎหมาย” ไม่ได้เป็น “กฎหมาย”” ก็ต้องเอา “ย.ยักษ์” ออก เพราะ “ประเทศกูมี” ยุค “คนดี” ครองเมือง “ทำอะไรก็ไม่ผิด”!!??

You must be logged in to post a comment Login