วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“นคร”ฝากถึง”สุเทพ”กลับใจช่วยฝั่งปชต.อย่าตกเป็นเครื่องมือ”เผด็จการ”

On March 2, 2019

นายนคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก อดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฏร และผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 จ.พิษณุโลก โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และมวลมหาประชาชน เรียกร้องให้ข้ามพ้นวาทกรรมเดิมๆ ระบอบเดิมๆ เนื่องจากเป็นการตั้งโจทย์ผิด เพราะระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง พร้อมขอให้กลับตัวกลับใจ หันมาช่วยฝั่งประชาธิปไตย และอย่าตกเป็นเครื่องมือรับใช้เผด็จการอีก

รายละเอียดทั้งหมด ดังนี้

ถึง พี่สุเทพ เทือกสุบรรณ และมวลมหาประชาชน

ผมได้อ่านบทความที่พี่เทพโพสต์ลงในเฟสบุ๊คอย่างละเอียดถี่ถ้วน หลายตอน หลายครั้ง ทำให้นึกถึงตอนที่พวกเราได้เคยอยู่ในพรรคการเมืองเดียวกัน ได้เคยร่วมคิด ร่วมต่อสู้มายาวนานสิบกว่าปีด้วยความเชื่อว่า พวกเรา คือความจริง คือความถูกต้อง คือประชาธิปไตยคนอื่นพรรคการเมืองอื่นที่เห็นต่างจากเรา เป็นคนเลว ไม่รักชาติ ไม่รักศาสน์ ไม่รักสถาบัน ไม่เป็นประชาธิปไตย

พวกเรา มีเครือข่าย ทั้งนายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ และข้าราชการระดับสูง รวมถึงองค์กรอิสระ และ กระบวนการยุติธรรมอยู่ในมือ เพรียบพร้อมทุกอย่าง พวกเรามีสื่อ สารมวลชนที่คอยรับใช้และมีคณะที่ปรึกษาระดับหัวกะทิ ชั้นนำของประเทศ คอยวางแผนช่วย และประดิษฐ์วาทกรรมเพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่แหลมคม เหมาะกับยุคสมัย เช่น จำลองพาคนไปตาย, เผด็จการรัฐสภา, รวยแล้วโกง โกงทั้งโคตร, ทุจริตเชิงนโยบาย และ ระบอบทักษิณ ยุคก่อนวาทกรรม อาจทำให้พรรคของเราชนะการเลือกตั้ง เพราะคนอาจหลงเชื่อและ เป็นกระแส อีกทั้งสังคมยังไม่มีเครื่องมือสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดเช่นปัจจุบัน

แต่ในยุคสมัยปัจจุบันข้อมูล ข่าวสาร และการรับรู้ของประชาชนเท่าทัน และก้าวล้ำตามเทคโนโลยี ไม่มีใครจะหลอกลวงประชาชนด้วยวาทกรรมได้อีกแล้ว ความจริง และผลงานเท่านั้นที่คนส่วนใหญ่จะรัก เชื่อ และศรัทธา

เพราะฉะนั้น ตั้งแต่มีรัฐบาลนายกทักษิณ ปี 2544 เป็นต้นมา พวกเราแม้จะมีการสรรสร้างวาทกรรมสุดคลาสสิค สุขุม ลุ่มลึก เพียงใด มีสรรพกำลังทั้ง นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ระบบราชการ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม สื่อสารมวลชนคอยช่วยหนุน ก็ไม่ได้ทำให้พวกเราชนะการเลือกตั้งจากประชาชนได้

ก่อนหน้านั้นพวกเราเคยร่วมกันพามวลชนเสื้อสีเหลืองมาสนับสนุน คุณสนธิ ขับไล่ รัฐบาลพลเรือน รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่มาจากการเลือกตั้ง พวกเราคว่ำบาตรการเลือกตั้ง ทำให้ระบอบประชาธิปไตยเดินต่อไปไม่ได้ สุดท้ายพวกเราและประเทศไทยของเรา กลับได้รัฐบาลเผด็จการ ที่มาจากการยึดอำนาจปล้นอำนาจของประชาชนไป โดยการนำของพลเอกสนธิ บุญญรัตตกลิน ได้รัฐบาลเผด็จการทหารที่นำโดยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อ 19 กันยายน 2549

พวกเราพยายามสร้าง และใช้วาทกรรมว่าเผด็จการรัฐสภา ระบอบทักษิณ รวยแล้วโกง โกงทั้งโคตร ทุจริตเชิงนโยบาย และใช้ทุกสรรพกำลัง แต่ก็ยังแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

หลังสุดพวกเราได้พากันสร้างม็อบเป่านกหวีด แล้วพากันคว่ำบาตรการเลือกตั้ง ผมจึงไม่สามารถที่จะร่วมอุดมการณ์กับพี่ต่อไปอีกได้ เพราะผมเห็นว่า วิธีการดังกล่าว ไม่ใช่วิถีทางแห่งประชาธิปไตย จึงลาออกมา อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย และเมื่อศึกษา วิเคราะห์ วิจัยตรวจสอบทุกอย่างแล้ว ผมจึงรู้ว่า พวกเราต่างหากที่ทำผิด คิดผิด ดำเนินการผิด เช่นการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง เท่ากับเป็นการไม่เคารพเสียงของประชาชน เปิดช่องทางให้พวกเผด็จการทหารอ้างเป็นเหตุยึดอำนาจปล้นอำนาจประชาชนไป จนทำให้ประชาธิปไตยและประเทศไทยของเราพังพินาศ เป็นรัฐที่ล้มเหลวเป็นรัฐทหาร รัฐเผด็จการถึงทุกวันนี้

พี่กับอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตรัฐมนตรีหลายคนพามวลมหาประชาชนรวมตัว รวมพลังกันเป่านกหวีด ปิดกรุงเทพ มีมวลมหาประชาชนบางส่วนขัดขวางการเลือกตั้ง สามารถล้มการเลือกตั้งได้สำเร็จ ซึ่งผมถือว่าเป็นความผิดพลาดในทางการเมืองมากที่สุด ต่างจากม็อบทั่วโลกที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย แต่มวลมหาประชาชนกลับเรียกร้องหาเผด็จการ ให้ทหารมายึดอำนาจตัวเองและประชาชนทั่วไป

สุดท้ายสิ่งที่คนไทย และประเทศไทยของเราได้รับคือ การยึดอำนาจปล้นอำนาจของประชาชนไป ของพวกเผด็จการทหาร ที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในนาม คณะ คสช. ตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 และกดขี่ข่มเหง ปกครองจนถึงทุกวันนี้ ที่มีแต่สร้างสถานการณ์วิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจและ วิกฤติสังคม ทุกด้าน
เมื่อคณะคสช เผด็จการทหารครองเมือง พี่ก็รู้ว่าประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เกิดวิกฤติทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง เกิดข้าวยากหมากแพง

หากว่าพี่เทพ และมวลมหาประชาชน กปปส ยอมรับความจริง ไม่เห็นผิดเป็นชอบ ที่เป็นมิฐฉาทิฐิ และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วยสติปัญญาของทุกท่าน ต้องยอมรับความจริงว่า ปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่เขาฉลาดและรู้ทันแล้ว วาทกรรมใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ ไม่สามารถทำให้เราชนะการเลือกตั้งได้ ผลงานและการกระทำที่จริงจังที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดและในวิถีทางประชาธิปไตยต่างหากที่จะทำให้ชนะใจประชาชน และชนะการเลือกตั้งได้

ที่แย่มากกว่านั้นคือพวกเราถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการ ที่ใช้พวกเรา ทำลายประชาธิปไตยทำลายประชาชนแล้วเปิดทางให้เผด็จการทหารเข้ามายึดอำนาจปล้นอำนาจประชาชนไป ทำให้อำนาจประชาชนและประชาธิปไตยถูกทำลายลงอย่างน่าเศร้า

ผมจึงอยากให้พี่ และมวลมหาประชาชนจงละความเห็นผิด หยุดใช้วาทกรรม ทำลายนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หยุดเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบเผด็จการ หยุดสร้างสถานการณ์และเงื่อนไขให้เกิดความไม่สงบที่อาจทำให้พวกเผด็จการอ้างเป็นเหตุในการยึดอำนาจซ้ำอีก

เพราะ เผด็จการรัฐสภา ไม่มีอยู่จริง ระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง เพราะระบอบประชาธิปไตย เสียงข้างมากได้เป็นฝ่ายบริหาร เสียงข้างน้อย ก็เป็นฝ่ายค้าน 4 ปีให้ประชาชนมาเลือกกันใหม่ ใครทำดี ประชาชนก็เลือกต่อ ใครทำไม่ดี ก็ไม่ได้รับเลือกตั้งว่ากันที่ผลงานที่จะทำให้ประชาชน แต่ระบอบประชาธิปไตยยังคงอยู่

ดังนั้น การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ที่พี่เทพบอกว่า เอาระบอบทักษิณ หรือ ไม่เอาระบอบทักษิณ นั้นเป็นการใช้วาทกรรมเดิมๆ เป็นการตั้งโจทย์ผิด เพราะระบอบทักษิณไม่มีอยู่จริง มีแต่ระบอบประชาธิปไตย ใครที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือก ก็เป็นรัฐบาล ใครได้รับเสียงส่วนน้อย ก็เป็นฝ่ายค้าน

ส่วนระบอบเผด็จการ ทหารนัน้องมีอยู่จริง เพราะเอาปืน มาปล้นอำนาจราษฏร ยึดอำนาจประชาชนไปจริงๆ

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมนี้ จึงเป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 ระบอบ คือ ระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ ที่ประชาชนจะต้องเลือก ว่าจะเอาเผด็จการปัจจุบันให้สืบทอดอำนาจต่อไปให้ประชาชนไทยเป็นทาสไพร่ชั่วลูกชั่วหลาน หรือจะเลือกฝ่ายประชาธิปไตยที่ให้สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและโอกาสที่ดีกว่า ให้คนไทยและประเทศไทยของเราเจริญรุ่งเรืองเช่นอารยะประเทศ

ข้ามพ้นจากวาทกรรมเดิมๆ ข้ามพ้นระบอบเดิมๆแล้วพวกเรากลับตัวกลับใจมาช่วยฝ่ายประชาธิปไตย ดีกว่านะครับ อย่าเป็นเครื่องมือรับใช้เผด็จการอีกต่อไปเลย พี่เทพและพี่น้องมวลมหาประชาชน


You must be logged in to post a comment Login