วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ผู้ตรวจฯชี้ตำแหน่ง”หัวหน้าคสช.”ไม่มีสถานะเป็น”เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ”

On March 14, 2019

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจการแผ่นดินมีการประชุมเพื่อวินิจฉัยคำร้องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพื่อวินิจฉัยกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่

จากนั้น นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาว่าคำร้องดังกล่าวอยู่ในอำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินจะรับไว้วินิจฉัย และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2543 ซึ่งเคยวินิจฉัยคำว่าเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐไว้  ว่า “…คำว่า เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หมายความว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น ซึ่งมีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่นโดยมีลักษณะดังจ่อไปนี้ คือ1.ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย 2.มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ 3.อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ และ 4.มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย…”

ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าตำแหน่งหัวหน้าคสช.เป็นตำแหน่งที่ใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ เพื่อเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทซ โดยรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 265 ยังคงให้การรับรองอำนาจนี้อยู่ แสดงให้เห็นว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่ได้มีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือ ลักษณะงานทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และไม่ได้ลักษณะครบถ้วนทั้ง 4 ประการตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ได้มีสถานะเป็นเข้าหน้าที่อื่นของรัฐ กรณีดังกล่าวจึงไม่มีเหตุที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง เพื่อวินิจฉัยแต่อย่างใด ดังนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินจึงวินิจฉัยให้ยุติเรื่องร้องเรียน


You must be logged in to post a comment Login