วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

สารัช กับโอกาสที่เข้ามาอีกครั้งกับทีมชาติวังทำผลงานดีที่สุด

On March 20, 2019

สารัช อยู่เย็น กองกลางทีมชาติไทย แสดงความมุ่งมั่นเต็มที่ หลังได้รับโอกาสกลับมาติดธงช้างศึก อีกครั้ง ในการแข่งขัน ไชนา คัพ 2019 ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2562 ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่า เดย์

กองกลางวัย 26 ปี รับใช้ ช้างศึก ครั้งล่าสุด ต้องย้อนกลับไปในเกมกระชับมิตร ที่เปิดบ้านแพ้ ทีมชาติจีน 0-2 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2018 ก่อนที่ล่าสุดจะถูกเรียกกลับมาอีกครั้ง ในรอบ เกือบ 1 ปีเต็มๆ โดย สารัช กล่าวว่า

“ดีใจ และภูมิใจครับ ที่ได้กลับมาอีกครั้ง บรรยากาศในแคมป์ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน และมีความเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนที่ผ่านมาครับ”

“ผมมองว่า ทีมชุดนี้ มีคุณภาพครับ ทุกคนที่เข้ามา ต่างก็โชว์ฟอร์มในลีกได้ดี ก็เหลือแค่ต้องปรับแท็คติค ตามที่โค้ช (ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย) ต้องการ และความสัมพันธ์ในแง่การเล่นอีกนิดหน่อย เชื่อว่า ทุกคนจะพยายามกันอย่างเต็มที่ครับ รวมถึงพิสูจน์ให้แฟนบอลเห็นว่า คู่ควรกับการมีชื่อเป็น 23 คนในทีมชุดนี้ครับ”

นอกจากนี้กองกลางจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังกล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมา ผมพยายามทำงานหนักอยู่ตลอดครับ คิดเสมอว่า ถ้าโอกาสเข้ามา จะพยายามทำให้สุดความสามารถ และการติดทีมครั้งนี้ ก็สำคัญกับผมมากๆ โดยเฉพาะ ในแง่การพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง แต่ก็อย่างที่บอกครับ ผมจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด”

“ในแง่ความมั่นใจ ยอมรับว่า ยังไม่เหมือนเดิม กับตอนที่ยังไม่เจ็บหนัก และจนถึงตอนนี้ เหตุการณ์วันนั้น ก็ยังอยู่ในหัว ยังรู้สึกระแวงกับสิ่งรอบๆตัว ดังนั้นทุกอย่างยังต้องใช้เวลา และพยายามปรับไปให้ได้ครับ ก็หวังว่า วันหนึ่งผมจะก้าวผ่านมันไปได้จริงๆ รวมถึง เรียกความมั่นใจกลับมาให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในฐานะนักฟุตบอลครับ”

“สุดท้าย ผมอยากฝากแฟนบอลติดตามรายการนี้ครับ แม้เป็นแค่อุ่นเครื่อง แต่ก็เป็นฟีฟ่าเดย์ และมีผลต่อคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ผมยืนยันว่า ทั้งส่วนตัวผม รวมถึงทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าใครที่ได้รับโอกาสลงสนาม ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ ที่สุดครับ” สารัช ปิดท้าย

สำหรับ สารัช อยู่เย็น เผชิญกับอาการบาดเจ็บหนักสุดในชีวิต ในช่วงต้นฤดูกาล 2017 โดยก่อนหน้านั้นช่วย ทีมชาติไทย ประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เป็นกัปตันทีมแชมป์ซีเกมส์ 2015 , ต่อด้วยชุดใหญ่ ที่คว้าแชมป์อาเซียน 2 สมัย ในปี 2014 และ 2016 รวมถึง แชมป์คิงส์คัพ 1 สมัย ในปี 2016

โดย ทีมชาติไทย จะประเดิมพบกับ ทีมชาติจีน (เจ้าภาพ) วันที่ 21 มีนาคม ขณะที่ ทีมชาติอุรุกวัย จะพบกับ ทีมชาติอุซเบกิสถาน วันที่ 22 มีนาคม โดยผู้แพ้ของทั้งสองคู่จะไปเล่นนัดชิงที่สาม และผู้ชนะจะไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 25 มีนาคม วันเดียวกัน


You must be logged in to post a comment Login