วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“บาคาร์ดี”ประกาศผลการแข่งขัน “บาคาร์ดี เลกาซี ค็อกเทลคอมเพททิชั่น 2019”

On March 21, 2019

ตื่นเต้นกันสุดๆ กับการแข่งขัน “บาคาร์ดี เลกาซี ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2019” รอบชิงชนะเลิศ เฟ้นหา 2 สุดยอดบาร์เทนเดอร์ตัวแทนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สู่เวทีระดับโลก โดย บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย ดิ๊กกี้ คัลลิมอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ บาคาร์ดี โกลบอล, มิทเชล ไค ลัม แบรนด์แอมบาสเดอร์บาคาร์ดี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ วิทูล ผดุงศรีสวัสดิ์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จัดการแข่งขัน “บาคาร์ดี เลกาซี ค็อกเทล คอมเพททิชั่น เซาท์อีสเอเชีย แกรนด์ ไฟนอล 2019” (BACARDÍ Legacy Cocktail Competition SEA Grand Final 2019)โดยมีเซเลบริตี้ อาทิ นุชนาถ ระวีแสงสูรย์, ชัญญ ธนเพ็ญชาติ, สวินณา-อัครพงศ์ดาโลดม, วิมลลักษณ์ จงรัตนเมธีกุล, ฐิติพงษ์ ล้อประเสริฐ และ วรวุฒิ โตวิรัตน์ร่วมงานด้วย ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ

4

โดย2 ผู้ชนะรอบชิงชนะเลิศ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี  2562ได้แก่ รณภร คณิวิชาภรณ์ จากประเทศไทย กับสุดยอดค็อกเทล PINK ME UP และ อีดัวอาโดซาโมรา (Eduardo Zamora) จากสิงคโปร์ ที่นำเสนอค็อกเทล MANTENER LE FE (KEEP THE FAITH)ที่ได้สร้างสรรค์ในแบบฉบับของตนเองต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิของวงการและต่อจากนี้2 สุดยอดบาร์เทนเดอร์จะต้องไปประลองฝีมือกับตัวแทนจากชาติต่างๆ ในรอบ “บาคาร์ดี เลกาซี โกลบอล ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 2019” ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในเดือนพฤษภาคม ปีนี้

ดิ๊กกี้ คัลลิมอร์แบรนด์แอมบาสเดอร์บาคาร์ดี โกลบอล กล่าวว่า “การแข่งขัน บาคาร์ดี เลกาซี่ ค็อกเทล” จัดขึ้นเพื่อให้บาร์เทนเดอร์จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้แสดงทักษะและความสามารถในเวทีการแข่งขัน เพื่อที่จะผลักดันตัวเองให้ก้าวไปสู่เวทีระดับโลก รวมถึงการได้รับประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นและถ่ายทอดแรงบันดาลใจให้กับบาร์เทนเดอร์ท่านอื่นๆได้รับรู้เกี่ยวกับการแข่งขันนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นการท้าทายความสามารถของสุดยอดบาร์เทนเดอร์ในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่มีรสชาติกลมกล่อม สดชื่น ชวนหลงใหล ที่จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนานเครื่องดื่มค็อกเทลของบาคาร์ดีที่เป็นที่คุ้นเคยของคนทั่วโลก อย่าง บาคาร์ดี แด็กเคอรี่ (Bacardi Daiquiri)และ ออริจินัล บาคาร์ดี โมจิโต้ (Original Bacardi Mojito)

3

นายมิทเชล ไค ลัมแบรนด์แอมบาสเดอร์บาคาร์ดี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าผู้ชนะเพียง 2 คน จะตัวแทนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแข่งขันในรอบสุดท้าย ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะมีคณะกรรมการผู้ตัดสินในงานนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงชั้นแนวหน้าของวงการ รวมถึงบาร์เทนเดอร์มือฉมังไม่ว่าจะเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน ตะวันออกกลาง และสหราชอาณาจักรสำหรับหลักเกณฑ์ในการตัดสินของคณะกรรมการ ได้แก่ 1. แผนการตลาดของบาร์เทนเดอร์เช่น การโปรโมทค็อกเทลของตัวเองผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การโปรโมทผ่านโซเชียล มีเดีย, ให้บาร์ต่างๆ ขายค็อกเทลของตัวเองเป็นเมนูพิเศษ รวมถึงการไปทำเป็นบาร์เทนเดอร์รับเชิญตามบาร์ต่างๆทั้งในและนอกประเทศ 2. การนำเสนอบนเวทีโดยจะมีกรรมการที่มีชื่อเสียงและความสามารถมาให้คะแนนตัดสินตอนที่ผู้เข้าแข่งขันแสดงทักษะ ความสามารถและการนำเสนอค็อกเทลของตัวเองขณะอยู่บนเวทีเพราะงานนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ “การแข่งขัน” หากแต่เป็นการสร้างโอกาสที่แท้จริงแก่บาร์เทนเดอร์ทุกคนที่ใฝ่ฝันในการเติบโตในสายอาชีพของตนเอง พร้อมผลักดันตนเองให้ก้าวสู่ระดับที่เป็นเลิศ สำหรับบาร์เทนเดอร์หลายๆ คน เลกาซีจึงถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสายอาชีพ เปิดโอกาสสู่ความเป็นสุดยอดบาร์เทนเดอร์ระดับโลก

2

สิ่งที่ผู้ชนะจะได้รับ ได้แก่ เงินรางวัลสำหรับใช้ในการโปรโมทค็อกเทลของตัวเอง และได้โอกาสไปแข่งขันรอบ BACARDÍ Legacy Global Cocktail Competition 2019ณ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ในเดือนพฤษภาคม 2562 โดยทางบาคาร์ดีจะเป็นคนจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดทริป ในฐานะเราที่เป็นผู้จัดงานของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทาง บาคาร์ดี้ ประเทศไทย จึงมีความปรารถนาที่จะเห็นตัวแทนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน BACARDÍ Legacy Global Cocktail Competition 2019

อนาคตที่ก้าวหน้ากับอาชีพบาร์เทนเดอร์

บาคาร์ดี เป็นแบรนด์หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความสำเร็จของครอบครัว ตั้งมั่นอยู่บนความเชื่อของวิวัฒนาการบนแพล็ตฟอร์ม เลกาซี ในการเปิดโอกาสให้แก่บาร์เทนเดอร์ฝีมือเยี่ยมที่มีความทะเยอทะยานด้านการพัฒนาฝีมือของตนเอง ได้สานสัมพันธ์กับพี่น้องร่วมสายอาชีพเดียวกัน เพื่อจุดประสงค์ในการสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นและผลักดันให้แต่ละคนก้าวสู่ความเป็นเลิศในระดับสากล ตัวอย่างของ ผู้ชนะเลิศระดับโลกคนก่อนๆ อย่าง Shingo Gokanซึ่งชีวิตได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จากเป็นแค่ผู้ดูแลบาร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ได้ก้าวสู่ความเป็นเจ้าของของบาร์ 3 ชั้นสไตล์ Speak-easy ณ กรุงเซี่ยงไฮ้ ด้วยความสำเร็จทำให้เขาได้มีโอกสเปิดบาร์แห่งใหม่ๆ แทบทุกปี รวมถึงยังมีโอกาสทัวร์รอบโลกเพื่อจัดเวิร์คช้อป และโปรเจ็คที่ปรึกษาอีกหลายโปรเจ็ค  อีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ชนะเลิศระดับโลก คือ Ran Van Ongenvalleเมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้รับเลือกเข้าทำงานที่บาร์ The Artesian กรุงลอนดอน บาร์ที่เลื่องชื่อที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของบาร์ที่ดีที่สุดในโลก


You must be logged in to post a comment Login