วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นักพนันปิศาจ

On March 22, 2019

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  22-29 มีนาคม  2562)

บุรุษนิรนามปรากฏตัวในกาสิโน เขาไม่ใช่เซียนการพนันและไม่ใช่นักคณิตศาสตร์ เป็นแค่เพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่เขากล้าท้าเจ้าของบ่อนเล่นเกมทอดลูกเต๋าโดยวางเดิมพัน 1 ล้านดอลลาร์ ผลชนะหรือแพ้เกิดจากการทอดลูกเต๋าครั้งเดียวเท่านั้น

คนที่คุ้นเคยกับบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายคงรู้สึกแปลกใจที่มีการวางเดิมพันสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อการเล่นการพนันเพียงรอบเดียว เพราะกาสิโนถูกกฎหมายเกือบทุกแห่งจะตั้ง “เพดาน” การวางเดิมพันต่อครั้งเอาไว้ ทั้งนี้ ไม่ใช่เจ้าของบ่อนกลัวไม่มีเงินจ่าย แต่เพราะเจ้าของบ่อนไม่ต้องการให้นักพนันสิ้นเนื้อประดาตัวในคราวเดียวแล้วเกิดเข็ดขยาด หายหน้าหายตาไปเลย

เจ้าของบ่อนต้องการให้นักพนันเสียเงินในระดับที่พวกเขาพอรับได้ เพื่อที่นักพนันเหล่านั้นจะได้กลับไปทำงานทำการหาเงินมาเล่นแก้ตัวอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้ากาสิโนส่วนใหญ่มีกฎเพดานวงเงินเดิมพัน ทำไมจึงยังมีเจ้าของกาสิโนที่กล้ารับวางเดิมพัน 1 ล้านดอลลาร์ และคนบ้าที่กล้าวางเดิมพันเป็นใคร

นักพนันเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ใช่เซียนพนันเหมือนอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ ไม่ใช่นักคณิตศาสตร์ที่เก่งกาจถึงขั้นสามารถคำนวณความน่าจะเป็นของหน้าลูกเต๋าได้ เขามากาสิโนเพื่อเสี่ยงดวงเหมือนกับนักพนันคนอื่นๆ ต่างกันแค่เพียงเขาวางเงินทั้งหมดที่มีเพื่อเล่นเกมทอดลูกเต๋าเพียงรอบเดียว ขณะที่เจ้าของบ่อนมีประวัติไม่ธรรมดาจึงกล้ารับท้าเดิมพันบ้าระห่ำครั้งนี้

เจ้าพ่อตัวจริง

กาสิโนที่มีการเล่นเกมทอดลูกเต๋าวางเดิมพันสูงที่สุดในโลกครั้งนี้ชื่อว่า “บิเนียน ฮอร์สชู” เจ้าของชื่อ เลสเตอร์ เบน บิเนียน หรือที่นิยมเรียกสั้นๆว่า เบนนี บิเนียน ก่อนจะมาเป็นเจ้าของกาสิโน เบนนีมีประวัติค่อนข้างโชกโชนในแฟ้มอาชญากรของ FBI แต่เขาสามารถหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไปได้ทุกครั้ง

เบนนีร่ำรวยมาจากธุรกิจค้าเหล้าเถื่อนและเป็นเจ้ามือหวยเถื่อน ขยายกิจการเข้ามาในวงการเกมทอดลูกเต๋าเมื่อปี 1936 ช่วงเวลาเพียงแค่สิ้นปีเบนนีก็กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในธุรกิจบ่อนกาสิโนของเมืองแดลลัส รัฐเทกซัส เนื่องจากมีนักการเมืองท้องถิ่นคอยหนุนหลัง

ปี 1946 มีการเลือกตั้งเปลี่ยนตัวนายอำเภอคนใหม่ เบนนีถูกบีบให้หนีออกจากเมืองแดลลัส เขาลี้ภัยมาตั้งหลักที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา เบนนีสังหารเจ้าของกาสิโนแห่งหนึ่งก่อนจะสวมรอยเข้ารวบกิจการกาสิโน ต่อมาเขาวิ่งเต้นจนได้รับใบอนุญาตเปิดกาสิโนในปี 1951 เบนนีซื้อโรงแรมอะแพชีแล้วปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นสถานกาสิโนเบนนี ฮอร์สชู สถานที่ที่เกิดการเดิมพันครั้งประวัติศาสตร์ของเรื่องนี้

การเล่นเกมทอดลูกเต๋าผู้ชนะสามารถเพิ่มเงินเดิมพันได้เท่าตัว แต่กาสิโนส่วนใหญ่จะตั้งกฎให้เพิ่มเงินเดิมพันได้ไม่เกิน 4 ครั้ง และตั้งเพดานเงินเดิมพันไว้สูงสุดที่ 50 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าหากเล่นเกมทอดลูกเต๋าบนโต๊ะ 10 ดอลลาร์ ถ้านักพนันชนะครั้งแรกจะสามารถเอาเงินที่ชนะโปะทับลงไปกลายเป็น 20 ดอลลาร์ ถ้าชนะครั้งที่ 2 อีกก็เอาเงินเดิมพันโปะทับลงไปอีกกลายเป็น 40 ดอลลาร์ หากนักพนันชนะอีกและต้องการโปะเงินเดิมพัน คราวนี้เขาเพิ่มได้สูงสุดแค่ 50 ดอลลาร์เท่านั้น ดังนั้น เงินเดิมพันการเล่นครั้งที่ 4 จะอั้นไว้แค่ 50 ดอลลาร์

จ่ายมากกว่า

กาสิโนเบนนี ฮอร์สชู มีกฎการวางเดิมพันแตกต่างจากกาสิโนอื่น โดยอนุญาตให้นักพนันดับเบิลเงินเดิมพันได้สูงสุดถึง 500 ดอลลาร์ หรือมากกว่ากาสิโนแห่งอื่นถึง 10 เท่า สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของกาสิโนคนอื่น เพราะนักพนันแห่มาเล่นแต่ที่กาสิโนเบนนี ฮอร์สชู เนื่องจากจ่าย (เสีย) มากกว่ากาสิโนแห่งอื่น

เห็นได้ชัดว่าการขยายเพดานวางเดิมพันสามารถจูงใจให้นักพนันเข้ากาสิโนได้ดีสุด เบนนีจึงขยายเพดานให้สูงขึ้นไปอีกจนถึง 10,000 ดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของนักพนันบางคน โดยเฉพาะชายนิรนามคนหนึ่งที่เอ่ยปากถามเบนนีว่ากล้ารับวางเดิมพัน 1 ล้านดอลลาร์ในการเล่นเกมทอดลูกเต๋าครั้งแรกไหม เบนนีตอบแบบไม่ต้องคิดว่า อยากวางเดิมพันครั้งแรกเท่าไรก็วางได้เลย

หลายเดือนผ่านไป วันที่ 24 กันยายน 1980 ชายนิรนามคนเดิมปรากฏตัวอีกครั้งที่กาสิโนเบนนี ฮอร์สชู พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ กระเป๋าใบหนึ่งบรรจุธนบัตรจำนวน 777,000 ดอลลาร์ ส่วนกระเป๋าอีกใบว่างเปล่า เขาเปิดกระเป๋าที่บรรจุธนบัตรบนโต๊ะเกมทอดลูกเต๋า (Craps) ไม่ต้องเสียเวลาไปแลกชิพ เพราะเขาจะเล่นเกมทอดลูกเต๋าเพียงรอบเดียวเท่านั้น

ชายนิรนามในชุดสูทสีเทา สวมแว่นตาหนาเตอะ เอ่ยปากขอโทษเบนนีที่หาเงินมาได้ไม่ครบ 1 ล้านดอลลาร์ หามาได้แค่เพียง 777,000 ดอลลาร์ เขาวางเงินเดิมพันทั้งหมดที่มีเล่นเกมทอดลูกเต๋าแครปส์ โดยแทงช่อง “Don’t Pass Line”

เกมแครปส์

เกมทอดลูกเต๋าแครปส์เป็นเกมเล่นง่ายๆไม่ซับซ้อน แค่นับแต้มบนหน้าลูกเต๋า 2 ลูกหลังจากถูกทอดลงบนโต๊ะ แต่ค่อนข้างมีรายละเอียดในการวางเดิมพันเยอะพอสมควร การทายแต้มลูกเต๋าสามารถทำได้หลากหลายวิธี อัตราการจ่ายก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความยากหรือง่ายของแต้มที่ออก

นักพนันส่วนใหญ่จะเลือกทายแต้มแบบง่ายที่สุดคือ วางเดิมพันในช่อง Pass Line หรือไม่ก็ช่อง Don’t Pass Line ในที่นี้จะขออธิบายการทายแต้มช่อง Don’t Pass Line เท่านั้น จะได้นึกภาพออกว่าชายนิรนามมีโอกาสชนะเจ้ามือมากน้อยแค่ไหน

Don’t Pass Line นักพนันชนะหากลูกเต๋าออกแต้ม 2 หรือ 3 หรือ 12 ในการทอดลูกเต๋าครั้งแรก แต่ถ้าออกแต้ม 7 หรือ 11 นักพนันแพ้ ทั้ง 2 กรณีถือว่าจบเกมไม่ต้องเล่นต่อ แต่ถ้าออกแต้มอื่น (4, 5, 6, 8, 9, 10) เจ้ามือจะเอาหมุดปักลงที่เลขนั้นเพื่อแสดงให้รู้ว่าแต้มนี้ออกแล้ว เรียกว่าแต้ม Point จากนั้นให้ทอดลูกเต๋าครั้งต่อๆไปจนกว่าจะได้แต้ม 7

นักพนันชนะหากแต้ม 7 ออกก่อนได้แต้ม Point ครบทุกเลข แต่นักพนันแพ้หากแต้ม 7 ปรากฏหลังจากที่ได้แต้ม Point ครบทุกเลขแล้ว แต่อย่างที่บอกไว้แล้วว่าวิธีทายแต้มมีอีกหลากหลายวิธี โต๊ะแครปส์มีนักพนันคนอื่นๆด้วย ส่วนใหญ่จะอั้นจำนวนไว้ไม่เกิน 20 คนต่อโต๊ะ พวกเขาอาจเลือกวางเดิมพันแบบอื่นที่ไม่ใช่ Don’t Pass Line ดังนั้น การทอดลูกเต๋าทุกครั้งอาจมีผลได้เสียกับนักพนันคนอื่น

มาเร็วไปเร็ว

การเล่นเกมทอดลูกเต๋าแครปส์ สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือเจ้ามือไม่ได้เป็นคนทอดลูกเต๋า นักพนันที่ยืนรอบโต๊ะเป็นคนทอดลูกเต๋า โดยทุกคนมีสิทธิได้ทอดลูกเต๋าเมื่อถึงรอบของตน หรืออาจจะขอข้ามไม่ทอดลูกเต๋าก็ได้

หลังจากชายนิรนามวางเดิมพัน 777,000 ดอลลาร์ในช่อง Don’t Pass Line หญิงนักพนันทำหน้าที่ทอดลูกเต๋าได้แต้ม 6 ซึ่งเป็นแต้ม Point เธอทอดลูกเต๋าครั้งที่สองได้แต้ม 9 ซึ่งเป็นแต้ม Point เช่นกัน เมื่อเธอทอดลูกเต๋าครั้งที่สามได้แต้ม 7 ผู้วางเดิมพันในช่อง Don’t Pass Line ชนะ เพราะลูกเต๋าออกแต้ม 7 ก่อนที่จะได้แต้ม Point ครบ

ในเวลานั้น เท็ด บิเนียน ครองกิจการกาสิโนแทนเบนนีผู้เป็นพ่อ เนื่องจากเบนนีถูกฟ้องร้องคดีหลีกเลี่ยงภาษีทำให้ถูกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการกาสิโน เท็ดสั่งเจ้าหน้าที่นับเงิน 777,000 ดอลลาร์จ่ายให้กับชายนิรนาม บรรจุลงในกระเป๋าเดินทางใบที่ว่างเปล่า เท็ดเดินไปส่งชายนิรนามที่รถก่อนที่เขาจะจากไปโดยไม่มีใครรู้ว่าชายผู้นี้เป็นใครมาจากไหน จึงเรียกขานเขาว่า Phantom Gambler (นักพนันปิศาจ) ขณะที่บางคนก็เรียกเขาว่า Suitcase Man (ชายผู้มากับกระเป๋าเดินทาง)

ได้แล้วติดใจ

วิลเลี่ยม ลี เบิร์กสตรอม เกิดที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส เมื่อปี 1951 ประกอบอาชีพเป็นนายหน้าขายบ้าน จนกระทั่งวันหนึ่งในทศวรรษ 1970 วิลเลี่ยมได้ยินข่าวว่ากาสิโนเบนนี ฮอร์สชู ในเมืองลาสเวกัส ไม่มีกฎตั้งเพดานวงเงินสำหรับการวางเดิมพันครั้งแรก ซึ่งนักพนันส่วนใหญ่ไม่กล้าเสี่ยงดวงวางเดิมพันด้วยเงินทั้งหมดที่มีกับการเล่นครั้งแรกครั้งเดียว แต่วิลเลี่ยมคิดแตกต่างจากคนทั่วไป

วิลเลี่ยมเก็บรวบรวมเงินได้จำนวน 777,000 ดอลลาร์ เดินทางไปเล่นเกมทอดลูกเต๋าแครปส์และชนะจากการทอดลูกเต๋าเพียง 3 ครั้ง จากนั้นก็หายหน้าหายตาไปกว่า 3 ปีครึ่ง จนกระทั่งวันที่ 24 มีนาคม 1984 วิลเลี่ยมกลับมาที่กาสิโนเบนนี ฮอร์สชู พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง 2 ใบอีกครั้ง

เขาตรงไปที่โต๊ะทอดลูกเต๋าวางเดิมพัน 538,000 ดอลลาร์ลงในช่อง Don’t Pass Line เหมือนเช่นเคย และวิลเลี่ยมก็ชนะเหมือนครั้งก่อน แต่คราวนี้ไม่ได้กลับโดยทันที วิลเลี่ยมตัดสินใจวางเดิมพันในช่อง Don’t Pass Line อีก 3 รอบ ได้เงินเพิ่มมาอีก 117,000 ดอลลาร์ ก่อนจะเดินจากไปเงียบๆเหมือนที่เคยทำ

เดิมพันครั้งประวัติศาสตร์เกิดขึ้นหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน วิลเลี่ยมเดินทางมาที่กาสิโนเบนนี ฮอร์สชู เป็นครั้งที่ 3 พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง 2 ใบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1984 ภายในกระเป๋าเดินทางบรรจุธนบัตรจำนวน 550,000 ดอลลาร์ เหรียญทองคำเงินตราประเทศแอฟริกาใต้มูลค่า 140,000 ดอลลาร์ และแคชเชียร์เช็คระบุจำนวนเงิน 310,000 ดอลลาร์ รวมทั้งสิ้น 1 ล้านดอลลาร์พอดิบพอดี นับเป็นเงินจำนวนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์การวางเดิมพันเกมทอดลูกเต๋า

เช่นเคยวิลเลี่ยมวางเดิมพันทั้งหมดลงในช่อง Don’t Pass Line ผู้เล่นทอดลูกเต๋าครั้งแรก และแต้มที่ออกคือ 7 ผู้วางเดิมพันในช่อง Don’t Pass Line แพ้โดยทันที วิลเลี่ยมสูญเงิน 1 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากการทอดลูกเต๋าแค่ครั้งเดียว

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1985 มีผู้พบร่างวิลเลี่ยมในโรงแรมมาริน่า ห้องหมายเลข 442 เสียชีวิตจากการกินยาเกินขนาด แต่สาเหตุไม่ได้เกิดจากเสียพนันจนหมดเนื้อหมดตัว เพราะพบว่าเขายังคงมีเงินฝากอยู่ในธนาคารกว่า 6 แสนดอลลาร์ น้องชายวิลเลี่ยมเชื่อว่าเขาปลิดชีวิตตัวเองเพราะผิดหวังในความรัก

วิลเลี่ยมเขียนจดหมายสั่งลา บอกให้น้องชายสลักข้อความลงบนโกศว่า “นักพนันปิศาจแห่งฮอร์สชู ผู้ที่วางเดิมพัน 1 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1984 ให้บันทึกนี้แสดงว่าเขาวางเดิมพันด้วยทุกอย่างที่มีและกลับกลายไปเป็นผี”

1

1.เบนนี บิเนียน

2

2.วิลเลี่ยม ลี เบิร์กสตรอม

3

3.เท็ด บิเนียน

4

4.เบนนีและลูกสาวกับเงิน 1 ล้านดอลลาร์

5

5.โรงแรมอะแพชีก่อนเปลี่ยนเป็นกาสิโน

6

6.โรงแรมอะแพชีหลังปรับปรุงเป็นกาสิโนเต็มรูปแบบ

7

7.กาสิโนเบนนี ฮอร์สชู ในปัจจุบัน

8

8.จอห์นนี ชาน ชนะเงิน 10,000 ดอลลาร์จากกฎไม่มีเพดาน

9

9.เกมแครปส์สามารถวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบ

10

10.ผู้เล่นเกมแครปส์เลือกวางเดิมพันแตกต่างกัน


You must be logged in to post a comment Login