- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 10 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
“พรรคไทยศรีวิไลย์” ปราศรัยใหญ่ สกลนคร เผยแม้เป็นพรรคเล็กแต่ใจสู้
ขอโอกาสแก้กฎหมายลงโทษนักการเมืองโกงขั้นเด็ดขาด ชี้จับตา
คืนหมาหอนก่อนเลือกตั้งเงินอัดฉีดพุ่ง
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2562 ที่สนามกีฬาข้างศูนย์พัฒนา ต.หนองหลวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พรรคไทยศรีวิไลย์ได้มีการจัดปราศรัยใหญ่ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยถึงกลยุทธ์ของพรรคไทยศรีวิไลย์ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. 224 เขต ใน 51 จังหวัดทั่วประเทศ และส่งผู้สมัครในเขต กทม. ทั้งหมด 19 เขต โดยการปราศรัยที่อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เป็นเขตพื้นที่ที่พรรคคาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะ รวมถึงพื้นที่อื่นอีกกว่า 10 เขต ที่พรรคคาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ที่ผ่านมาตนเองได้พบความผิดปกติ โดยจากการสอบถามประชาชน 10 คน มีผู้เลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ 4 คน ซึ่งเป็นกระแสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งในช่วงนี้มีการยิงกระสุนนัดสุดท้าย มีบางพรรคยิงกระสุนตั้งแต่ 500 บาท 800 บาท จนถึง 1,000 บาท และในวันเสาร์นี้(23 มี.ค.) จะมีการยิงกระสุนนัดสุดท้าย แต่ในส่วนของพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่มีการใช้กระสุนมีแตการสื่อสารกับประชาชนผ่านทางเฟซบุ๊ก ยูทูป และการปราศรัยใน 3 เวทีติดต่อกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ไปปราศรัยที่จังหวัดชุมพร ส่วนวันที่ 21 มีนาคม มีการปราศรัยที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
พร้อมทั้งมีการนำเสนอนโยบายหลัก 10 ด้าน เช่น การใช้น้ำมันลิตรละ 19 บาท การเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ยกระดับค่าครองชีพของประชาชนให้สูงขึ้น และลดรายจ่ายให้ประชาชน ที่สำคัญยังมีนโยบายปราบโกงอย่างถึงที่สุด
โดยในการปราศรัยครั้งนี้ได้มีพิธีไว้อาลัยให้กับผู้สมัครจังหวัดอุดรธานีที่ทำการหาเสียงจนตัวเองเสียชีวิตและมีพิธีการขอขมานักการเมืองถึงนักธุรกิจที่มีพฤติกรรมโกงชาติ เพราะเมื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ได้รับโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรจะเข้าไปแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 148 ซึ่งจากเดิมมีโทษจำคุกผู้กระทำการทุจริตตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต แต่ในทางปฏิบัติ ยังไม่เคยมีใครได้รับโทษประหาร จึงอยากแก้กฎหมายให้มีเพียงโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่กระทำการทุจริตเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะมีการดำเนินคดีกับนักการเมืองที่ทุจริต แต่ไม่นานก็ได้รับการประกันตัวหรือได้รับการปล่อยตัวออกมา เราอยากทำเหมือนกับนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จัดการขั้นเด็ดขาดกับนักการเมืองที่ทุจริต ซึ่งเห็นว่าควรทำการประหารนักการเมืองโกงอย่างน้อย 5,000 ชีวิต เพื่อให้บ้านเมืองมีความเจริญมากกว่านี้และไม่ให้มีนักการเมืองที่โกงเข้ามาบริหารประเทศอีกต่อไป พร้อมทั้งต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน เพราะเห็นว่าควรแก่เวลาแล้ว หลังจากที่ได้บริหารประเทศด้วยความไม่สุจริตมาเป็นเวลามากกว่า 5 ปี
ทั้งนี้ พรรคไทยศรีวิไลย์เป็นพรรคติดอันดับ 20 พรรคการเมืองที่ใช้เงินทุนน้อยที่สุด เนื่องจากพรรคอื่นมีการใช้เงินตั้งแต่หลักร้อยล้านจนถึง 50,000 ล้านบาท ซึ่งมีพรรคใหญ่พรรคหนึ่งที่มีอำนาจใช้เงินสูงถึงมากกว่า 50,000 ล้านบาท โดยใช้เงินในการเลือกตั้งเขตละประมาณ 80 ล้านบาท ขณะที่การจัดเวทีปราศรัยในแต่ละครั้งใช้เงินไม่น้อยกว่า 40 – 50 ล้านบาท ถือว่าผิดกฎหมายการเลือกตั้ง จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. เข้ามาตรวจสอบการใช้เงินในลักษณะดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้พรรคไทยศรีวิไลย์จะใช้เงินในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นจำนวนน้อยกว่าพรรคอื่น แต่ก็เป็นพรรคที่ใจสู้ที่สุดและใจถึงที่สุด เพราะที่ผ่านมาได้รับเงินบริจาคจากประชาชนตั้งแต่ 5 บาทจนถึงหลักล้านบาท ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคในแต่ละเขตก็ต้องใช้เงินของตัวเองในการทำกิจกรรมทางการเมือง โดยผู้สมัครบางคนรวมทั้งตนเองต้องนำทรัพย์สินที่มีไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อให้มีเงินทุนในการทำกิจกรรมทางการเมือง แต่เราก็พร้อมสู้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน จึงอยากขอโอกาสประชาชนในการเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ให้มากที่สุด เพื่อเข้าไปแก้ไขการบริหารจัดการงบประมาณไม่ให้มีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น และแก้ไขกฎหมายต่างๆ โดยพรรคมีแนวทาง จะไปทาบทาม ส.ส. ที่ไม่มีคดีทุจริตให้มาร่วมกับพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการปราศรัยใหญ่ พรรรคไทยศรีวิไลย์ ณ สนามกีฬาข้างศูนย์พัฒนา ต.หนองหลวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พบว่ามีประชาชนมารับฟังมากกว่า 4,000 คน
You must be logged in to post a comment Login