- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ฝันกลางแดด
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 28 มี.ค. 62)
ภาพการแถลงข่าวร่วมลงสัตยาบันจัดตั้งรัฐบาลของ 6 พรรคการเมืองที่รวมเสียงว่าที่ ส.ส. ได้เกินกว่าครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเป็นกติกาเก่าถือว่าจบ แต่ด้วยกติกาใหม่ที่ออกแบบมาอย่างแยบยลเป็นอย่างดี ทำให้สัตยาบันที่ร่วมลงนามกันไว้แทบไม่มีความหมาย ด่านสำคัญของเกมชิงอำนาจรัฐอยู่ที่ผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องย้ำกันอีกทีว่าทุกคนรู้คำตอบดีแก่ใจแล้วว่าผลจะออกมาอย่างไร ที่หวังจะใช้เสียงข้างมากในสภาล่างกดดัน ส.ว.ลากตั้งในการโหวตเลือกนายกฯเป็นเรื่องฝันกลางแดด ไม่มีทางเกิดได้จริง “ส.ว. เราตั้งมาเราก็ต้องคุมได้สิ” จำได้หรือไม่ว่าใครพูดไว้ นี่คือของจริงที่ไม่ต้องลงสัตยาบัน
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แม้จะมีความเคลื่อนไหว ความคืบหน้าให้เห็นรายวัน พอเป็นกระสายให้กองเชียร์แต่ละฝ่ายได้ชุ่มชื่นหัวใจ
แต่เชื่อว่าทุกคนรู้คำตอบสุดท้ายดีอยู่แล้วว่าหน้าตาคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นอย่างไร
การตั้งโต๊ะแถลงข่าวร่วมกันลงสัตยาบันจัดตั้งรัฐบาลของ 6 พรรคการเมืองที่อ้างว่ารวมว่าที่ ส.ส. ได้ 255 เสียง เกินครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร
ถ้าเป็นกติกาเก่าถือว่าทุกอย่างจบ
แต่เมื่อกติกาใหม่กำหนดให้ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย แค่ 255 เสียง ส.ส. จึงไม่พอที่จะชนะโหวตเลือกนายกฯในสภา
นอกจากนี้แม้จะมีสัตยาบันร่วมกัน แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า 255 เสียงจะมีความเหนียวแน่นมั่นคง เมื่อในอดีตที่ผ่านมามีสัตยาบันทางการเมืองถูกฉีกทิ้งให้เห็นมาแล้วหลายฉบับ
ที่สำคัญที่สุดคือ 255 เสียงที่ว่านั้นยังเป็นแค่ลม เป็นแค่ว่าที่ ส.ส. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้ออกใบรับรองให้ไปรายงานตัวเป็น ส.ส. ต่อสภาอย่างเป็นทางการ
กกต. กำหนดไทม์ไลน์ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเอาไว้วันที่ 9 พฤษภาคม จากวันนี้จนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม ทุกอย่างยังเปลี่ยนแปลงได้
ตัวเลข 255 เสียงถือว่ามีความหมิ่นเหม่ หากว่าที่ ส.ส. ของ 6 พรรคที่ร่วมลงสัตยาบันกันโดนใบแดงสัก 5-6 ใบ เสียงสนับสนุนก็จะลดลงเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสภา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะโดนมากกว่านั้น
นี่ยังไม่รวมพวกว่าที่ ส.ส. ที่พร้อมลอกคราบกลายร่างเป็นงูเห่า
อย่างไรเสียเสียงของ 2 พรรคขนาดกลางอย่างประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยก็ยังเป็นเสียงชี้ขาดอยู่ดีว่าฝ่ายไหนจะได้ตั้งรัฐบาล
ด่านสำคัญของเกมชิงอำนาจรัฐครั้งนี้อยู่ที่ผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องย้ำกันอีกทีว่าทุกคนรู้คำตอบดีแก่ใจแล้วว่าผลจะออกมาอย่างไร
ฝ่ายที่ถือไพ่ได้เปรียบอยู่จึงไม่ได้หวั่นไหวอะไรกับสัตยาบันที่ลงกัน เพราะต่อให้ไม่มีใครแตกแถวเลยก็ไม่มีทางชนะโหวตเลือกนายกฯ ที่หวังจะใช้เสียงข้างมากในสภาล่างไปกดดันให้ ส.ว.ลากตั้งโหวตเลือกตัวแทนของ 6 พรรคเป็นเรื่องฝันกลางแดด ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง
“ส.ว. เราตั้งมา เราก็ต้องคุมได้สิ” จำได้หรือไม่ว่าใครพูดไว้
นี่คือของจริงที่ไม่ต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวลงสัตยาบัน
You must be logged in to post a comment Login