- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 2 hours ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 23 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
“นิพิฏฐ์”เปิดคลิป-แชทไลน์ขบวนการโกงเลือกตั้งภาคใต้จี้กกต.สอบ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รักษาการรองหัวหน้าพรรคและอดีตผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง เขต 2 แถลงข่าวเรียกร้องให้ประชาชนเป็นลูกขุนให้กับคดีการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งในภาคใต้ หลังจากที่ตนได้ไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สอบสวนเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ตนไม่ได้รังเกียจการซื้อเสียง แต่รู้สึกขยะแขยง ตนไม่ขอระบุว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ไหน แต่ยืนยันว่ามีจริงตามข้อมูลที่มีในขณะนี้ที่มาขอร้องให้ประชาชนเป็นลูกขุนตรวจสอบการวินิจฉัยของ กกต. ว่าจะขัดกับคำวินิจฉัยของประชาชนหรือไม่ จากที่ตนได้ยื่นหลักฐานไปยัง กกต. ประกอบด้วย บันทึกสนทนาของกลุ่มไลน์กลุ่มหนึ่งซึ่งมีสมาชิกจำนวน 388 คน โดยเป็นเนื้อหาการสนทนาเกี่ยวกับการรวบรวมบัตรประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมการทุจริตการเลือกตั้ง มีการย้ำว่าทุกขั้นตอนอย่าประมาท เพราะเรากำลังสู้กับกฏหมาย ซึ่งปรกติประชาชนต้องคล้อยตามและปฏิบัติตามกฏหมาย แต่กลุ่มไลน์นี้กลับบอกว่าเรากำลังสู้กับกฏหมายและให้ระวังแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย นอกจากนี้ตนยังมีหลักฐานบันทึกสนทนาของกลุ่มไลน์อีกหนึ่งกลุ่มเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแจ้งเตือนจากกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรคการเมืองหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มด้วย โดยบอกกับสมาชิกในกลุ่มให้ระวัง เนื่องจากตนกำลังจับตาตรวจสอบอยู่ โดยประกาศให้รางวัลกับคนที่เก็บบัตรประชาชนหัวละ 10 บาท แสดงว่า กก.บห. คนนี้รู้ถึงกระบวนการโดยไม่ได้ห้ามปราม
นายนิพิฏฐ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบันทึกข้อความจากไลน์อีกหนึ่งกลุ่มมีใจความว่า “หากใครถูกจับช่วงแจกเงินให้บอกว่าเป็นเงินของพรรคประชาธิปัตย์ ผมถูกตำรวจจับผมก็พูดว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ท” ถือเป็นการใส่ร้ายตามกฏหมายเลือกตั้ง ส.ส. และผู้สมัครในกลุ่มไลน์นี้ก็ไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านว่าการใส่ร้ายเช่นนี้ไม่ถูกต้อง เท่ากับยอมรับวิธีการใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์และผู้สม้คร และหลังจากที่ตนนำข้อความดังกล่าวมาโพสต์มีการลบข้อความดังกล่าวออกไป แต่ตนได้เก็บหลักฐานไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีหลักฐานเป็นสมุดบัญชีการจ่ายเงินให้กับประชาชนเจ้าของบัตร โดยมีการระบุรายละเอียด เช่น จำนวนสมาชิกในครอบครัว ยอดจำนวนเงิน และสัญลักษณ์การจ่ายเงินแล้ว โดยทั้งหมดมีการรวบรวมบัตรประชาชนประมาณ 50,000 ใบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฏฐ์ยังได้เปิดคลิปวิดีโอตอนหนึ่งขณะที่หัวคะแนนกำลังจ่ายเงินให้กับชาวบ้าน ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นการพูดคุยภาษาใต้ใจความสรุปว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 9 พร้อมจ่ายเงิน 500 บาท และยังบอกด้วยว่าหากพรรคไหนจ่ายก็รับไปเลย แต่ขอให้เลือกเบอร์ 9
“จะเห็นว่าจากที่เขารวบรวมบัตรได้ประมาณ 50,000 ใบ หัวละ 500 บาท ร่วมๆจ่าย 30-50 ล้านบาทจริงๆ จนนำเขาไปสู่เป้าหมาย แต่สิ่งที่อยากเน้นคือ กกต. กล้าหรือไม่ เมื่อ กก.บห.พรรครู้เห็น และกระบวนการเก็บบัตรเป็นที่มาของการซื้อเสียงจริงๆ หมายความว่า กก.บห. เป็นผู้รู้เห็น แต่ไม่ได้แก้ไขยับยั้ง เท่ากับมีเหตุผลหนักแน่นเพียงพอที่จะยุบพรรค จึงอยากให้ กกต. ตั้งชุดเฉพาะกิจไปสอบเรื่องนี้ในพื้นที่ เพราะผมไม่รู้ว่า กกต. ในพื้นที่และพนักงานสอบสวนที่ได้นัดผมไปสอบในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคมที่พัทลุงนั้น จะตรวจสอบพลาดหรือไปถึงจุดนั้นหรือไม่” นายนิพิฏฐ์กล่าว
เมื่อถามว่านอกจากพื้นที่ที่ปรากฏหลักฐานในวันนี้ยังมีเขตเลือกตั้งอื่นที่มีการกระทำดังกล่าวเช่นเดียวกันอีกหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ทราบว่ามีในพื้นที่จ.สตูล เขต 2 และ จ.สงขลา เขต 7 ซึ่งเป็นการกระทำทุจริตจากพรรคเดียวกันกับกรณีที่ตนนำมาเปิดเผย โดยทำเป็นขบวนการเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ และพรรคดังกล่าวก็รู้ว่า กก.บห. ของเขารับทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคในพื้นที่จะเป็นผู้นำหลักฐานไปยื่น กกต. ต่อไป และหากสิ่งที่ตนนำมาร้องเรียน สุดท้ายแล้วพบว่ามีความผิดจริงก็ต้องมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้น แต่กรณีนี้เกี่ยวข้องกับ กก.บห. ดังกล่าวก็ต้องมีการยุบพรรคนั้น
เมื่อถามต่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้เกิดข้อผิดพลาดและปัญหาในการทุจริตในหลายพื้นที่ คิดว่าพอจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้กลายเป็นโมฆะได้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การทุจริตซื้อเสียงในการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงบางเขตเลือกตั้ง จึงไม่มีผลที่จะทำให้การเลือกตั้งทั้งหมดกลายเป็นโมฆะ แต่ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูแลภาคใต้ได้เคยกำชับสมาชิกพรรคในแต่ละเขตว่าให้สังเกตและหาพยานหลักฐานในเรื่องการซื้อเสียงเลือกตั้งเอาไว้ แต่การหาพยานหลักฐานและเอกสารที่จะมายืนยันเรื่องการซื้อเสียงนั้นเป็นเรื่องยากมาก เพราะต้องใช้คนที่กล้าทำและรู้จริงๆเท่านั้น โดยเราใช้ทั้งประชาชนธรรมดาและบุคคลในเครื่องแบบมาช่วยดำเนินการเก็บพยานหลักฐานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนยังมีหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอบันทึกภาพการกระทำทุจริตอีกหลายชิ้น ซึ่งคลิปที่นำมาเปิดเผยในวันนี้ (29 มีนาคม) เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
You must be logged in to post a comment Login