- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 20 mins ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 22 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
กกต.ยันไม่มีการตกแต่งตัวเลขคาดมีใบแดงก่อน9พ.ค.
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยนายกฤช กล่าวว่า ขอชี้แจงใน 4 ประเด็นที่มีข้อสงสัย
1.กรณีมีผู้สงสัยว่า ตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ ประธาน กกต. แถลงในวันที่ 24 มี.ค. จำนวน 51,205,624 คน กับตัวเลขที่ตนแถลงเมื่อวันที่ 28 มี.ค. จำนวน 51,239,638 คน มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 34,014 คน อย่างผิดปกตินั้น ขอชี้แจงว่าที่ประธาน กกต. แถลงเป็นการแถลงเป็นตัวเลขซึ่งมาจากการคีย์ข้อมูลเข้ามาของกรรมการประจำหน่วยผ่านระบบแรพพิทรีพอร์ต ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อมูลที่ตนแถลงเป็นข้อมูลจากเอกสารการรายงานผลอย่างเป็นทางการ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้ง 350 เขตเลือกตั้งส่งข้อมูลเข้ามา
2. กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ กกต.แถลงเมื่อวันที่ 28 มี.ค. จึงเพิ่มขึ้นถึง 4.5 ล้านฉบับ เมื่อเทียบกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่นับถึงร้อยละ 93 ที่ประธาน กกต. แถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. นั้น ขอชี้แจงว่าที่ประธาน กกต. แถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค. นั้นเป็นข้อมูลตามที่ระบบรายงานผลได้รายงานอยู่ที่ร้อยละ 92-93 แต่ที่ กกต. แถลงเมื่อวันที่ 28 มี.ค.นั้น มีการรวมผลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีผู้มาใช้สิทธิ์ราว 2.3 ล้านคน รวมถึงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มีผู้มาใช้สิทธิ์ราว 1 แสนคน เมื่อตัวเลขดังกล่าวทบเข้าไป จะทำให้จำนวนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เพราะกระบวนการทั้งหมดมีการตรวจสอบตั้งแต่หน่วยเลือกตั้ง มีการประกาศผลที่หน่วยเลือกตั้งจำนวนบัตรที่ใช้ บัตรที่เหลือ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ และเชื่อว่าผู้สมัครทุกคนได้บันทึกข้อมูลเหล่านั้นไว้ทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครไปเพิ่มผลคะแนนตัวเลขได้
3. กรณีมีข้อสงสัยว่าทำไมผู้มาใช้สิทธิจำนวน 38,268,375 คน กับบัตรเลือกตั้งที่ใช้ 38,268,366 ใบ จึงต่างกันอยู่ 9 ใบ ตรงนี้หากมองอีกแง่หนึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันว่า กกต. ไม่ได้มีการตกแต่งตัวเลขแต่อย่างใด ตัวเลขมาจากจังหวัดอย่างไร เราก็รายงานอย่างนั้น ส่วนจำนวนบัตรเลือกตั้งที่น้อยกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 9 ใบนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เท่าที่มีพูดคุยกันในคณะทำงานคาดว่าเกิดจากการบันทึกข้อมูลผู้มาใช้สิทธิ์ลงในแบบ ส.ส.1/3 อาจคลาดเคลื่อน หรืออาจมีการนับคลาดเคลื่อน เพราะต่างกันแค่ 9 ใบ แต่ยืนยันว่าผลต่างดังกล่าวไม่กระทบต่อคะแนนของผู้สมัครแต่อย่างใด ซึ่ง กกต. จะได้ตรวจสอบว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป
4. เรื่องจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้มากกว่าจำนวนรวมของบัตรดี บัตรเสีย และบัตรที่ไม่ประสงค์ลงคะแนน โดยต่างกันอยู่ 2 ใบนั้น ขอชี้แจงว่าจากการพูดคุยในคณะทำงาน คาดว่าอาจมีการนับบัตรที่ใช้ไปจากต้นขั้วบัตรคลาดเคลื่อนไป แต่ก็จะตรวจสอบก่อนว่าเกิดขึ้นในหน่วยเลือกตั้งใด และจะรายงานให้ กกต. พิจารณาดำเนินการต่อไป
กกต. ถูกตั้งคำถามมาก จึงอยากออกมาชี้แจง เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย
เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส. มาร้องเรื่องการวินิจฉัยบัตรของกรรมการประจำหน่วย ซึ่งขอให้มีการนับคะแนนใหม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า การร้องให้นับคะแนนใหม่เป็นรายหน่วยสามารถยื่นร้องได้ ซึ่งขณะนี้มีการร้องคัดค้านการเลือกตั้งจำนวน 186 คดี และ 7 เรื่องเป็นการคัดค้านการนับคะแนน แต่ถ้าจะให้นับคะแนนใหม่ทั้งประเทศนั้น กฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำได้ อย่างไรก็ตามในการร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ หากไม่ร้องในระหว่างที่มีการนับคะแนนก็สามารถร้องภายหลังการเลือกตั้งได้
ส่วนเรื่องการประกาศผลร้อยละ 95 ในวันที่ 9 พ.ค.นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ชี้แจงว่า กฎหมายกำหนดว่าหลังกฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ ให้จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 9 พ.ค. ถ้าหากเห็นว่าสุจริต ก็ให้ประกาศผล ซึ่งคาดว่าสำนักงานจะเสนอให้ กกต.พิจารณาภายในวันที่ 9 พ.ค.เบื้องต้นได้เร่งรัด กลุ่มภารกิจสืบสวนสอบสวนในกรณีเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง และกฎหมายใหม่ไม่เปิดโอกาสให้ทยอยประกาศผล อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะให้ใบแดงก่อนวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งอาจทำให้จำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อที่สื่อมวลชนคำนวณอาจปรับเปลี่ยนได้ หากมีการเลือกตั้งใหม่
ขณะที่การสั่งไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจำนวน 1,542 ใบจากนิวซีแลนด์ นายกฤช ชี้แจงว่า เมื่อดู พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 114 กฎหมายได้เขียนบังคับให้ กกต. ต้องวินิจฉัยอย่างนั้น ซึ่ง กกต. เข้าใจเรื่องสิทธิของประชาชนและไม่อยากทำอย่างนั้น รวมทั้งได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 3 เม.ย. จะทราบว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่า กกต. ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ
You must be logged in to post a comment Login