วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“พิชัย”ห่วงเลือกตั้งไม่โปร่งใสฉุดเศรษฐกิจทรุด

On April 1, 2019

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เคยเตือนไว้ตั้งแต่การเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีปัญหาความโปร่งใสแล้ว ปรากฏว่าการเลือกตั้งใหญ่กลับมีปัญหาหลายอย่าง เช่น ประกาศจำนวนผู้ลงคะแนนที่มีเพิ่มขึ้นอย่างผิดปรกติ จากเดิมที่บอกมีผู้มาใช้สิทธิ 65.96% เพิ่มเป็น 74.69% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 4.49 ล้านคน และเป็นการแถลงของ กกต. เอง ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะแถลงได้ เลยไม่แน่ใจว่ามีการเพิ่มผู้มาใช้สิทธิให้เท่ากับบัตรใช่หรือไม่จนมีศัพท์ขึ้นมาว่า “บัตรเขย่ง”

ส่วนปัญหาอื่นๆ เช่น คลิปการนับคะแนนโดยไม่โชว์บัตร คลิปการนับบัตรดีบัตรเสียของแต่ละพรรคต่างกัน คลิปที่นายทหารเข้าไปมองและกำกับการลงคะแนนของพลทหาร หรือแม้กระทั่งจำนวนผู้มีสิทธิในการเลือกตั้งทั้งประเทศของ กกต. ที่ต่างกัน 34,000 คน ในการแถลง 2 ครั้ง สร้างความสงสัยอย่างมากแก่ประชาชน จนทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่แล้ว ขนาดมีประชาชนเข้าชื่อกันแล้วกว่า 8 แสนรายแล้วที่จะขอปลด กกต. ชุดนี้เพราะความไม่โปร่งใส และเริ่มมีการชุมนุมเพื่อเพิ่มรายชื่อปลด กกต. อีกทั้งมีโพลสำรวจพบว่าประชาชนไม่มีความเชื่อถือ กกต. อีกต่อไป

นายพิชัยกล่าวอีกว่า นานาชาติได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐ อังกฤษ และอียู ได้แถลงการณ์เรียกร้องให้มีความชัดเจนโปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ และจากสภาวะที่เป็นอยู่จะทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ ทำให้ประเทศไทยหมดความน่าเชื่อถือในสายตาของนานาชาติ และจะทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ลงไปอีก ประชาชนจะยิ่งลำบาก ในขณะที่ทั้งโลกกำลังกังวลกับ Yield Curve Inversion ที่ผลตอบแทนการฝากเงินในระยะยาวน้อยกว่าผลตอบแทนในการฝากเงินในระยะสั้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของทั้งโลกได้ แต่ไทยกลับยังไม่สามารถก้าวพ้นภาวะปัญหาการเมืองภายในประเทศที่ยาวนานมากว่า 10 ปีแล้วได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดต่อเนื่องต่อไป

ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้สร้างความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน


You must be logged in to post a comment Login