- ปีดับคนดังPosted 3 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 7 days ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ผลจากใบส้ม
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 25 เม.ย. 62)
กกต. ประเดิมแจกใบส้มให้ว่าที่ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ทำให้เสียงสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลหายไปแล้ว 1 เสียง แถมการเลือกตั้งที่เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ อาจเพิ่มจำนวนว่าที่ ส.ส. ให้ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐอีก 1 หรือ 2 เสียง เพราะเมื่อดูจากคะแนนที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยได้รับในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา และคะแนนเดิมของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐซึ่งตามมาเป็นอันดับสอง ถือว่ามีจำนวนมากพอที่จะเพิ่มโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อได้อีก 1 ที่นั่ง ซึ่งส่งผลถึงการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน
หลังจากซุ่มเงียบมาครบเดือน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เริ่มปล่อยของ โดยประเดิมแจกใบส้ม ถอนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ส.ส. นายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ ส.ส. เขต 8 เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไว้เป็นการชั่วคราว (1 ปี)
เหตุผลของการแจกใบส้มครั้งนี้เนื่องจากสืบสวนแล้วพบว่า ว่าที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 73 (2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
ผลของการได้ใบส้มครั้งนี้คือ พรรคเพื่อไทยจะถูกหักคะแนนที่นายสุรพลได้รับจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา 52,165 คะแนนทิ้ง ไม่เอาไปคิดคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
ทำให้ว่าที่ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทยหายไป 1 เก้าอี้ แถมไม่สามารถส่งผู้สมัครใหม่ในการเลือกตั้งซ่อมได้ เพราะตามกฎหมายให้ใช้ผู้สมัครชุดเดิมในการเลือกตั้งซ่อม ไม่เปิดรับสมัครใหม่ ขณะที่นายสุรพลจะถูก กกต. ฟ้องเอาผิดตามมาตรา 138 ยื่นเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ต่อไป
ส่วนสาเหตุที่นำมาซึ่งใบส้มของนายสุรพลครั้งนี้คือ ถูกกลุ่มคนจอมทองและผู้รักประชาธิปไตยจอมทองยื่นร้องเรียนต่อ กกต.จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวหาว่าไปร่วมทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่ง
นายสุรพลยืนยันในการต่อสู้ข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ไปร่วมทอดผ้าป่า เพียงแต่ไปถวายเงินให้พระรูปหนึ่งที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว 2,000 บาท ซึ่งไม่น่าจะเข้าข่ายซื้อเสียงหรือสัญญาว่าจะให้ เพราะพระภิกษุไม่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง และได้นำพระรูปดังกล่าวมาเป็นพยานในการชี้แจงข้อกล่าวหาด้วย
แต่ กกต. ไม่เชื่อ จึงให้ใบส้มถอนสิทธิการเป็นผู้สมัครไปในที่สุด
ย้อนไปดูผลการเลือกตั้ง ส.ส. เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นายสุรพลชนะเลือกตั้งด้วยคะแนน 52,165 คะแนน นายนเรศ ธำรงค์ทิพยกุล พรรคพลังประชารัฐ ตามเป็นที่สอง ได้ 39,221 คะแนน น.ส.ศรีนวล บุญลือ พรรคอนาคตใหม่ ได้ 29,556 คะแนน น.ส.วรณัน อ้นท้วม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 2,508 คะแนน
เท่ากับว่าในการเลือกตั้งใหม่จะเป็นการวัดใจคนเชียงใหม่เขต 8 ว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองขั้วไหน ระหว่างขั้วที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย กับขั้วที่ถูกตราหน้าว่าสนับสนุนเผด็จการ
เป็นการแข่งขันกันระหว่างนายนเรศจากพรรคพลังประชารัฐกับ น.ส.ศรีนวลจากพรรคอนาคตใหม่ ที่เลือกตั้งครั้งที่แล้วฝ่ายหลังตามอยู่กว่าหมื่นคะแนน วัดใจผู้ใช้สิทธิ 52,165 คนที่ลงคะแนนให้นายสุรพลคราวที่แล้วว่าเลือกตั้งใหม่จะเทคะแนนให้กับใคร
52,165 คะแนนถือว่าไม่น้อย หากพรรคไหนได้ไปมีโอกาสที่จะได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ที่นั่ง
การเลือกตั้งซ่อมที่เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นการเลือกตั้งแบบทูอินวัน คือเลือกตั้งครั้งเดียวแต่อาจได้ ส.ส. 2 คนคือ ส.ส.เขตที่ชนะเลือกตั้ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ได้อานิสงส์จากคะแนน ส.ส.เขตไปเพิ่มโควตาให้
ในช่วงที่การเมือง 2 ฝ่ายยังยันกันอยู่ด้วยจำนวนว่าที่ ส.ส. ในมือมีพอๆกันจนทำให้เกิดเดดล็อกในการจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ การที่ฝ่ายไหนได้เสียงว่าที่ ส.ส. เพิ่มมาอีก 1 หรือ 2 เสียงถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะถือว่าส่งผลไปกลับ ไม่ใช่แค่ฝ่ายตัวเองได้เสียงเพิ่ม แต่ยังไปลดจำนวนเสียงสนับสนุนของฝ่ายตรงข้ามด้วย
You must be logged in to post a comment Login