- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 5 hours ago
- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
TWPCประกาศซื้อกิจการTDC เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเป็น 100%
บมจ. ไทยวา หรือ TWPC เผย “บจก. ไทยวาไบโอพาวเวอร์ หรือ TWBP”บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการใน “บจก. สำปะหลังพัฒนา หรือ TDC”ผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch)เพิ่มอีกจำนวน 166,668 หุ้น คิดเป็น 33.33%เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเป็น 100%ช่วยหนุนสัดส่วนของรายได้และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value-Added) เติบโตแข็งแกร่ง ด้านบิ๊กบอส “โฮ เรน ฮวา” หวังตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรตั้งเป้ารายได้ 1 หมื่นล้านบาทมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาดโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสดและวุ้นเส้นแห้งในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท ไทยวาไบโอพาวเวอร์ จำกัด หรือ TWBP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท สำปะหลังพัฒนา จำกัด หรือ TDC ผู้ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch)จากบริษัท เจแปน คอร์น สตาร์ช จำกัด (Japan Corn Starch Co., Ltd. หรือ “JCS”) เพิ่มอีกจำนวน 166,668 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.33 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ TDC ในราคาซื้อขายทั้งสิ้น 220 ล้านบาท ส่งผลทำให้ TWPC มีสัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมใน TDC รวม 100%
ทั้งนี้รายการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”) ซึ่งมีขนาดรายการสูงสุดคิดเป็นร้อยละ 5.85 ตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ ตามงบการเงินรวมของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของบริษัท และเมื่อคำนวณรวมขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา จะทำให้ขนาดรายการรวมสูงสุดตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน เท่ากับร้อยละ16.21 ถือเป็นรายการประเภทที่ 2 คือ รายการที่มีมูลค่าเท่ากับหรือสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ดังนั้น บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) และจัดส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบภายใน 21 วัน นับแต่วันแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ
“เราตัดสินใจซื้อกิจการของ Tapioca Development Corporation Limited (TDC) เพิ่มอีกในสัดส่วน 33% ผ่านบริษัทย่อยเพื่อช่วยเสริมการขยายธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและขยายตลาดส่งออกได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อเนื่องในระยะยาว นอกจากนี้ ยังสอดคล้องไปตามนโยบายกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการขยายสัดส่วนของรายได้และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value-Added) ซึ่งมีอัตราการทำกำไรสูงขึ้น และไม่ผันผวนมากเหมือนผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง ทั้งนี้การผสมผสานของธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งด้วยผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรได้ดียิ่งขึ้นและจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มศักยภาพ ส่งเสริมการเป็นผู้นำในภูมิภาคของผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” นายโฮ เรน ฮวา กล่าวในที่สุด
นายโฮ เรน ฮวา กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 คาดว่ารายได้ปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท จากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเริ่มรับรู้รายได้ของโรงงานแห่งใหม่ที่แม่สอดการเติบโตของรายได้ในกลุ่มแป้งสำมันปะหลัง HVA จากการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นTDC เป็น 100% และการขยายกำลังการผลิตโดยยังเน้นขยายตลาดในประเทศจีน และไต้หวัน เพราะยังมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 2,000 ลบ. ภายในอีก 2 ปี เพื่อรองรับการขยายธุรกิจหรือต่อยอดจากธุรกิจเดิม พร้อมทั้งรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในอัตราที่สูง รวมถึงการซื้อกิจการ หรือ M&A ธุรกิจต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับ Core Business ของบริษัทฯ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น “ผู้นำธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและอาหารจากแป้งระดับภูมิภาคเอเชีย”
You must be logged in to post a comment Login