วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

นรกชังหรือสวรรค์แกล้ง?

On April 25, 2019

คอลัมน์ : เรื่องจากปก
ผู้เขียน : ทีมข่าวการเมือง

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  26 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2562 )

ประเด็นการเลือกตั้งยังอึมครึมและร้อนระอุตราบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งครบรอบ 1 เดือน กกต. ก็ยังให้ความชัดเจนผลการเลือกตั้งไม่ได้เลย การจัดตั้งรัฐบาลและใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ยังอึมครึม ทำให้ กกต. ชุดปัจจุบันยิ่งสะท้อนถึง “วิกฤตองค์กรอิสระ” ที่อาจนำไปสู่ “วิกฤตประเทศ” อีกครั้ง

ขณะที่เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้รับคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองวินิจฉัยให้การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมเป็นโมฆะไว้พิจารณาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน และได้ส่งหนังสือให้ กกต. ชี้แจงในประเด็นที่ผู้ร้องตั้งข้อสังเกตภายใน 7 วัน เนื่องจากเป็นประเด็นเร่งด่วนและอยู่ในความสนใจของสาธารณชน และจะครบกำหนดในวันที่ 25 เมษายนนี้

นายรักษเกชากล่าวว่า ถ้า กกต. ส่งคำชี้แจงกลับมา ทางสำนักงานจะเสนอเข้าที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณาในสัปดาห์นี้ทันทีเพื่อให้ทันวันที่ 9 พฤษภาคมที่ กกต. จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ยืนยันว่าการพิจารณาคำร้องจะทำด้วยความรอบคอบ ตอบข้อสงสัยได้ หากมีข้อยุติไปในทางใดทางหนึ่ง

กกต. แจ้งข้อกล่าวหา “ธนาธร”

ขณะที่ประเด็นร้อนทางการเมืองที่ยังมีอย่างต่อเนื่องคือ การกล่าวหาฟ้องร้องพรรคการเมืองฝ่ายที่ต่อต้านการ “สืบทอดอำนาจ” และไม่เอา “ลุงฉุน” โดยเฉพาะพรรคอนาคตใหม่ที่กลายเป็น “หมู่บ้านกระสุนตก” ไม่ว่าจะเป็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

โดยล่าสุด (23 เมษายน) ที่ประชุม กกต. มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหานายธนาธรกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการถือหุ้นจำนวน 675,000 หุ้น ในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อ เข้าลักษณะต้องห้ามสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าพรรคการเมือง มาตรา 42 (3)

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดำเนินการต่อไปโดยให้นายธนาธรชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน ส่วนที่คณะกรรมการสืบสวนฯไม่ได้นำข้อมูลที่พรรคอนาคตใหม่นำมายื่นให้ประกอบการพิจารณานั้น เพราะเห็นว่าข้อมูลของคณะกรรมการสืบสวนฯครบถ้วนและมีมูลเพียงพอที่ทำให้เชื่อได้ตามคำร้อง

นายแสวงยังปฏิเสธข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ประธานคณะกรรมการสืบสวนฯ ลาออกเพราะไม่เห็นด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งคาดว่าจะได้ข้อสรุปโดยเร็ว แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเสร็จก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมนี้หรือไม่

ทั้งนี้ นายธนาธรมีสิทธิที่จะไม่ให้ถ้อยคำหรือมีหนังสือชี้แจงแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมฟังการชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา

“#ธนาธร” พุ่งขึ้นอันดับ 1

ขณะที่นายธนาธรได้ทวีตภาพตนเองสวมชุดกันเปื้อนหลัง กกต. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา โดยระบุว่า ของที่ระลึกจากการไปเลกเชอร์ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟ์ เนเธอร์แลนด์ น้องๆนักศึกษาให้ “ผ้ากันเปื้อน” กับผม พร้อมอธิบายว่า “เห็นช่วงนี้โดนสาดโคลนบ่อย” ได้มาปุ๊บก็ได้ใช้ทันทีเลยครับ

วันเดียวกันช่วงเวลา 19.00 น. ในทวิตเตอร์ได้มีการติดแฮชแท็ก “#ธนาธร” พร้อมข้อความวิพากษ์วิจารณ์ถึงมติดังกล่าวเป็นจำนวนมากจนทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 โดยมีผู้ทวีตข้อความกว่า 100,000 ครั้ง

กกต.  ไม่ชี้แจงประเด็นวันโอนหุ้น

มติของ กกต. ครั้งนี้ทำให้มีคำถามถึงความบริสุทธิ์ยุติธรรมและเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะตั้งแต่มีข่าวกรณีการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ระหว่างนายธนาธรและนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน นายธนาธรและแกนนำพรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาชี้แจงและแสดงเอกสารหลักฐานการโอนหุ้นหลายครั้งว่ากระทำในวันที่ 8 มกราคม 2562 ก่อนที่นายธนาธรจะลงสมัครรับเลือกตั้งวันที่ 6 กุมภาพันธ์

การออกมาชี้แจงเกิดขึ้นสลับกับการรายงานข่าวของสำนักข่าวอิศราว่า มีการแจ้งโอนหุ้นในวันที่ 21 มีนาคม จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่ตรงกับตราสารหุ้นที่นายธนาธรเปิดเผยต่อสาธารณะ การยึดว่าวันใดเป็นวันที่นายธนาธรโอนหุ้นจึงเป็นประเด็นสำคัญว่าจะทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. หรือไม่

บทลงโทษ “ธนาธร” หากผิด

หาก กกต. มีความเห็นว่านายธนาธรมีความผิดตามที่ถูกร้องก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม กกต. สามารถมีมติสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธรชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี หรือแจก “ใบส้ม” โดยไม่ประกาศชื่อนายธนาธรเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ส.

แต่ถ้ามีมติหลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งและนายธนาธรเป็น ส.ส. ไปแล้ว กกต. ต้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยความเป็น ส.ส. ของนายธนาธรสิ้นสุดลง ทั้งนี้ หาก กกต. มีมติว่านายธนาธรมีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และถูกระงับสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง 1 ปี ก็จะถูกส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีอาญา ซึ่งมีโทษถูกตัดสิทธิ 20 ปี

กกต. ไม่มีอำนาจสอย “ธนาธร”

นายปิยบุตรแถลงหลัง กกต. มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธรว่า ในวันสมัครรับเลือกตั้งนายธนาธรไม่ได้ถือหุ้นสื่อใดๆอีกแล้ว เมื่อมีสื่อมวลชนสำนักหนึ่งเอาข่าวมาเปิดเผยว่าโอนหุ้นในวันที่ 21 มีนาคม ถือเป็นการรายงานข่าวที่ผิดพลาดเอง เป็นเพียงแบบฟอร์มที่แจ้งไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเท่านั้น เพราะการโอนหุ้นจบไปตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมแล้ว

นายปิยบุตรกล่าวว่า น่าเสียดายที่ กกต. ไม่เปิดโอกาสให้เราไปชี้แจง จริงๆ กกต. มีอำนาจให้เราไปชี้แจง เมื่อไม่ได้ชี้แจงก็มีมติแจ้งข้อกล่าวหาทันที ยืนยันว่าช่วงเวลานี้ไม่ใช่ช่วงเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส. และลักษณะต้องห้ามของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ การตรวจสอบคุณสมบัติเริ่มต้นในวันที่สมัครจนถึงวันที่ 23 มีนาคม 1 วันก่อนวันเลือกตั้ง หลังจากนั้นถ้าเลือกตั้งไปแล้ว หากต้องการตรวจสอบคุณสมบัติสามารถตรวจสอบได้เฉพาะ ส.ส.แบบแบ่งเขตเท่านั้น แบบบัญชีรายชื่อไม่มีกฎหมายฉบับไหนอนุญาตให้ตรวจสอบ หากจะตรวจสอบต้องตรวจตอนที่เป็น ส.ส. แล้ว จึงไม่มีช่องทางใดเหลือให้ กกต. มีอำนาจในการออกใบเหลือง ใบส้ม ใบแดงกับนายธนาธร หากจะใช้เหตุเรื่องการถือหุ้นสื่อก็ค่อนข้างผิดหวังและประหลาดใจ เพราะข้อกฎหมายทุกอย่างชัดเจนจริงๆ

“ถ้าองค์กรอิสระจริงๆ ไม่มีทางแจ้งข้อกล่าวหาเราด้วยเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากอยากสอยธนาธรต้องรอให้เป็น ส.ส. ก่อนแล้วจึงไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อยากให้ กกต. ยืนหยัดในข้อกฎหมายและความยุติธรรม อย่าได้เกรงกลัวต่ออำนาจอื่นที่มากดดัน” นายปิยบุตรกล่าว

อย่าใช้กฎหมายกลั่นแกล้งกัน

นายปิยบุตรยังกล่าวถึง ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ที่ยื่นหนังสือถึง กกต. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชนกว่า 30 รายชื่อว่า จะดูแค่หนังสือบริคณห์สนธิไม่ได้ ต้องดูว่าถือหุ้นกิจการที่ประกอบธุรกิจสื่อมวลชนจริงๆ ไม่ใช่ไปเปิดหนังสือบริคณห์สนธิที่เป็นแบบฟอร์มจากกระทรวงพาณิชย์ที่เขียนวัตถุประสงค์ครอบจักรวาล

หากจะนำเรื่องนี้มาระบุว่าใครถือหุ้นสื่อหรือไม่ คำถามคือเรื่องนี้ใช้สมเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ หากมีคนบังเอิญไปถือหุ้นในบริษัทที่หนังสือบริคณห์สนธิมีวงเล็บหนึ่งระบุว่าทำสื่อ แต่บริษัทประกอบกิจการอาหารสัตว์ แล้วมันเป็นการครอบงำสื่อตรงไหน การร้องเรียนว่าที่ ส.ส. 30 กว่าคนจาก 6 พรรคจึงต้องระวังให้ดี พรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจของ คสช. อย่าคิดว่าไม่มีเรื่องพวกนี้ ลองไปหาดูก็เจอ ตนเชื่อว่าผู้สมัครแต่ละคนก็มีบริษัทที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ทำสื่อ แต่หนังสือบริคณห์สนธิเขียนวัตถุประสงค์ไว้ คนที่ไปร้องเรียนก็ต้องระวังด้วยว่าอาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จ หรืออีกฝ่ายไปร้องกลับบ้าง มันจะไม่จบ

“ผมอยากเรียนว่ากฎหมายแต่ละมาตราออกมามีวัตถุประสงค์ของมัน ใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ อย่าใช้กฎหมายกลั่นแกล้งกัน หากจะใช้กฎหมายมากลั่นแกล้งกันเรื่องคงไม่จบ การเมืองไทยเสียเวลากับเรื่องนี้มาสิบกว่าปีแล้ว มันควรเดินหน้าไปได้แล้ว สมองของมนุษย์และนักการเมืองที่ควรจะคิดเรื่องสร้างสรรค์ วันๆกลับต้องมาคิดแบบนี้ ผมเห็นบรรดานักร้องแต่ละคนที่ไปร้องเรียนกัน โอ้โห วันๆนี่ไม่ต้องคิดเรื่องสร้างสรรค์เลยนะ คิดอยู่อย่างเดียวใครไปถือหุ้นอันไหน ชีวิตไม่ต้องคิดเรื่องอื่นสร้างสรรค์แล้ว การเมืองไทยจะเอาแต่แบบนี้หรือ” นายปิยบุตรกล่าว

พิจารณาให้ใบส้ม “ธนาธร”

นายปิยบุตรยังกล่าวถึงการให้ใบส้มว่า มีความพยายามในการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณา มีผู้ยื่นคำร้องตามที่ปรากฏอยู่ในข่าว ถ้า กกต. จะดำเนินการพิจารณาจำเป็นต้องตรวจสอบมูลกรณี มีการสืบสวนและไต่สวน ช่วงก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. มีอำนาจในการตั้งคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำเนาเพื่อทำความเห็นต่อ กกต. ในกรณีของนายธนาธรมีผู้ไปร้องเรียน กกต. ก็บอกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้งหมด 7 คน โดยการตรวจสอบมูลกรณีนี้มีระยะเวลาที่ต้องทำให้เสร็จภายใน 7 วัน หลังจากนั้นหากเห็นว่าไม่มีมูลก็จะยุติเรื่อง หรือเห็นว่ามีมูลที่จะต้องสืบสวนต่อก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวน กรณีของนายธนาธรตามที่เช็กจากข่าวพบว่ากำลังอยู่ในขั้นไต่สวน ซึ่งมีระยะเวลา 20 วัน และสามารถขยายระยะเวลาได้อีก 15 วัน ไม่เกิน 2 ครั้ง หลังจากไต่สวนเสร็จคณะกรรมการจะมีมติว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ หากแจ้งข้อกล่าวหาก็จะต้องเปิดโอกาสให้นายธนาธรชี้แจง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการเรียกพรรคอนาคตใหม่และนายธนาธรไปชี้แจงเลย

ปัญหาคือ หาก กกต. เลือกจะใช้ช่องทางการออกใบส้มตามที่มีคนร้องเรียนมา พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดฝาผิดตัว

องค์กรอิสระนำไปสู่ทางตัน

นายปิยบุตรกล่าวว่า การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่ประชาชนได้ให้ความหวังไว้อย่างมาก เป็นเหมือนแสงสว่างรำไรหลังจากที่ถูกขังอยู่ในห้องมืดมา 5 ปี เพราะอย่างน้อยที่สุดการเลือกตั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแสวงหาทางออกร่วมกัน และเป็นจุดเริ่มต้นในการพาประเทศไทยกลับคืนไปสู่ระบอบประธิปไตย แต่หลังจากเลือกตั้งผ่านมา 1 เดือน กลับมีความพยายามสร้างบรรยากาศทำให้ประชาชนรู้สึกว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก ไม่มีความหวัง และนำไปสู่ทางตัน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วบรรยากาศที่เกิดขึ้นไม่ได้นำไปสู่ทางตัน พรรคการเมืองทุกพรรคเล่นตามกติกา

“บ้านเมืองจะถึงทางตันอย่างแน่แท้ถ้าหากบรรดาองค์กรอิสระต่างๆใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรม ใช้กฎหมายอย่างเลือกปฏิบัติ ใช้กฎหมายไปในทิศทางที่นำกฎหมายมาช่วยเหลือสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากองค์กรอิสระทำแบบนี้บ้านเมืองจะไปสู่ทางตัน 14 ปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่ามีข้อครหาและสงสัยเรื่องพวกนี้จากสาธารณชนอยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา และมันเป็นต้นเหตุของวิกฤตการณ์การเมืองไทยด้วย” นายปิยบุตรกล่าว

ไร้ธรรมาภิบาลอย่างรุนแรง

น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียนอิสระ โพสต์เฟซบุ๊คกรณีนายธนาธรถือครองหุ้นสื่อตอนหนึ่งว่า กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้การโอนหุ้นสมบูรณ์เมื่อมีการบันทึกในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท แต่กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ทันทีที่โอน ซึ่งธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทจำกัดทั่วไปคือ แจ้งข้อมูลผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ต่อกระทรวงพาณิชย์ปีละ 1 ครั้งตามวาระการรายงานประจำปี ปรกติจะยื่นหลังปิดงบการเงินและประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ก่อนหน้านั้นจะโอนหุ้นกี่ครั้งก็ไม่ต้องแจ้ง แค่จดในทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทก็พอ

น.ส.สฤณีระบุว่า เรื่องนี้จริงๆเป็นเรื่องขี้ผงมาก ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเหตุใดๆให้ต้องสงสัยนายธนาธรว่าจัดทำเอกสารเท็จหรือซุกหุ้นต่อไป ซึ่งนายปิยบุตรในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ต้องออกมาชี้แจง เพราะ กกต. ไม่เคยเปิดโอกาสให้นายธนาธรไปชี้แจงด้วยตัวเอง นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจ น่าเป็นห่วงมากและไร้ธรรมาภิบาลอย่างรุนแรง เหตุใดหน่วยงานตรวจสอบจึงไม่เชิญผู้ที่ถูกกล่าวหามาชี้แจง? ปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนจะตัดสินอยู่แล้ว? แบบนี้จะเรียกว่า “กระบวนการยุติธรรม” ได้อย่างไร?

หาก กกต. ตัดสินว่า “ผิด” ก็ต้องบันทึกไว้เลยว่าเป็นคำตัดสินที่ทุเรศเป็นอันดับต้นๆในประวัติศาสตร์ ไม่เฉพาะของ กกต. เท่านั้น แต่รวมถึงประวัติศาสตร์ของหน่วยงานตรวจสอบทั้งมวลในประเทศนี้ด้วย

อาการ “นิติศาสตร์นิยมล้นเกิน”

นายเข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเปิดเป็นสาธารณะกรณีกฎหมายถือหุ้นสื่อว่า มีกฎหมายแต่ไม่สนเจตนารมณ์ในการใช้กฎหมายก็เหมือนมีเรือแต่ไม่มีเข็มทิศ สุดแต่จะแล่นไปทางไหน เปะปะไร้ทิศทาง

นี่คือหนึ่งในอาการป่วยของประเทศไทย ซึ่งมีอาการนิติศาสตร์นิยมล้นเกิน (hyper-legalism) สังเกตดูง่ายๆว่า จะทำอะไรก็อ้างกฎหมายเต็มไปหมด แต่ไม่เกิดความยุติธรรม ความเป็นธรรมขึ้นมาเสียที

เรื่องห้ามนักการเมืองเป็นเจ้าของสื่อเกิดขึ้นในการร่างรัฐธรรมนูญ 2550 โดยคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญอธิบายว่า เพื่อเพิ่มสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเสพสื่อที่เป็นกลาง ปราศจากการครอบงำ ถ้าใครจำได้คุณทักษิณถูกกล่าวหาเรื่องการครอบงำสื่อมาตลอด เช่น พยายามจะซื้อหนังสือพิมพ์ที่วิจารณ์รัฐบาลตนเอง เป็นต้น

ถามว่าสิบกว่าปีผ่านไปคุณภาพสื่อไทยพัฒนาขึ้นไหม ประชาชนคนไทยได้เสพสื่อที่มีคุณภาพ ซื่อตรง แม่นยำ ตรงไปตรงมา เป็นกลางมากขึ้นไหม คำตอบนี้ดูหนังสือพิมพ์ทุกวันนี้ถ้าไม่หลอกตัวเองก็รู้แก่ใจกันดี ตั้งแต่… เป็นอาทิ

มาตรานี้จึงไม่เคยถูกใช้สมดั่งเจตนารมณ์ เพราะเป้าหมายหลักหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายไทยไปนานแล้ว ส่วนสื่อที่มีอิทธิพลทางการเมืองก็ไม่เข้าข่ายนี้เนื่องจากหลบเลี่ยงได้ มาตรานี้จึงถูกใช้ในกรณีประหลาด เช่น นิติบุคคลที่จดทะเบียนมีวัตถุประสงค์รวมถึงการทำสื่อแต่ไม่ได้ทำจริงก็ถูกตัดสิทธิ หรือเจ้าของสื่อที่ปิดกิจการไปแล้วก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหา

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นการเลือกตั้งที่สะอาดที่สุดในโลก ใครส่อแววจะโกงแม้แต่นิดเดียวต้องลงโทษเอาให้หนัก ส่วนใครที่โกงอยู่แล้วชัดเจนก็แล้วไป เชิญตามสบาย

โดมิโน่จะตามมาอีกมาก

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค (24 เมษายน) กรณีนายธนาธรถือหุ้นสื่อว่า ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ ระหว่างกรณีของนายธนาธรที่นิตยสารซึ่งเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องใดๆกับการเมือง กับผู้ที่ลาออกจากสื่อที่มีอิทธิพลทางการเมืองแต่ยังมีบทบาทอยู่เบื้องหลังในสื่อดังกล่าว อะไรควรถือเป็นปัญหามากกว่ากัน

นายสมชัยบอกว่า ไม่ใช่ friend of thanatorn แต่อยากจะบอกว่าสังคมกำลังเดินทางผิดหรือไม่ เจตนาของการเขียนกฎหมายห้ามนักการเมืองถือหุ้นสื่อคือต้องการไม่ให้ใช้อิทธิพลของสื่อที่มีเพื่อการหาเสียง หาความนิยมเข้าตัวเข้าพรรค หรือใช้สื่อเพื่อทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม การลาออกจากสื่ออย่างเป็นทางการแต่กลับเป็นเบื้องหลังสำคัญในการบงการทิศทางสื่อให้เอียงข้างนั้นเลวร้ายกว่าการลืมลาออกจากสื่อที่ไม่เกี่ยวข้องหรือมีอิทธิพลใดทางการเมืองหรือไม่ แต่เราไม่เคยนึกถึง

นายสมชัยเตือน กกต. ว่า เรื่องใหญ่ที่มีผลกระทบสมควรทำกลับไม่คิดทำ แต่เรื่องเล็กที่ตีความตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกลับสนใจที่จะกระทำ “โดมิโน่จากเรื่องนี้ยังตามมาอีกมาก ไม่เชื่อโปรดติดตาม”

วิกฤตรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

ประเด็น กกต. และการจัดตั้งรัฐบาลยังอึมครึมต่อไป ยิ่งนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้แสดงจุดยืนทางการเมืองว่าไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเด็ดขาด หลังจากลูกพรรคเศรษฐกิจใหม่ไปยื่นขอให้ยุบพรรคตัวเองในข้อกล่าวหาว่ามีคนนอกครอบงำพรรค เลยทำให้ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง

การแสดงจุดยืนทางการเมืองของนายมิ่งขวัญอย่างน้อยก็ทำให้พรรคพลังประชารัฐต้องใช้ทุกวิธีที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ อย่างที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ยืนยัน (19 เมษายน) ว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้รัฐบาลและได้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งแน่นอน ก็ยิ่งทำให้การคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อให้พรรคเล็กได้ ส.ส. มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวการใช้เงินซื้องูเห่าและงูเขียวสูงหลายสิบล้านบาท ยิ่งมาเป็นก๊วนเป็นแก๊งก็จะมีเงินโบนัสและตำแหน่งทางการเมืองให้อีก

พรรคประชาธิปัตย์ที่มีความเห็นแตกเป็น 2 ขั้ว ยิ่งทำให้หลายคนเชื่อว่าจะมีงูเห่าแน่ แต่กระแส “รัฐบาลแห่งชาติ” หรือ “รัฐบาลปรองดอง” ที่นายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ จุดประเด็น ก็ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นไปได้ยากมากหากไม่เกิดสถานการณ์พิเศษหรือเกิดเดดล็อกทางการเมืองจนทุกฝ่ายหาทางออกไม่ได้จริงๆ

ยิ่งเวลาตั้งรัฐบาลทอดยาว งูเห่าจะราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงข้อเสนอของนายเทพไทว่า เป้าหมายคงต้องการให้เกิดกระบวนการต่อรอง รัฐบาลแห่งชาติในประเทศไทยมีนิยามความหมายหลากหลาย ไม่เหมือนรัฐบาลแห่งชาติของต่างประเทศที่เรียกว่ารัฐบาลแห่งชาติเอกภาพ ซึ่งมีภาวะฉุกเฉินหรือเกิดสงคราม แต่รัฐบาลแห่งชาติถูกหยิบยกขึ้นมาทุกครั้งที่เกิดวิกฤตการเมืองหรือต่อรองทางการเมือง หลายคนบอกว่าประชาธิปัตย์ถึงทางสองแพร่ง เอาหรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่มีทางไหนที่เป็นประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมจึงได้ยินเรื่องรัฐบาลแห่งชาติจากคนของพรรคประชาธิปัตย์

นายยุทธพรยังกล่าวถึงกระแสข่าวราคางูเห่าที่พุ่งหลายสิบล้านบาทว่า เป็นการพยายามตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำของขั้วใหญ่ ซึ่งคงไม่ง่ายนักที่สังคมไทยจะแก้ไขเรื่องงูเห่า แม้สังคมอยากจะมีการเมืองในระบบรัฐสภา แต่อีกด้านหนึ่งยังมีการเมืองแบบไม่เป็นทางการ เป็นผลมาจากวัฒนธรรมการเมืองแบบไทยๆที่นิยมพูดคุยนอกรอบ เจรจาใต้ดิน ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงต่อรอง งูเห่าจึงไม่เคยหายไปไหน ยิ่งเวลาการตั้งรัฐบาลทอดยาวออกไป งูเห่าก็จะราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงผลประโยชน์รูปแบบอื่นๆ เช่น โควตารัฐมนตรีกระทรวงเกรดต่างๆ ประชาชนชนจึงต้องจดจำเอาไว้และลงโทษงูเห่าผ่านการเลือกตั้งโดยไม่เลือกเข้ามาอีก

นอกจากประเด็นรัฐบาลปรองดองหรือรัฐบาลแห่งชาติแล้ว ยังมีแนวคิดพิสดารของนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ที่เสนอให้ใช้ช่องทางใช้บทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ให้ ส.ว. มีส่วนในการออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป เป็นทางออกกรณีกฎหมายไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร โดยแยกกฎหมายทั่วไปกับกฎหมายปฏิรูป แต่ทั้งฝ่ายการเมืองและนักกฎหมายก็รุมถล่มว่าเหมือนกำลัง “หลงป่า-หลงทาง” และผิดหลักรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

อย่างที่นายปิยบุตรกล่าวว่า ประเทศไทยอยากปกครองด้วยอำนาจการยกเว้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ใช้กันอยู่ตลอดคือ อำนาจพิเศษ การยกเว้นทหารให้เข้ามา พอยกเว้นกันไปมาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปรกติแล้วก็อยู่จนชิน แต่สำหรับตนนี่คือพิษร้ายที่สุดที่มีการนำสิ่งแปลกๆเข้ามาในรัฐธรรมนูญจนคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา

สอน “ไพบูลย์” รู้จักแพ้

นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์มีขั้วเดียว เมื่อมีมติพรรคออกมาอย่างไรทุกคนต้องปฏิบัติตาม ไม่มีงูเห่าโดยเด็ดขาด ใครไม่ปฏิบัติตามจะถูกกรรมการจริยธรรมวินัยพรรคหรือถูกภาคทัณฑ์

ส่วนแนวคิดของนายไพบูลย์ที่เสนอให้ใช้มาตรา 270 เพื่อให้ ส.ว. ร่วมโหวตกฎหมายนั้น คิดแผลงๆตลอดเวลา ถ้าทุกคนยึดมั่นในระบบรัฐสภา ประเทศก็เดินหน้าไปได้ แพ้เลือกตั้งก็คือแพ้ ประชาชนเลือกใครมากกว่าก็ให้จัดตั้งรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน ดีก็อยู่ได้ ไม่ดีก็ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ อยากให้เพลาๆความคิดแหวกแนว เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการเมืองในอนาคต และขออย่าใช้วิชามารใดๆ ทั้งงูเห่าและทุกวิธีที่จะทำให้ประชาธิปไตยกลับสู่วงจรอุบาทว์อีก

ใครๆก็ไม่เอา “ลุงตู่”

นายไทกร พลสุวรรณ อดีต กปปส. โพสต์เฟซบุ๊ค (21 เมษายน) คำว่า Dead Lock และ Political Sanction ว่า เหลือเวลาอีกไม่เกิน 18 วันที่ กกต. ต้องรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งจะทำให้จำนวน ส.ส. ที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับไม่แตกต่างจากที่ประกาศอย่างไม่เป็นทางการ

กองเชียร์ลุงตู่หลายคนหวังจะให้มีใบส้มเพื่อจะเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. ความจริงคงไม่เกิดขึ้น เพราะกฎหมายระบุไว้ว่า เมื่อประกาศให้ใบส้มเขตใดต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 15 วัน และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำได้ก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม และหลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการต้องเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรภายใน 15 วัน หลังจากนั้นไม่นานกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีก็จะตามมา

Dead Lock ไม่มีทางไป ไม่มีทางออก สาเหตุเกิดจาก Political Sanction หรือการคว่ำบาตรทางการเมืองต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าที่นายกฯของพรรคพลังประชารัฐ เป็นการคว่ำบาตรทางการเมืองโดยตรงต่อบุคคล

ก่อนหน้านี้ (20 เมษายน) นายไทกรได้โพสต์ว่า “ไม่มีใครกล้าบอกความจริงกับลุง” ว่าปัญหาที่พรรคการเมืองหรือนักการเมืองต่างๆไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐไม่อยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ แต่อยู่ที่ตัวบุคคล

เมื่อเป็นเช่นนี้ทางเดียวที่พรรคพลังประชารัฐจะสามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 251 คือต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่พรรคพลังประชารัฐจะกล้าเปลี่ยนหรือไม่? และใครจะไปบอกความจริงกับ พล.อ.ประยุทธ์? แม้ตั้งรัฐบาลได้ก็เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย อยู่ได้เดือนสองเดือนไม่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็ต้องลาออก มีแต่ตายกับตาย หรือรู้ว่าแม้ต้องตายก็ต้องเดินไป

นรกชังหรือสวรรค์แกล้ง?

สถานการณ์การเมืองและการเลือกตั้งไม่ใช่ Dead Lock หรือทางตันทางการเมือง แต่อาจเป็นเพราะคนคนเดียวอยากอยู่ต่อ อยากมีอำนาจต่อ เพื่อสืบทอด “ระบอบอำนาจนิยมเผด็จการ” อะไรๆจึงวุ่นวายสับสน

กรณีการจัดการเลือกตั้งของ กกต. ที่เหมือน “ลิงแก้แห” โดยเฉพาะกรณีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ซึ่งล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของ กกต. ที่ขอให้วินิจฉัยการคำนวณสูตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยเห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ในการพิจารณา ซึ่งกรณีนี้ยังไม่ถือว่ามีปัญหา เพราะยังไม่ปรากฏว่า กกต. ได้ใช้อำนาจหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ

ปัญหาจึงอยู่ที่ กกต. จะแก้ปัญหาของตัวเองอย่างไร ยิ่งกรณีการแจ้งข้อหานายธนาธรที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะมีใบสั่งหรือไม่? รวมถึงการประเดิมแจกใบส้มตัดสิทธิว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่จากพรรคเพื่อไทยที่ชนะเลือกตั้งกว่า 5 หมื่นคะแนน ที่ชนะอันดับรองลงมาคือผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐที่ได้ไม่ถึง 4 หมื่นคะแนน เป็นคนแรก ซึ่งการแจกใบส้มเป็นอำนาจสิทธิขาดของ กกต. ที่ทำได้ทันทีตามกติกาใหม่ เพียงเชื่อได้ว่ามีการทุจริตหรือผิดกฎหมายเลือกตั้ง ข้อกล่าวหาปรกติผิดจริงชัดเจนก็แล้วไป แต่ถ้าข้อกล่าวหานั้นวิจิตรพิสดารแต่ฟันไว้ก่อนก็อาจสะท้อนถึงวิกฤตความเชื่อมั่นและวิกฤตศรัทธาขององค์กรอิสระ ซึ่งไม่ต่างกับภาพของรัฐบาลทหารและ คสช. ขณะนี้

จึงไม่แปลกที่จะมีเสียงประณามและวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ว่าทั้งอัปลักษณ์และพิสดาร ยิ่ง กกต. แก้ปมที่พันไปทั่วก็ยิ่งเข้าเนื้อตัวเอง จนอาจถูกมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์และบิด (เบือน) กฎหมายเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้ามหรืออย่างไร สุดท้ายเมื่อความจริงที่แท้กว่าปรากฏ ความอัดอั้นคับแค้นจะยิ่งทับถมทวีคูณก็เป็นได้

การเลือกตั้งที่มีปัญหาจึงเป็นเพราะรัฐธรรมนูญที่ “มัดมือชก” และองค์กรอิสระที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ “ระบอบพิสดาร” สามารถ “สืบทอดอำนาจ” ต่อไปให้ได้แบบขัดตาและขัดใจคนรุ่นใหม่ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ยอมสรุปผลอย่างชัดเจนเสียที

แท้จริงแล้วการเมืองไม่ได้ถึง “ทางตัน” แต่มีปัญหาเพราะคนบางคนบางกลุ่มไม่ยอมรับคำว่า “แพ้” จึงพยายามสร้างสถานการณ์และบิดเบือนกลไกต่างๆเพื่อดันทุรังให้คนคนเดียวกลับมามีอำนาจต่อ ภายใต้ “วาท(กรง)กรรม” ที่ว่า.. ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย (ที่มาจากการฉีกกฎหมาย)..

ไม่รู้ “นรกชังหรือสวรรค์แกล้ง?”..แต่ก็หวังว่าจะได้เห็น “กงเกวียนกำเกวียน” กันในชาตินี้ โดยไม่ต้องรอถึงชาติหน้า!!??

 


You must be logged in to post a comment Login

Казино левлучший портал для азартных игроков
Игровые автоматызахватывающая игра начинается сейчас
azino777испытай удачу прямо здесь
1win казинооткрой для себя мир азартных игр
Вулкан платинумавтоматы с высокой отдачей ждут тебя
Казино левгде выигрыши становятся реальностью
Игровые автоматыразвлекайся и выигрывай каждый день
азино три топоранаслаждайся адреналином от побед
Казино 1winкаждая игра — шаг к успеху
Вулкан россиятвой шанс на большой выигрыш
Казино левоснова азартного мастерства
Игровые автоматытоповые игры для каждого
Azino777только для настоящих ценителей риска
1win казинокайф от игры начинается здесь
Вулкан 24где каждый день приносит победы
Казино левновые высоты азартных эмоций
Игровые автоматыгде выигрыши реальны
азино три топорасамые горячие игры ждут
Казино 1winвыигрывайте с комфортом
Казино вулкан россияисследуй мир азартных автоматов
Казино левтвой источник азарта и выигрышей
Игровые автоматыискусство выигрыша ждет тебя
azino777почувствуй азарт и драйв
1win казиноидеальный выбор для азартных игр
Вулкан платинумиграй и побеждай с удовольствием
Казино левнаслаждайся азартом без границ
Игровые автоматылучшие призы ждут тебя
азино три топоратвоя игра начинается здесь
Казино 1winновые уровни азарта и удачи
Вулкан россияначни путь к победе прямо сейчас
Coco chat - Rejoignez nouvelles discussions enrichissantes sur Bed and Bamboo
Chatrandom - Discover exciting chats with new people on Bed and Bamboo
Chatrandom - Entdecke spannenUnterhaltungauf Bed and Bamboo
Chatrandom - Ontdek boeienchats op Bed and Bamboo
Coco chat - Partagez des moments uniques sur Hoodrich France
Chatrandom - Connect and chat on Hoodrich France
Chatrandom - Chatte mit der Hoodrich France Community
Chatrandom - Geniet van chats in Hoodrich France gemeenschap
Coco chat - Connectez-vous pour des échanges passionnants sur I’m Famous 51
Chatrandom - Meet and chat on I’m Famous 51
Chatrandom - Führe spannenGespräche auf I’m Famous 51
Chatrandom - Beleef gesprekkop I’m Famous 51
Coco chat - Discutez avec la communauté Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Explore vibrant conversations at Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Tritt spannendChats bei Quincaillerie Outillage Thollot bei
Chatrandom - Ga mee in boeiengesprekkbij Quincaillerie Outillage Thollot
Coco chat - Rejoignez TurboSystem pour discuter
Chatrandom - Engage in exciting chats at TurboSystem
Chatrandom - Genieße spannenChats bei TurboSystem
Chatrandom - Beleef chatplezier bij TurboSystem