“นิพิฏฐ์”แนะโฆษกศาลชี้แจงคำตัดสินผู้สมัครส.ส.ถือหุ้นสื่อยุติการร้องเรียน

On April 28, 2019

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า มีการวิจารณ์ให้ความเห็นทางวิชาการมากมายเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2562 ที่ให้เพิกถอนรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 โดยมีผู้ให้ความเห็นไปไกลถึงขนาดว่าถ้าศาลตีความแบบนี้อาจทำให้ ส.ส. หมดไปนับร้อยคน ถือเป็นวิกฤตทางรัฐธรรมนูญประการหนึ่ง ตนได้อ่านตอนแรกก็เคลิ้มตามไปว่าน่าจะมีปัญหาอย่างที่มีผู้ให้ความเห็นไว้จริงๆ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็ดูเหมือนสังคมจะวิตกอะไรเกินเหตุและฟังเขาว่ามากไป ตนจึงขอแสดงความเห็นไว้ดังนี้

1.เวลาเราไปจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน บริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จะมีแบบฟอร์มวัตถุประสงค์ของบริษัทไว้เป็นแบบมาตรฐานเหมือนกันหมดรวม 22 ข้อ หมายความว่าใครไปจดทะเบียนบริษัทก็สามารถทำกิจการตาม 22 ข้อได้

2.ในความเป็นจริง เมื่อเราไปจดทะเบียนเจ้าหน้าที่จะให้ระบุวัตถุประสงค์เพิ่มเติมเป็นข้อต่อไปเป็นข้อ 23, 24, 25 หรือมากกว่า แล้วแต่ว่าวัตถุประสงค์จริงๆที่เราต้องการประกอบกิจการคืออะไร

3.กรณีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2562 วินิจฉัยไว้ เราไม่มีข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกเพิกถอนชื่อจากการสมัคร ส.ส. ได้ระบุวัตถุประสงค์เพิ่มเติมไว้ต่อจากแบบมาตรฐานเป็นข้อที่ 23 หรือข้อต่อไปหรือไม่ หากระบุไว้คำวินิจฉัยของศาลฎีกาก็ชอบแล้ว เราอย่าไปวิตกเกินเหตุ สมมุติว่าเราระบุว่าประกอบกิจการด้านสื่อและเข้าไปเป็นหุ้นส่วน แม้ยังไม่ประกอบกิจกา ก็ถือว่าผิด สมัคร ส.ส. ไม่ได้

4.หากผู้เพิกถอนชื่อระบุวัตถุประสงค์ของห้างหรือบริษัทไว้ตามแบบมาตรฐาน และถูกเพิกถอนชื่อจากการสมัคร ส.ส. อันนี้จะสร้างปัญหามากจริงๆ อาจจะทำให้ ส.ส. หมดไปเป็นร้อย แต่หากเป็นไปตามนี้ก็มีวิธีแก้คือ ขอให้ศาลฎีกาประชุมใหญ่เพื่อกลับคำวินิจฉัยเดิม อย่างนี้ตนคิดว่าศาลฎีกาน่าจะรับฟังและแก้วิกฤตได้

“อย่างไรก็ตาม ผมว่าศาลฎีกาวินิจฉัยตามข้อ 3 มากกว่า ซึ่งน่าจะถูกต้องแล้ว เราอย่าฟังตามเขาว่ากันเลยครับ บ้านเมืองมีปัญหาเพราะเราฟังตามเขาว่ากันนี่แหละ ทางที่ดีผมแนะนำให้โฆษกศาลฎีกาออกมาให้รายละเอียดดีกว่าครับ เพราะถ้าโฆษกศาลออกมาแถลงก็ยุติการร้องเรียนกันได้หมดเลย จบข่าว”

Featured