วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2567

อีนุงตุงนัง

On April 30, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 30  เม.ย. 62)

ผ่านมาเดือนเศษประชาชนยังไม่รู้ผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าพรรคไหนได้ ส.ส. เท่าไร แต่ละเขตใครชนะเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แถมการนับคะแนนใหม่ที่ จ.นครปฐมก็กลับไปกลับมา นับแค่เขตเดียวยังเกิดความผิดพลาด ไม่อยากนึกถึงอีกหลายเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัคร ส.ส.  ไปยื่นขอให้ กกต. นับคะแนนใหม่ ถ้าต้องนับใหม่จริงๆคงดูไม่จืด ทั้งนี้ หากดูความไม่ชัดเจนในเรื่อง ส.ส.เขตที่กระทบถึงการแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีโอกาสสูงที่การประกาศรับรองผลเลือกตั้งให้ได้ร้อยละ 95 ของจำนวนที่นั่ง ส.ส. ในสภาจะไม่ทันวันที่ 9 พฤษภาคม

การเลือกตั้งผ่านมาแล้วเดือนเศษยังคงไม่มีความชัดเจนใดๆจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และไม่แน่ว่าที่จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคมนั้น จะทำได้หรือไม่

ในส่วนของ ส.ส.เขต จนถึงตอนนี้ กกต. สั่งเลือกตั้งใหม่ไปไม่กี่หน่วย สั่งนับคะแนนใหม่ไปอีกไม่กี่หน่วย

ใบส้มที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีว่าที่ ส.ส. กว่า 60 รายที่ถูกร้องเรียน ถึงตอนนี้ กกต. เพิ่งชักใบส้มแจกว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปรายเดียว และเหตุผลในการเอาเงินใส่ซองถวายพระก็ยังเป็นที่กังขาว่าเข้าข้อกฎหมายที่ระบุให้เป็นความผิดหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยต้องไปต่อสู้ในศาล ต้องรอดูว่าศาลจะสั่งอย่างไร ยกเลิกใบส้ม หรือเปลี่ยนใบส้มเป็นใบดำ

ผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขตยังมีปัญหาที่เขต 1 จังหวัดนครปฐม ที่ กกต. สั่งนับคะแนนใหม่ทั้งเขต นับครั้งแรกผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ชนะ นับใหม่ตอนกลางวันผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่พลิกมาชนะ ผ่านไป 1 คืน เปลี่ยนผลนับคะแนนกลับมาให้ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ชนะ โดยอ้างว่ามีความผิดพลาดในการรวมคะแนน

ผลการเลือกตั้งที่พลิกไปพลิกมายังไม่เท่ากับผลคะแนนรวมของผู้สมัครที่นับได้ ซึ่งมีความแตกต่างกันในการนับแต่ละครั้ง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ไม่อยากนึกถึงอีกหลายเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัคร ส.ส. ไปยื่นขอให้ กกต. นับคะแนนใหม่ ถ้าต้องนับกันใหม่จริงๆคงดูไม่จืด

ไม่ว่าจะมีการนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งอื่นอีกหรือไม่ และถ้ามีการนับคะแนนใหม่แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร ผู้สมัครจากพรรคการเมืองใดจะชนะเลือกตั้ง

แต่ที่แน่ๆ กกต. น่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ล้มละลายในความน่าเชื่อถือไปแล้ว

นอกจากผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขตที่ดูวุ่นวายแล้ว ผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่น่าจะง่ายกว่าก็ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะใช้สูตรใดคำนวณแบ่งเก้าอี้ ส.ส. ให้พรรคการเมือง

หลัง กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วศาลไม่รับเรื่องไว้ชี้ขาด ทำให้ กกต. ต้องหาทางออกในเรื่องนี้เอง ซึ่งเรื่องการแบ่งโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อคงไม่จบง่าย เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องที่มีคนมาร้องไว้ให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด

คงต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะยืนยันคำเดิมคือไม่รับเรื่องไว้พิจารณา หรือจะพลิกรับเรื่องเอาไว้ชี้ขาด

ถ้ายืนยันคำเดิมคือเรื่องยังไม่เกิด ไม่เข้าเงื่อนไขให้รับไว้ชี้ขาด ก็ยังได้ลุ้นว่า กกต. อาจประกาศผลเลือกตั้งได้ทันตามกำหนดในวันที่ 9 พฤษภาคม แต่หากรับเรื่องไว้ชี้ขาด กกต. ต้องรอฟังคำตัดสินที่อาจไม่ทันประกาศรับรองผล ส.ส. ซึ่งจะทำให้เรื่องยุ่งหนักขึ้นไปอีก เพราะจะมีการฟ้องร้อง กกต. ฐานไม่ประกาศรับรองผลเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด

อย่างไรก็ตาม ต่อให้ กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.เขตได้ทันตามเวลาที่กฎหมายกำหนดก็น่าจะยังติดปัญหา ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว การเลือกตั้งใหม่ทุกเขตที่ กกต. อาจแจกใบส้มให้ว่าที่ ส.ส. เพิ่มเติม จะมีผลทำให้คะแนนรวมของแต่ละพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นหรือลดลง

หากผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขตยังไม่สะเด็ดน้ำก็ประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ได้ จะทำให้ กกต. ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งให้ได้ร้อยละ 95 ของจำนวนที่นั่งของ ส.ส. ในสภาได้ทันวันที่ 9 พฤษภาคมค่อนข้างแน่ ซึ่งก็มีคนรอยื่นฟ้อง กกต. อยู่แล้ว เพราะเห็นว่าการจัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 150 วันหลังพระราชบัญญัติเลือกตั้ง ส.ส. บังคับใช้ หมายรวมถึงประกาศรับรองผลเลือกตั้งด้วย

ต่อให้ยึดกฎหมายอีกวรรคหนึ่งที่เขียนไว้ว่า ให้ กกต. รับรองผลเลือกตั้งให้ได้ร้อยละ 95 ของจำนวนที่นั่งของ ส.ส. ในสภาภายใน 60 วันหลังเลือกตั้ง คือวันที่ 24 พฤษภาคม ก็ยังไม่แน่ว่า กกต. จะรับรองผลเลือกตั้งได้ทันหรือไม่หากต้องมีว่าที่ ส.ส. ได้ใบส้มหลายคน ต้องจัดเลือกตั้งใหม่กันในหลายเขตหลายจังหวัด

สรุปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่เละเทะ อีนุงตุงนังมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย


You must be logged in to post a comment Login