- เลือกงานให้โดน บริหารคนให้เป็น ตาม“ลัคนาราศี”Posted 19 hours ago
- ต่างศาสนา ต่างชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่างPosted 19 hours ago
- โลภ•ลวง•หลง เกมพลิกชีวิต รีแบรนด์หรือรีบอร์นPosted 19 hours ago
- กูไม่ใช่ไก่ต้มเว้ย! อย่ามาต้มกูเลย..Posted 19 hours ago
- หยุดความรุนแรง-ลวงโลกPosted 2 days ago
- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 5 days ago
- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 6 days ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 7 days ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 1 week ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 1 week ago
มุ่งสู่เป้าหมาย
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 พ.ค. 62)
ผลการเลือกตั้งที่ดูวุ่นวายทั้ง ส.ส.ระบบเขตและ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจะไม่กระทบต่อการประกาศรับรองผลตามกรอบเวลาที่ กกต. ประกาศไว้ จะไม่มีการให้ใบส้มมากมายจนต้องจัดเลือกตั้งใหม่ในหลายเขตอย่างที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะให้ผ่านไปก่อนแล้วตามสอยภายหลัง ทั้งนี้ เพื่อให้เปิดประชุมสภาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ว่ากันว่าตอนนี้บรรดา ส.ว.ลากตั้ง 250 คนรอเวลาที่จะทำหน้าที่ไม่ไหวแล้ว ส่วนจะมีใครได้เป็น ส.ว. บ้างได้เห็นหน้าตากันปลายสัปดาห์หน้าแน่นอน
ใครที่ห่วงว่าการเลือกตั้งที่สุดยุ่งเหยิงจะทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลเลือกตั้งไม่ทันตามกำหนดคือวันที่ 9 พฤษภาคม คงไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว
ทั้งนี้เพราะ กกต. ชุดนี้ทำงานแบบเพลย์เซฟตัวเองมาตลอด อย่างไรก็ต้องประกาศรับรองผลให้ได้ครบตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนดคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของจำนวน ส.ส. ในสภา เพื่อไม่ให้มีปัญหาตีความจัดเลือกตั้งให้เรียบร้อยภายใน 150 วันหลังกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้
ถ้าจำกันได้แม้มือกฎหมายในฝ่ายคุมอำนาจจะออกมาพูดให้มั่นใจว่ากรอบเวลา 150 วัน ไม่นับรวมประกาศผลเลือกตั้งที่กฎหมายกำหนดให้ต้องประกาศผลภายใน 60 วันหลังเลือกตั้ง แต่ กกต. ก็ยืนยันมาตลอดว่าจะประกาศผลภายในวันที่ 9 พฤษภาคม เพื่อไม่ให้เกินกรอบเวลา 150 วัน ที่อาจทำให้มีคนนำเรื่องไปฟ้องร้องได้
หมายความว่า กกต. ตั้งธงไว้ชัดเจนแล้ว จะไม่รอฟังผลตีความสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เพราะลึกๆ กกต. คงเชื่อว่าศาลจะไม่รับเรื่อง เหมือนที่ไม่รับเรื่องไว้พิจารณาตอนที่ กกต. ยื่นให้ช่วยชี้ขาด
ขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ซึ่งเป็นทั้งคนเขียนรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยบอกว่าหมดหน้าที่แล้ว
เท่ากับว่า กกต. ต้องเสี่ยงลุยไฟด้วยตัวเองในกรณีนี้
ถ้าฟังจาก พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ก็พอมองเห็นว่า กกต. ได้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว โดยบอกว่ามีแค่สูตรเดียวตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้มี 3-4 สูตรตามที่พูดกันในโลกโซเชียล
อย่างไรก็ตาม หากดูจากการให้สัมภาษณ์ของคนใน กกต. หลายคนก่อนหน้านี้จะเห็นถึงความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ ถ้ามั่นใจคงไม่ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยชี้ขาด แต่เมื่อศาลไม่เล่นด้วยก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ซึ่งเลขาธิการ กกต. บอกว่าสูตรคำนวณจะเป็นอย่างไรรอรู้พร้อมกันวันประกาศผลเลือกตั้ง
ปัญหาเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อถือว่าจบในส่วนของ กกต. แต่เมื่อประกาศออกมาแล้วคนอื่นจะจบด้วยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ย้อนมาที่เรื่อง ส.ส.แบบแบ่งเขต แม้จะมีเรื่องร้องเรียนกันมาก และมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าอาจมีว่าที่ ส.ส. ได้ใบส้มมากกว่า 60 ใบนั้น
ถึงตอนนี้น่าจะไม่เป็นอย่างนั้น
ถ้าจับความเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองที่อิงกับขั้วอำนาจปัจจุบัน การแจกใบส้มน่าจะอยู่ในระดับ 10 ใบบวกลบ เพราะถ้าแจกกันถึงกว่า 60 ใบตามข่าวก่อนหน้านี้จะทำให้ต้องเสียงบประมาณการเลือกตั้งใหม่จำนวนมาก
แถมจำนวนใบส้มที่ฝ่ายหนึ่งอาจจะได้รับมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะยิ่งไปกระตุกความรู้สึกร่วมของคนในสังคม ส่งผลให้เกิดการไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้มากขึ้น ซึ่งจะกระทบแรงไปถึงรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่จะตั้งขึ้นมาในอนาคตด้วย
ว่ากันว่าตอนนี้บรรดา ส.ว.ลากตั้ง 250 คน รอยกมือโหวตเลือกนายกฯในสภากันแล้ว ส่วนใครจะได้เป็น ส.ว.ลากตั้งบ้าง ข่าวว่าน่าจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้
เมื่อเป้าหมายใหญ่ยังไม่เด่นชัด อะไรที่จะกระทบก็ต้องปล่อยผ่านไปบ้าง
You must be logged in to post a comment Login