ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มารับฟังความเห็นและรับข้อเสนอของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอดและบางข้อเสนอยังอยู่ในขั้นตอนของกฏหมาย ไม่ได้ออกง่ายๆ ซึ่งขอให้เข้าใจกัน ทั้งนี้ ประเทศไทยถือว่ามีผู้ว่างงานน้อยที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 4 และรัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาให้แรงงานมีศักยภาพสูงและส่งเสริมแรงงานในด้านต่างๆ ขณะเดียวกัน ในเรื่องของค่าจ้างขั้นต่ำ และมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามมาตรฐานของฝีมือแรงงานไปแล้ว ถือว่าทุกอย่างมีความก้าวหน้าตามลำดับ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้เราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัชกาลและอยู่ในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเรา มีความปลอดภัย สงบเรียบร้อยและมีเสถียรภาพด้วยความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลคนเดียวไม่สามารถทำได้ หลายฝ่ายต้องช่วยกัน
โอกาสนี้ทางสภาองค์การลูกจ้างสมาพันธ์แรงงานแห่งประเทศไทย ได้ยื่นข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติทั้งหมด 10 ข้อคือ
1. ให้รัฐบาลรองรับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87และ 98 2.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการนำร่องพ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่ผ่านการประชาพิจารณ์มาแล้วเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในรัฐสภาฯโดยเร่งด่วน 3.ให้รัฐบาลแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 4.ให้รัฐบาลปฏิรูปแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม ปรับฐานการรับเงินบำนาญโดยให้มีอัตราเริ่มต้นที่ 5000 บาท
5. ให้รัฐบาลรวมกองทุนเงินทดแทนกับกองความปลอดภัยแรงงานและยกระดับเป็นกรมความปลอดภัยแรงงาน 6. ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาต่อรัฐสภาโดยเร่งด่วนเพื่อเป็นกองทุนของลูกจ้าง 7.ให้รัฐบาลออกกฏหมายคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพแรงงานนอกระบบและมีสิทธิจัดตั้งองค์กรได้ 8.ให้รัฐบาลจัดระบบสวัสดิการหรือกองทุนสวัสดิภาพของรัฐวิสาหกิจให้กับพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งที่ยังมีสถานภาพเป็นพนักงานและที่พ้นสภาพความเป็นพนักงานให้ได้รับไม่น้อยกว่าลูกจ้างภาคเอกชนให้ได้รับตามระบบประกันสังคม มาตรา33และมาตรา39
9.ให้กระทรวงแรงงานปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 74 จัดให้มีระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ทุกฝ่ายเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน
10.ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติปี 2562 โดยประเด็นสำคัญ คือแรงงานต้องการให้รัฐบาลปรับฐานการรับเงินบำนาญโดยให้มีอัตราเริ่มต้นที่ 5000 บาท ให้ความคุ้มครองลูกจ้างซับคอนแทค ลูกจ้างเหมา โดยให้นายจ้างปฏิบัติตามมาตรา 11/1 ส่งเสริมให้จัดตั้ง สหกรณ์ออมทรัพย์และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขยายอายุผู้ประกันตนจาก15-60ปี เป็น15-70ปี รองรับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งวันแรงงานปีนี้ไม่มีการเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากในหลายพื้นที่ได้มีการปรับขึ้นเกินเพดานค่าแรงขั้นต่ำแล้ว
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าว ขอบคุณผู้ใช้แรงงานในวันแรงงานแห่งชาติ ว่า วันแรงงานแห่งชาติเป็นวันสำคัญของพี่น้องคนทำงานซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญเติบโต ดังนั้นรัฐบาลจึงมุ่งหวังให้ประเทศไทยมีการผลิตที่เป็นอุตสาหกรรม 4.0 โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมโดยการพัฒนาศักยภาพแรงงานให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง และเข้าถึงสิทธิต่างๆ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมทั้งด้านการมีงานทำ การพัฒนาทักษะฝีมือ การคุ้มครองแรงงาน และการมีหลักประกันสังคม
สำหรับข้อเรียกร้องในปีนี้เป็นงานที่รัฐบาลได้ดำเนินการแล้วและบางส่วนอยู่ระหว่างดำเนินการดังนั้นเพื่อให้รูปธรรมจึงมอบหมายให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักในการหารือร่วมกับพี่น้องแรงงาน
You must be logged in to post a comment Login