วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“เรืองไกร”แนะกกต.รอศาลวินิจฉัยสูตรคำนวณส.ส.ก่อนประกาศผลเลือกตั้ง

On May 6, 2019

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. กล่าวว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 128 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญจะลงมติในวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 09.30 น. นั้น ตนได้ไปร้องให้ผู้ตรวจฯ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยแท้ แต่ต่อมากลับมีข่าวว่า กกต. จะรีบสรุปผลการเลือกตั้งเพื่อประกาศรายชื่อ ส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ซึ่งหาก กกต. ประกาศผลก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็อาจจะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และไม่มีเหตุผลใดที่จะรอไม่ได้ จึงไม่ทราบว่า กกต. คิดอะไรอยู่ ทั้งนี้ แม้ กกต. จะรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ในปัญหาข้อเท็จจริง กกต. เรื่องนำทุกคะแนนมาคำนวณหา ส.ส. บัญชีรายชื่อ ก็ต้องตรวจสอบตามความใน พ.ร.ป.ส.ส. มาตรา 127 ให้ได้ว่า การเลือกตั้งของทุกเขตเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และต้องฟังความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทุกเขตก่อนรวมทั้งต้องตรวจสอบข้อร้องเรียนที่มีหลายร้อยเรื่องให้เป็นที่ยุติก่อน

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า กกต. ทราบดีอยู่แล้วว่า มีผู้ร้องจากหลายฝ่ายขอให้ตรวจสอบคะแนนเลือกตั้งเยอะแยะไปหมด และยังมีการร้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. ฐานเป็นผู้ถือหุ้นสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนใดๆ อีกหลายสิบคดี ตามที่ กกต. รับเรื่องไว้ตรวจสอบแล้ว นอกจากนี้ ยังมีในส่วนที่ตนร้องหลังสุดอีก 5 ราย คือ นายอนุทิน นายณัฏฐพล นายทวีศักดิ์ นายเอกณัฏ และนางบุญยิ่ง เมื่อรวมกับคำร้องของบุคคลอื่น ก็น่าเชื่อว่า ส.ส. เขตที่ถูกร้องตรวจสอบอาจมีเกินร้อยละ 5 ของ 350 เขต คือมากกว่า 18 คน และยังมี ส.ส. บัญชีรายชื่อถูกร้องด้วย เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) หรือนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมใจไทย (ภท.) เป็นต้น ดังนั้น คะแนนเสียงทุกเสียงที่รัฐธรรมนูญออกแบบให้มีค่านั้น หากแต่ละคะแนนยังตรวจสอบไม่ได้ว่าได้มาโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือไม่ กกต. ก็หาควรจะประกาศผลไปก่อนไม่ เพราะคะแนนของ ส.ส. เขตจะผูกพันไปถึงการคำนวณหา ส.ส. บัญชีรายชื่อ ดังนั้น หาก กกต. ประกาศผลไปโดยไม่รอให้ปัญหาข้อกฎหมายและปัญหาข้อเท็จจริงยุติก่อน กกต. ก็อาจถูกกล่าวหาฟ้องร้องจากหลายฝ่ายตามมาได้

นายเรืองไกร กล่าวต่อไปว่า ในการตรวจสอบของตน ยังพบว่า มี ส.ส. ทั้งแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ที่เคยมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการออกหนังสือพิมพ์ จำนวน 10 ราย ซึ่งจะไปยื่นหนังสือให้ กกต. ทำการตรวจสอบโดยด่วนในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ และยังมีข้อมูลการถือหุ้นที่รอการตรวจสอบอีกกว่า 50 รายจากหลายพรรค ซึ่งกำลังร้องขอเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อได้มาและตรวจสอบคัดกรองแล้วก็จะยื่น กกต. ให้ตรวจสอบต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงตั้งข้อสังเกตและสงสัยว่า กกต. จะเร่งรีบเพื่อประกาศผลไปทำไม ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันที่ 8 พฤษภาคมอยู่แล้ว เพราะเห็นข่าวมีการไปประชุมนอกเวลาราชการในวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและบางข่าวรายงานว่า กกต. อาจจะประกาศรายชื่อ ส.ส. ในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งทำให้เข้าใจว่า อาจจะมีการประกาศไปก่อนที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะออกมา ถ้าเป้นเช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่สังคมคงกังขา ทั้งที่ กกต. ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมและกฎหมายให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

นายเรืองไกร กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ ตนจึงจะไปยื่นหนังสือร้องทักท้วง กกต. เพื่อขอให้รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อน และจะยื่นเรื่องเพิ่มเติมให้ กกต. สอบผู้สมัคร ส.ส. อีก 10 ราย รายละเอียดปรากฏในคำร้อง ว่าขาดคุณสมบัติเพราะถือหุ้นกิจการที่มีวัตถุประสงค์ออกหนังสือพิมพ์หรือไม่ และจะมีกรณีที่ต้องร้องตามมาอีกซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ประมาณ 50 ราย โดยตนจะไปยื่นคำร้องด่วนในกรณีของ 10 รายนี้ก่อน ที่ สนง. กกต. ศูนย์ราชการอาคารบี ในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ เวลา 9.00 น. พร้อมนำเอกสารที่เป็นหนังสือรับรองของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอีกปึกใหญ่ไปให้ กกต. เพื่อเป็นหลักฐานด้วย


You must be logged in to post a comment Login