- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 21 mins ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 22 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
“สามารถ”ชี้เดาได้ใครเป็นนายกฯแต่รัฐบาลจะมีเสถียรภาพหรือไม่ให้รอดู
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความหัวข้อ “เส้นทางเดินตามรัฐธรรมนูญ” ว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 121 ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ 8 พฤษภาคม จะมีการเรียกประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการประชุม หลังจากวันนั้น แต่ละสภา คือ ส.ส. และ ส.ว.จะนัดประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธานต่อไป
เมื่อเปิดสมัยประชุมรัฐาสภาแล้ว ความเคลื่อนไหวทางการเมืองคงคึกคัก โดยเฉพาะการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งแม้รัฐธรรมนูญจะเปิดกว้างว่ารองประธานฯจะมีหนึ่งหรือสองคนก็ได้ ที่ผ่านมาจะมีทั้งรองคนที่หนึ่งและรองคนที่สอง ไว้ช่วยกันทำหน้าที่
“ยืนยันด้วยตัวเองว่าการมีรองประธานสภา 2 คน มีไว้ช่วยกันทำหน้าที่จริงๆ เพราะผมเคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่งมาก่อนระหว่างปี 2551 – 2554 แค่ผลัดกันขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคนละ 3 ชม.หนักพอควร เมื่อถึงวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ หรือญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่มักประชุมกันข้ามวันข้ามคืนยิ่งหนักใหญ่ การเมืองทุกวันนี้เป็นการแบ่งขั้วกันชัดเจนอย่างที่ทราบ ฝ่ายใดได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร (251 เสียง) จะได้ทั้งตำแหน่งประธานสภาและรองประธานไปครอง การลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จะใช้วิธีลงคะแนนลับ”นายสามารถกล่าว
นายสามารถ กล่าวว่า หลังจากนั้นจะมีการนัดประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมี ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้ง 250 คน มาประชุมร่วมกับ สส 500 คนด้วย โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานที่ประชุมรัฐสภา ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่รองประธานที่ประชุมรัฐสภา
การเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร 25 ที่นั่ง มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลที่พรรคได้เสนอชื่อว่าเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีไว้แล้วก่อนการเลือกตั้ง ผู้จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา คือ 376 เสียง วิธีการลงคะแนนกระทำโดยเปิดเผย ถ้าไม่มีเหตุแทรกซ้อนใดใด คงพอคาดเดาได้ว่าใคร จากพรรคไหนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ส่วนรัฐบาลจะมีเสถียรถาพอหรือไม่ จะอยู่ยาวหรืออยู่สั้น ค่อยว่ากันอีกที ทุกอย่างเป็นไปตามเส้นทางที่กติกากำหนดไว้
You must be logged in to post a comment Login