วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“ธนาธร”ชวน”ปิดสวิตช์ส.ว.”หยุดสืบทอดอำนาจ

On May 9, 2019

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คถึงการแต่งตั้ง ส.ว. ว่า

[ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ข้อเสนอของผมที่ให้ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. ยังมีความเป็นไปได้ และเราต้องทำให้เกิดขึ้นจริง]

101

ถึงตอนนี้มีความชัดเจนเรื่องจำนวน ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อที่ กกต. ประกาศรับรองแล้ว 498 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร เพียงพอที่จะทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองและอนาคตประเทศไทยว่าจะเดินไปทางไหน ซึ่งผมและพรรคอนาคตใหม่ขอให้ทุกท่านนำข้อเสนอที่เราพูดไว้ก่อนเลือกตั้งเรื่องการ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” มาช่วยกันผลักดันทำให้เกิดขึ้นจริง

การ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” คือการที่เราสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในสภาผู้แทนราษฎร (ที่มีอยู่ 500 คน) โดยไม่ให้สมาชิกวุฒิสภา (250 ที่นั่ง) ที่ไม่ได้มาจากประชาชนสามารถดำเนินการเลือกแล้วส่งผลต่อผลการเลือกภายในสภาผู้แทนราษฎรให้ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้

ต้องขออธิบายย้อนรอยไปว่า ในรัฐธรรมนูญและบทเฉพาะกาลที่ประกาศใช้ในยุค คสช. กำหนดให้ ส.ส. (500 ที่นั่งที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน) ร่วมกับ ส.ว. (อีก 250 ที่นั่งที่มาจากการเลือกของ คสช. รวมทั้งสองสภาแล้วมี 750 ที่นั่ง) เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครองเสียงส่วนใหญ่ เสียงข้างมาก หรือเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา (375 ที่นั่ง) ได้ก็จะได้เป็นนายกฯไป

แต่ตอนนี้ 3 พรรคการเมืองที่ประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งและต้องการสืบทอดอำนาจ คสช. ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ (115 ที่นั่ง) พรรครวมพลังประชาชาติไทย (5 ที่นั่ง) พรรคประชาชนปฏิรูป (1 ที่นั่ง) รวมแล้ว 121 ที่นั่ง เมื่อบวกกับ 250 ส.ว. แล้วก็จะได้เพียง 371 ที่นั่ง ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง (375 ที่นั่ง) ของจำนวนที่นั่งรวมในสองสภา (750 ที่นั่ง) ซึ่งข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. ที่เราเคยเสนอไว้ว่ากรณีพรรคที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรน้อยกว่า 124 ที่นั่งนั้นยังสามารถเป็นไปได้

ดังนั้น ผมและพรรคอนาคตใหม่ขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยกลับไปทวงถามคำสัญญาที่พรรคการเมืองต่างๆเคยให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง (ว่าพวกเขาไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.) เพราะนี่คือการยับยั้งนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากประชาชน

พรรคการเมืองทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหรือพรรคฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลสามารถมีส่วนร่วมได้ทั้งหมด โดยการโหวตให้นายกรัฐมนตรีที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีที่รวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ และเราจะมี 377 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรที่พร้อม “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ซึ่งมากกว่า 3 พรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจบวกกับ ส.ว. 250 คน ทำให้การเมืองแบบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้

นี่จะเป็นบันไดก้าวแรกที่ทำให้ประเทศไทยเดินทางกลับสู่ประชาธิปไตย โดยหลังจากนี้พรรคอนาคตใหม่พร้อมและยินดีเดินทางไปพบกับทุกพรรคการเมืองที่มีนโยบายไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด พรรคฝ่ายค้าน พรรคจัดตั้งรัฐบาล พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ฯลฯ เรามีส่วนร่วมกันในการที่จะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช. และเปิดประตูบานใหม่สู่ประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่พร้อมไปพูดคุยกับทุกพรรคเพื่อให้การปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นจริงได้

#อนาคตใหม่ #เลือกตั้ง62 #ปิดสวิตช์ ส.ว.


You must be logged in to post a comment Login