วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โยนอะไรก็งับ

On May 14, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 14 พ.ค. 62)

การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลชัดเจนขึ้นอีกระดับเมื่อ 11 พรรคการเมืองเล็กประกาศเท 11 เสียงสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี แม้คะแนนเสียงอย่างเป็นทางการยังไม่ถึงครึ่งของสภาผู้แทนฯ แต่ยังมีเวลาสำหรับการต่อรองกับพรรคขนาดกลางที่ยังแทงกั๊กอยู่ โดยมีเดดไลน์อยู่ที่หลังโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งจะทำให้อำนาจต่อรองต่างๆลดน้อยลง ถึงตอนนั้นฝ่ายนี้โยนเงื่อนไขอะไรออกไปหรืออีกฝ่ายโยนเงื่อนไขอะไรออกมาเชื่อว่าต่างฝ่ายต่างงับข้อเสนอได้ไม่ยาก

อยู่ในอำนาจมาจะครบ 5 ปี หนึ่งในผลงานที่เด่นชัดที่สุดของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือการแต่งเพลง

ล่าสุดปล่อยซิงเกิลใหม่ลำดับที่ 10 ชื่อ “มาร์ชไทยคือไทย” ท่วงทำนองปลุกใจคล้ายเพลงมาร์ชของกองทัพ มีเนื้อหามุ่งเน้นความรักชาติและความสามัคคี และให้คนไทยช่วยปกป้องรักษาประเทศชาติ

5 ปี 10 เพลง ครบอัลบั้มพอดี

กลับมาที่ความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุดพรรคการเมืองเล็ก 11 พรรคที่ได้ ส.ส. มาทั้งที่มีคะแนนเสียงต่ำกว่าเกณฑ์ ส.ส.พึงมี ร่วมกันประกาศจุดยืนเท 11 เสียง สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาล และโหวตหนุน “ลุงตู่” เป็นนายกฯ โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้ประเทศเดินหน้าและมีรัฐบาลใหม่บริหารประเทศโดยเร็ว

เพื่อความมั่นใจงานนี้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมฟังการแถลงข่าวประกาศจุดยืน 11 พรรคเล็กด้วยตัวเอง

ประมาณว่าไปฟังกับหู ดูกับตา เพื่อให้เกิดความมั่นใจ

เท่ากับว่าตอนนี้ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐมีเสียง ส.ส. สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว 131 เสียง ซึ่งยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรคือ 250 เสียง

อย่างไรก็ตาม การโหวตเลือกนายกฯไม่มีปัญหาแล้ว เพราะคะแนนเสียงเพียงพอ เมื่อรวมกับ ส.ว.ลากตั้ง 250 เสียง ก็จะมีเสียงสนับสนุน “ลุงตู่” ในสภา 381 เสียง

เท่ากับว่าฝ่ายพลังประชารัฐกำชัยไปครึ่งหนึ่งแล้ว อย่างไรเสีย “ลุงตู่” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

ส่วนการหาเสียง ส.ส. สนับสนุนเพิ่มเติมนั้น หากดูจากท่าทีของแกนนำพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา หรือแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังไม่ได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจน พอทำให้มองเห็นภาพว่าการต่อรองต่างๆยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น

“ขอร้องพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์อย่าต่อรองเยอะ ขอให้หาคนคุณภาพมาคุยกัน”

นี่คือคำกล่าวของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 พรรคเล็กที่ประกาศร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทำให้มองเห็นภาพว่ายังมีการต่อรองกันอยู่ ที่ประกาศว่ายังไม่ตัดสินใจก็เพราะการต่อรองยังไม่ลงตัวอย่างที่ต้องการ

ที่สำคัญคือคนที่มาต่อรองอาจยังไม่ใช่คนที่มีอำนาจตัดสินใจเต็ม 100%

อย่างไรก็ตาม แม้การต่อรองยังดำเนินการอยู่ แต่อำนาจต่อรองของพรรคที่ยังไม่ตัดสินใจจะลดน้อยลงทันทีหากฝ่ายพรรคพลังประชารัฐลุยโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีล่วงหน้าไปก่อน

เมื่อได้เก้าอี้สำคัญมาแล้วเชื่อว่าท่าทีของพรรคที่ยังแทงกั๊กจะเบาลง เพราะอย่างน้อยเงื่อนไขเรื่องจะเป็นขั้วที่สามได้เป็นนายกฯส้มหล่นไปจัดตั้งรัฐบาลกันเองจะถูกตัดทิ้งไป เหลือทางให้เลือกแค่เป็นฝ่ายค้านหรือเข้าร่วมรัฐบาลเท่านั้น

เมื่อยังถือไพ่เหนือกว่าอยู่ในมือ จึงเห็นได้ว่าแกนนำพรรคพลังประชารัฐแสดงท่าทีชัดเจนว่ายังคุยกันได้เรื่อยๆจนกว่าจะได้เงื่อนไขที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้ ไม่เร่งทุบโต๊ะปิดดีลกับพรรคที่แทงกั๊ก

แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็เป็นไปได้ว่าหลังได้เก้าอี้นายกฯมาแล้วอำนาจต่อรองของฝ่ายพลังประชารัฐจะลดน้อยลงเสียเอง อีกฝ่ายเสนอเงื่อนไขอะไรก็ต้องยอม เหมือนที่มีคนบอกว่าโยนอะไรมาก็ต้องงับ คงไม่กล้าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะรู้ดีว่าอายุสั้น


You must be logged in to post a comment Login