วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“อนุทิน”ยันยังไม่ตัดสินใจจับมือฝ่ายไหนปัดคุยรัฐบาลขั้วที่ 3

On May 20, 2019

ที่โรงแรมโมเดน่า บาย เฟร์เซอร์ จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานเปิดการปฐมนิเทศ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทย ก่อนที่จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรกในวันที่ 24 พฤษภาคม และจะมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรตามกระบวนการในวันที่ 25 พฤษภาคม

นายอนุทินให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การประชุมสัมมนาวันนี้ จะเน้นเรื่องวิชาการ เพราะ ส.ส. ทั้ง 51 คน มีหลายคนที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็น ส.ส. ครั้งแรก จึงต้องปฐมนิเทศให้รับทราบถึงข้อปฏิบัติต่างๆ รวมถึงข้อควรทำ ข้อไม่ควรทำ การวางตน และสิทธิของการเป็นผู้แทนราษฎร เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ส่วนตนก็ต้องเข้าร่วมการปฐมนิเทศด้วย เพราะถือเป็น ส.ส.ป้ายแดง นอกจากนี้ ยังมีการชี้แจงวิธีการทำตามกฎระเบียบ เช่น การชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตามกฎหมาย โดยได้รับความร่วมมือจาก ป.ป.ช. จัดส่งวิทยากรมาอบรมและบรรยายให้เกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้บอกให้ ส.ส. ลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน เกี่ยวกับทิศทางของพรรคว่าต้องการให้เดินไปทางไหน โดยจะนำมาพูดคุยหารือในวันนี้ด้วย จากนั้น จะมีการหารือว่าพรรคต้องการมีบทบาทในสภาอย่างไร และใครมีความเชี่ยวชาญด้านใดบ้าง เพื่อจะมอบหมายให้ไปอยู่ประจำคณะกรรมาธิการต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ ริเริ่ม และให้ความคิดเห็นในทุกมิติ

เมื่อถามว่า หากรับฟังความคิดเห็นของ ส.ส. ที่ไปฟังเสียงชาวบ้านมาแล้ว จะสามารถเคาะบทสรุปท่าทีของพรรคในวันนี้ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องรับฟังก่อน คนอื่นเขารอถึงวันที่ 23-24 พฤษภาคม ทำไมต้องมาเร่งตนด้วย เมื่อถามต่อว่า แต่หลายคนคาดหวังว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีอะไรคืบหน้า นายอนุทิน กล่าวว่า สมมุติตนจะตัดสินใจหรือจะทำอะไร ก็เหมือนกับพรรคอื่นที่ต้องขอฉันทานุมัติจาก ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคว่าจะให้ใครเป็นตัวแทนของพรรคในการตัดสินใจเรื่องทิศทางทางการเมือง ที่ก็น่าจะเป็นตน ซึ่งอาจจะมีอะไรในใจแล้วก็ได้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องบอกตอนนี้ เพราะคนอื่นก็เลื่อนเหมือนกัน เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มจะเลื่อนเหมือนกันใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่ได้เลื่อน แต่ถามว่าวันนี้มีใครมาหาเราหรือยัง ก็ยังไม่มี อย่าลืมว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคลำดับที่ 5 ถามว่าพรรคลำดับที่ 1 จัดรัฐบาลหรือยัง จัดได้หรือไม่ ถ้าจัดไม่ได้ พรรคลำดับ 2 จัดหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ตนดูจากข่าว ก็มีการบอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นขั้วที่ 3 กับพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แต่ตนยืนยันว่ายังไม่ได้คุยอะไรกันกับพรรคประชาธิปัตย์

“ตอนนี้ต้องนิ่ง เพราะการนิ่งคือสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งต้องดูว่าความคิดเห็นของชาวบ้านเป็นอย่างไร เพราะผมจะต้องรับฟังจาก ส.ส. ทุกคน หรือผมอาจจะให้ ส.ส. ทุกคนโหวตลับก็ได้ ว่าอยากไปในทิศทางไหน เพราะนี่เป็นประชาธิปไตย เราต้องรับฟังทุกมิติ ไม่ต้องสนใจแรงกดดันใดๆ เพราะพรรคจะไม่มีการชี้นำและโน้มน้าว วันนี้ขอให้ทุกคนปล่อยอารมณ์มาเต็มที่ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งผลการโหวต ผมจะอ่านคนเดียว แล้วก็จะไปนั่งบริกรรมของผม” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีสวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระบุอยากเห็นรัฐบาลขั้วที่ 3 นายอนุทินย้อนถามว่า โพลไหน เพราะโพลนี้ก็ด่าทางนี้ โพลนู้นก็ด่าทางนู้น บอกไปทางนี้ อีกฝั่งก็ด่า บอกไปทางนี้ อีกฝั่งก็ด่า เพราะฉะนั้น ต้องประเมินให้ถูก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะพูดไว้ชัดเจนว่าบ้านเมืองเป็นใหญ่ และประชาชนคือคนที่พรรคต้องคอยปกป้องและรักษาผลประโยชน์ ตนบอกชัดเจนแล้วว่า ส.ส. 500 คนต้องนำ ส.ว. 250 คน ดังนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่มีพรรคภูมิใจไทยแน่นอน เราต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเท่านั้น

เมื่อถามว่า สื่อบางสำนักได้จัดทำโผคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้นายอนุทินเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทินยิ้มและกล่าวว่า ก็ดีเหมือนกัน เพราะตนเคยอยู่มา 2 สมัยแล้ว แต่ตอนนี้เรายังไม่ไปไกลถึงตรงนั้น สำหรับกระทรวงสาธารณสุข คนอาจมองว่าคุณพ่อของตนเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการมาก่อน อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ไม่มีปัญหา หากได้เป็นจริงก็ถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากนโยบายกัญชา จะได้ถูกผลักดันเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าจะได้เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เพราะเรายังไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย อย่างไรก็ตาม วันนี้คงจะได้รับฉันทานุมัติ ซึ่งตนก็ต้องนำไปคิดให้มาก เพราะเป็นเรื่องของบ้านเมือง จะมาทำอะไรตามอารมณ์และความรู้สึกไม่ได้ ต้องปล่อยวาง ต้องเป็นกลางมากๆ

เมื่อถามว่า นอกจากรอฟังความเห็นของประชาชนแล้ว ยังมีเงื่อนไขอื่นอีกหรือไม่ที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะเงื่อนไขเรามี 4 ข้อ ที่ประกาศตลอดเวลา คือ 1.เรื่องความจงรักภักดี 2.เรื่องความตั้งใจทำงาน ซึ่งต้องไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีความขัดแย้ง ต้องรักประชาชน และต้องรับทุกนโยบายของพรรคภูมิใจไทยไปปฏิบัติเป็นรูปธรรม ดังนั้น หากจะไปคุยกับใครหรือฝ่ายไหน เราก็ต้องฟังเงื่อนไขของเขา และดูว่าเรารับได้หรือไม่ ใครจะมาบอกให้เราเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องฟังว่าเพราะอะไร และคนอื่นคิดว่าอย่างไร หรือถ้าเป็นฝ่ายค้านจะทำอย่างไร เงื่อนไขของเรา ท่านรับได้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องกัญชา หากไม่มีใครเอาด้วย เราก็จะเป็นฝ่ายค้าน ณ วินาทีนั้น

จากนั้น นายอนุทิน กล่าวเปิดสัมมนาตอนหนี่งว่า ขอย้ำว่าคำว่าผู้แทนของราษฎร ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้แทนของคนในพื้นที่ของตัวเองเท่านั้น แต่เป็นผู้แทนของทุกคนไม่ว่าจะเลือกหรือไม่เลือกเรา ประชาชนทุกคนคือเจ้านายของเรา เวลาอยู่ในสภา จะอภิปรายจะต้องมีคำว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ อย่าปฏิบัติตนให้คำว่าผู้ทรงเกียรติไม่มีความหมาย การปฏิบัติตนทุกเรื่องต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เปิดเผย โปร่งใส ไม่มีวาระซ่อนเร้น นอกจากนี้ วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ที่จะมีรัฐพิธีเปิดสภา ขอให้ ส.ส. ของพรรคมารวมตัวกันที่พรรค และเดินทางไปพร้อมกันโดยรถบัส เพราะตนต้องการเห็น ส.ส. ของพรรค เดินไปไหนด้วยกัน เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน พร้อมกำชับว่า ทุกคนเป็นผู้แทนของราษฎร ต้องรู้จักหัดพูดแสดงความเห็น เพราะเราไม่ใช่แบบพวกมากลากไป ต้องมีความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะบางครั้งเส้นผมก็อาจบังภูเขา คำพูดบางคำอาจทำให้มีมาตรการใหม่ๆหรือความคิดใหม่เกิดขึ้น เราต้องเริ่มกันตั้งแต่วันแรกที่ทำหน้าที่

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยังได้บรรยายเรื่องบทบาทการทำหน้าที่ ส.ส. รวมทั้งมีการเชิญวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาให้ความรู้เรื่องการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้งประชุมเตรียมการตั้งคณะทำงานของกิจการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย


You must be logged in to post a comment Login