ขบวนเชิญน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

• Tweet
• 

การเตรียมน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เป็นพระราชพิธีเบื้องต้นในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยทำพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร มีความหมายถึงการอัญเชิญพระมหากษัตริย์แผ่พระราชอาณาปกครองทั่วทิศทั้งแปด

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกคือ น้ำสรงพระมุรธาภิเษก จากเบญจสุทธคงคา ทั้ง 5 แห่งในประเทศไทย อันหมายถึงแม่น้ำที่บริสุทธิ์ ๕ สาย อนุโลมว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับปัญจมหานทีในชมพูทวีป ได้แก่ แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำราชบุรี และแม่น้ำเพชรบุรี โดยเจือกับน้ำจากสระศักดิ์สิทธิ์ 4 สระ ได้แก่ สระเกษ สระแก้ว สระคา สระยมนา จาก จ.สุพรรณบุรี สำหรับส่วนที่ 2 คือ น้ำอภิเษก จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วราชอาณาจักรทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง อีก 1 แหล่ง รวมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 108 แหล่ง โดยได้นำมาเก็บรักษาไว้ ณ ห้องดอกแก้ว ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อเชิญไปประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษกรวม ณ วัดสุทัศเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร

นับเป็นมงคลสูงสุดที่กระทรวงมหาดไทยได้รับเกียรติในการจัดริ้วขบวนเชิญน้ำอภิเษกในครั้งนี้ วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2562 ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยแต่งกายด้วยเครื่องแบบปกติขาวสวมหมวก พร้อมเพรียงกัน ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่รุ่งเช้า จากการทุ่มเทกำลังกายกำลังใจอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมความพร้อมของขบวนเชิญน้ำอภิเษก จึงปรากฏเป็นริ้วขบวนที่สง่างามสมพระเกียรติ

เวลา 06.23 น. พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้เชิญคนโท ข้าราชการ กำลังพลกองอาสารักษาดินแดนเชิญธงชาติและธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก และบรรเลงเพลงโดยวงดุริยางค์กองทัพบก รวมผู้ร่วมริ้วขบวนกว่า 500 คน พร้อมด้วยรถเชิญคนโทน้ำอภิเษก จำนวน 86 ใบ เคลื่อนขบวนออกจากกระทรวงมหาดไทย ไปตามถนนอัษฎางค์ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนบำรุงเมือง มุ่งสู่วัดสุทัศนเทพวราราม รวมระยะทาง 740 เมตร

เมื่อเคลื่อนขบวนถึงวัดสุทัศนเทพวรารามแล้ว ผู้เชิญคนโทจึงเชิญคนโทน้ำอภิเษกลงจากรถไปยังหน้าพระวิหาร จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เชิญคนโทน้ำอภิเษกจากหน้าพระวิหารเข้าไปวางบนโต๊ะเคียงในพระวิหาร เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษกรวมในช่วงค่ำ

จากนั้นรุ่งเช้าของวันศุกร์ที่ 19 เมษายน เวลา 06.30 น. จึงอัญเชิญน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศนเทพวรารามไปยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เชิญคนโทน้ำอภิเษกออกจากพระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม เคลื่อนขบวนเชิญน้ำอภิเษกมุ่งสู่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

โดยรูปขบวนเชิญน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศนเทพวรารามไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประกอบด้วย วงดุริยางค์กองทัพอากาศ นักเรียนนายร้อยตำรวจเชิญธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ ผู้เชิญพานกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้เชิญพานพุ่มทอง – พานพุ่มเงิน พร้อมด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จากนั้นจึงเป็นรถเชิญคนโทน้ำอภิเษก ผู้บริหารสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ผู้เชิญคนโทน้ำอภิเษก วงดุริยางค์กองทัพเรือ พร้อมด้วยข้าราชการผู้ร่วมขบวนมากกว่า 1,200 คน โดยใช้เส้นทางการเดินจากถนนดินสอ ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน และถนนสนามไชย รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,890 เมตร ตลอดเส้นทางมีประชาชนมาเฝ้าชมขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกเพื่อความเป็นสิริมงคล และต่างแสดงถึงความปีติยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีอันยิ่งใหญ่สง่างามนี้

เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงหน้าประตูสวัสดิโสภา ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เชิญพานพุ่มทอง  – พานพุ่มเงิน ถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณกำแพงพระบรมมหาราชวัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย วางแล้วเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ จากนั้นจึงเชิญคนโทน้ำอภิเษกเข้าไปวางในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับพิธีสรงพระมุรธาภิเษกและพิธีถวายน้ำอภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ‪วันที่ 4 พฤษภาคม 2562

พระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณราชประเพณี การเป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์จะทรงรับการบรมราชาภิเษกเฉลิมพระปรมาภิไธยเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นพระราชพิธีสำคัญยิ่ง แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่งดงาม เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ทรงพระเกียรติยศสูงสุด เป็นพระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดกาล ทั้งนี้ การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ ๔ – ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ นั้น ถือเป็นสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง ยังความปีติยินดีเปี่ยมล้นแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญและศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งที่จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติ

You must be logged in to post a comment Login