- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 10 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 5 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
“พีระพันธุ์”อัดผู้ใหญ่ใน ปชป.ที่เคารพมา30ปีที่แท้แค่ภาพลวงตา
นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตผู้ร่วมชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความถึงการลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า
พลังเล็กๆจากหัวใจที่ยิ่งใหญ่
ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้กล่าวคำขอบคุณจากใจถึงเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกระดับทุกสถานะรวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วไป ที่เป็นกำลังใจและแสดงออกถึงการสนับสนุนผมให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา
ช่วงเวลาหกวันนับแต่วันที่ผมประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ว่าผมจะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ผมได้รับกำลังใจและการสนับสนุนอย่างท่วมท้นอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทั้งจากสมาชิกพรรคและประชาชนทั่วไป ทั้งจากการติดต่อพูดคุยกันโดยตรงและจากข้อความทางโทรศัพท์และทางโซเชียลมีเดีย
มีผู้ใหญ่หลายท่านกรุณาโพสต์ข้อความสนับสนุนผม เช่น ท่านชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาที่รู้จักผมมากว่า 30 ปี คุณชัย ราชวัตร ที่ผมไม่เคยรู้จักพูดคุยเป็นการส่วนตัวมาก่อน เพียงแค่ชื่นชมในผลงานและจุดยืนของท่านผ่านสื่อเท่านั้น หลังสุดคือ “ท่านใหม่” ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ผมไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อน แต่คงเป็นเพราะท่านเห็นด้วยกับแนวทางที่ผมเสนอว่าประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน และต้องธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ท่านคงเชื่อมั่นว่าผมจะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปในทิศทางที่ตอบสนองความมุ่งหวังของประชาชนได้จริง ไม่ใช่เพราะท่านสนับสนุนผมเป็นการส่วนตัว ผมต้องขอกราบขอบพระคุณท่านและท่านอื่นๆจากใจจริงๆครับ
หกวันของการหาคะแนนเสียงนั้น ผมได้เห็นได้เรียนรู้อะไรต่ออะไรเพิ่มขึ้นมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคนหลายๆ คน
ผมเพิ่งจะประจักษ์ ด้วยตัวผมเองว่าผู้ใหญ่บางคนที่ผมเคยเคารพนับถือมาเกือบ 30 ปี ที่ผมเคยเชื่อว่าดี แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงภาพลวงตา ใครไม่ยอมอยู่ในอาณัติ หรืออยู่ฝ่ายตรงข้ามกันเมื่อใดก็กลายเป็นคนที่ต้องถูกพิฆาต แผ่บารมีต่อต้านวาดภาพให้เป็นคนไม่ดี เป็นคนของคนนั้น คนนี้ เพื่อให้ดูไม่ดีในสายตาเพื่อน
บารมีมากล้นที่ควรจะวางตัวเป็นกลางเพื่อสร้างเอกภาพกลายเป็นตัวตอกลิ่มให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น
แต่ก็น่าชื่นใจที่ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ผมไม่เคยสนิทสนมด้วยกลับกลายเป็นนักสู้ใจเด็ดที่ไม่ยอมสยบให้กับอำนาจบารมีที่มากล้นอย่างที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมและทีมงานซึ่งเป็นเพียงสมาชิกพรรคตัวเล็กๆฮึดสู้ สู้ทั้งที่รู้ว่ากำลังเผชิญกับอะไรและจะเผฃิญกับอะไรต่อไปในอนาคต
เมื่อผลการเลือกหัวหน้าพรรคออกมา ผมได้รับกำลังใจอย่างมากมาย บ่นเสียดายบ้าง ขออย่าท้อถอยบ้าง และพยายามปลอบผมว่า “ไม่ต้องเสียใจ”
ผมขอกราบเรียนตรงๆ ณ ที่นี้ว่าผมไม่มีความรู้สึกเสียใจใดๆ เลย ตรงกันข้ามผมติดต่อให้กำลังใจเพื่อนๆทุกวัน ว่าอย่าหมดกำลังใจ อย่าท้อถอย และอย่าเสียใจ เพราะเราทำได้ดีที่สุดแล้วในระยะเวลาเพียงแค่หกวัน พลังเล็กๆที่มาจากหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราและเพื่อนๆในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ในวันข้างหน้า
ผมบอกเพื่อนๆว่าเราควรดีใจและภูมิใจอย่างยิ่งที่สมาชิกพรรคตัวเล็กๆอย่างพวกเราและเพื่อนๆที่ร่วมทำงานกันมาเพียงแค่หกวันกลับได้รับเสียงสนับสนุนจากเพื่อน ส.ส. ถึง 20 เสียง น้อยกว่าทีมผู้ชนะเพียง 5 เสียงเท่านั้น
พวกเขาต่างหากที่ควรจะต้องเสียใจและหมดกำลังใจ เพราะแสดงให้เห็นว่าพลังแห่งอำนาจบารมีที่สั่งสมร่วมกันมาหลายสิบปีนั้น บัดนี้เริ่มเสื่อมถอยลงแล้ว สามารถสนับสนุนเอาชนะพลังเล็กๆของพวกเราที่ทำงานกันมาเพียงแค่หกวัน ได้เพียงแค่ 5 คะแนนในส่วนของ ส.ส. 52 คน และเพียงแค่ 50 คะแนน ในส่วนขององค์ประชุมอื่นประมาณ 250 คน !!!
บารมีอันมากล้นชนะพวกเราได้เพียงเท่านั้นเองจริงๆ!!!
การที่อิทธิพลบารมีที่แอบแฝงเป็นเงาอยู่สามารถชนะพวกเราได้เพียงเท่านี้ ทั้งๆที่พวกเราทำงานกันเพียงแค่หกวัน มันคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและบ่งชี้ถึงความเสื่อมถอยของพวกเขาใช่หรือไม่???
และไม่แน่ กลุ่มบารมีมากล้นนี้อาจแตกคอกันในเรื่องการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลก็อาจเป็นได้ ซึ่งก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของอีกปัญหาหนึ่งต่อไป
ผมขอให้กำลังใจคุณกรณ์ จาติกวณิช และคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน และขอแสดงความยินดีกับท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ผู้ที่ผมให้ความเคารพรักเหมือนพี่ชายตลอดมา ผมขอให้ท่านนำพาพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอยู่ในใจของประชาชนอีกครั้งหนึ่งให้ได้ครับ
ตอนนี้ยังไม่หายเหนื่อยครับ ตลอดหกวันของหาคะแนนเสียงนั้นแทบไม่ได้พักผ่อนเลย เดี๋ยวก็ต้องไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งใหม่ที่เชียงใหม่อีกด้วยครับ ขอเวลาให้หายเหนื่อยก่อนครับ ผมจะเล่าเรื่องการเลือกหัวหน้าของพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเบื้องหลังการทำงานของผมและเพื่อนๆตั้งแต่ต้นจนถึงวันเลือกหัวหน้าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ว่าพวกเราทำงานอย่างไร ต้องเผชิญอุปสรรค และต้องต่อสู้กับอะไรอย่างไร แล้วจะเล่าให้ฟังนะครับ
You must be logged in to post a comment Login