วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“ชวน”จ่อร่อน จม.ถึง”ม.จ.จุลเจิม”ยัน ปชป.รักสถาบัน

On May 21, 2019

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุม ส.ส. ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์พาดพิงผู้มากบารมีเข้ามาแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับนายพีระพันธุ์ และที่ผ่านมาตนพูดถึงปัญหาภายนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งความจริงมีมาตั้งแต่สมัยเลือกหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว ซึ่งวันนี้มีข่าวพยายามแทรกเข้ามาด้วยการใช้เงิน และสิ่งต่างๆ ซึ่งตนได้คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ว่าจะปล่อยเรื่องนี้หรือ เราต้องควรหาทางพูดกันอย่างไร หรือไม่

“ท่านไม่เอ่ยชื่อ คนทั่วไปก็รู้ว่าหมายถึงใคร จึงขอเรียนว่าผมไม่ได้มีอะไรที่พูดพาดพิงนายพีระพันธุ์เลย ผมพูดถึงบุคคลภายนอกที่พยายามเข้ามาแทรกแซงด้วยเงิน เพื่อซื้อคนในพรรค” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวต่อว่า มีเหตุการณ์แปลกที่เกิดขึ้น คือ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ท่านก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าปัจจุบันในพรรคประชาธิปัตย์มีอีแอบที่อยากเปลี่ยนแปลงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งหัวงอก หัวขาว หัวดำ แต่หากได้นายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าย่อมดีกว่าคนรุ่นใหม่ในพรรค ถ้านายกรณ์หรือนายอภิรักษ์เป็นหัวหน้าพรรค เตรียมสูญพันธุ์และสถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่ในช่วงอันตราย เพราะคนรุ่นใหม่ของประชาธิปัตย์มีแผนเปลี่ยนแปลงสถานภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแบบของประเทศญี่ปุ่น ขนาดถึงขั้นไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคำสัมภาษณ์นี้กระทบพรรคและคนในพรรคทุกคน แต่มันแปลกตรงที่เชียร์นายพีระพันธุ์และกล่าวหาคนอื่น

“ความจริง ม.จ.จุลเจิม ดีกับพวกเรา เราให้ความเคารพนับถือมาโดยตลอด แต่เที่ยวนี้แปลก รวมทั้งสื่อที่ทำโพลผู้สมัครทั้ง 4 คน ซึ่งมีผลโพลออกมาแปลกๆผิดปกติ เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ได้เสียงน้อยที่สุด ต่อมาได้รับทราบจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ได้ไปพูดกับโทรทัศน์ช่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งพอเขาเลิกล็อคก็ทำให้คะแนนของนายจุรินทร์เพิ่มขึ้น อันนี้ทำให้น่าคิดว่าทำเพื่ออะไร เพื่อสร้างความชอบธรรมภายหลังอย่างไร เราไม่เข้าใจ” นายชวน กล่าว

นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่า ยืนยันไม่มีโทรศัพท์ไปคุย แต่ได้โทรศัพท์ไปหาพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม.โดยตรง เพราะรู้จักคุ้นเคยส่วนตัว ท่านดี ไม่เคยปกปิดข้อมูล เป็นคนพูดตรงไปตรงมา ตนจึงถามตรงๆว่า มีข่าวว่าเงินผ่านมาทางคนของกทม.บางคนหรือไม่ ซึ่งท่านบอกว่าไม่มีข้อมูลเรื่องนี้

นายชวน กล่าวด้วยว่า ตนได้ขอร้องให้สมาชิกอย่าให้เงินหรืออิทธิพลภายนอกเข้ามามีอิทธิพลเหนือภายในพรรค นี่คือเรื่องจริง ไม่เคยเอ่ยเรื่องนายพีระพันธุ์ ดังนั้นการที่นายพีระพันธุ์พูดว่า ใครไม่อยู่ในอาณัติหรือฝ่ายตรงกันข้ามจะถูกพิฆาตก็ไม่จริง ตนไม่เคยพิฆาตใคร ไม่มีบารมี หรือแทรกแซงอะไร แม้แต่การจัดอันดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็มีพรรคพวกสนิทของตนโกรธไปหลายคน เพราะไม่ได้ไปช่วย ซึ่งยอมรับว่าจริง แม้แต่บุตรชายของตนก็ไม่ได้ช่วยหรือแทรกแซงอะไร ดังนั้นตนจึงไม่ได้มีอิทธิพลบารมีที่จะทำให้คนนั้นเสียหรือดีขึ้นมาได้ ส่วนกรณีเลือกหัวหน้าพรรคได้พูดกับผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยเฉพาะกับนายกรณ์ ว่า ตนเลือกนายจุรินทร์ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขา ทั้งในด้านอาวุโสสูงสุด วัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ไม่ได้ด้อยกว่าใคร ถ้าพูดถึงโอกาส นายกรณ์ นายพีระพันธุ์ และนายอภิรักษ์ ยังมีโอกาสวันข้างหน้า เพราะอายุยังน้อยกว่านายจุรินทร์นับสิบปี แต่ตนไม่ได้บังคับใคร อย่างนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ก็ไม่ได้บังคับ ไปถามเขาดูได้

“เราต้องหาทางป้องกัน เพราะถ้ามีอิทธิพลเข้ามาจากภายนอก เพียงเพื่อนำคนของตัวเองเข้ามาตัดสินใจให้พรรคร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลง่ายๆ จะผิดวัตถุประสงค์ไป เพราะที่จริงเลือกใครเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ว่าคนนั้นสั่งได้ เพราะอยู่ที่มติ ส.ส. และ กก.บห. ถึงตอนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่หัวหน้าพรรคตัดสินใจได้คนเดียว นั่นคือระบบพรรค ผมพูดหลายครั้งว่าให้แบ่งแยกว่าการเลือกหัวหน้าพรรค กับการตัดสินใจร่วมรัฐบาลเป็นคนละเรื่อง ให้แยกกัน จึงพูดให้รู้ว่าผมไม่เคยไปพูดหรือยุ่งเกี่ยวนายพีระพันธุ์ พูดถึงแต่เรื่องการแทรกแซง แต่ผลการแทรกแซงได้กับใครก็รู้ๆกันอยู่ แต่เราไม่เอ่ยถึง รวมถึง ม.จ.จุลเจิมได้พูดในพรรค ผมก็ร่างจดหมายกราบเรียนให้ท่านดูว่าสิ่งที่ท่านพูดมาไม่จริง พรรคเราต่างเชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างมั่นคงทั้งในนโยบายและทางปฏิบัติ ดังนั้นการที่กล่าวหาว่าถ้าเลือกคนอื่น หรือนายกรณ์ หรือนายอภิรักษ์จะมีปัญหา มันไม่ยุติธรรมกับบุคคลเหล่านี้ ผมจะทำหนังสือถึงท่านเป็นการส่วนตัวอีกทีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ร่างไว้แล้ว” นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่า นายพีระพันธุ์เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่กลัวภายนอกแทรกแซง แต่กลัวภายในมากกว่า นายชวน กล่าวว่า ภายในเป็นเรื่องคนในพรรค คนในพรรคเลือกใครเป็นสิทธิ์ของเขาไม่ใช่การแทรกแซง แต่คนภายนอกไม่มีสิทธิ์และเป็นเรื่องที่น่ากลัว

เมื่อถามถึงความเป็นเอกภาพของพรรค นายชวน กล่าวว่า การทำอะไรตรงไปตรงมาจะดีที่สุด แต่ถ้าปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น วันข้างหน้าจะมีปัญหาลามมา บอกเขาแล้วว่าถ้าปล่อยให้มีการใช้เงิน หรือใช้วิธีการที่ผิดหลักการของพรรค วันหลังคงต้องประมูล โดยส่วนตัวต่อต้านการซื้อเสียงมาโดยตลอด เราไปต่อต้านข้างนอก แต่เราปล่อยให้ทำในพรรคโดยไม่สนใจก็จะผิดแนวทางของเรา


You must be logged in to post a comment Login