วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“ชวน-มาร์ค”ไม่รับนั่งประธานสภา

On May 23, 2019

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ถึงกระแสข่าวที่ว่านายชวนจะรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแลกกับการที่พรรคจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาอย่างไร ทั้งนี้ เคยมีการพูดคุยก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกประธานสภา บุคคลที่เหมาะสมที่สุดคือนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีการพูดถึงตน เพราะตนเคยเป็นประธานสภามาแล้ว ซึ่งนายบัญญัติได้ปฏิเสธไปแล้ว เราไม่ต้องพูดถึงกันอีกแล้ว

ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ก็มีความแม่นยำเรื่องข้อกฎหมาย แต่นายอภิสิทธิ์คงไม่สนใจตำแหน่งนี้เช่นกัน สำหรับตนนั้นตอนนี้มีเป้าหมายที่อยากช่วยน้องๆที่สอบตกในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมา และช่วยผู้ที่มาเป็น ส.ส. อย่าให้สอบตกในวันข้างหน้า ซึ่งตนได้ไปพบประชาชนเพื่อช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เพราะหวังว่าถ้าพรรคได้คะแนนดีขึ้นจากการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวจะทำให้พรรคได้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่ม 1 คนคือ น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ายังมีการเสนอชื่อนายชวนในการลงมติเลือกประธานสภาจะรับหรือไม่ นายชวนกล่าวยืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดถึงชื่อตน ทราบว่าเหตุที่มีชื่อตนจะไปเป็นประธานสภานั้นมาจากการหยั่งเสียงของประชาชนส่วนหนึ่ง เมื่อถามว่าถ้าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสนอชื่อนายชวนเป็นประธานสภา นายชวนกล่าวว่า อย่าไปตั้งสมมุติฐานอะไรเลย ขอให้รอฟังว่าที่ประชุม ส.ส. ของพรรคมีความคิดเห็นกันอย่างไร

เมื่อถามว่าช่วงนี้มีการเอ่ยชื่อนายชวนเข้ามาเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวต่างๆในการจัดตั้งรัฐบาล นายชวนกล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่เคยโทรศัพท์พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้พบกันครั้งล่าสุดคือในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อย่างไรก็ตาม มีเพียงคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตรที่มาพูดคุยกับตนเป็นการส่วนตัวเพื่อมาอวยพรปีใหม่ แม้จะมีคนพยายามมาทาบทาม แต่ตนบอกไปว่าขอให้รอมีหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน ตนเป็นแค่สมาชิก 1 เสียง ไม่ใช่หัวหน้าพรรค และไม่ได้หมายความว่าตนเป็นสมาชิกที่แก่กว่าแล้วจะมีคะแนนมากกว่าคนอื่น เมื่อพูดไปแบบนี้ก็จบ ไม่มีใครมาพูดอะไรอีก ขอยืนยันว่าตนเป็นคนพูดจริง ไม่เคยโกหก ถ้ามีใครติดต่อตนก็ยอมรับว่ามีจริง มีคนทุกฝ่ายติดต่อมาหาตน เพราะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์บ้าง ทางไลน์บ้าง แต่ไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ส่วนจะมีการติดต่อกับคนอื่นหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

นายชวนยังกล่าวถึงข้อเท็จจริงที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยพูดเพียงว่าไม่อยากให้ภายนอก เงิน หรืออะไรก็ตามมาแทรกแซงพรรค และขอให้สมาชิกตัดสินใจไปตามครรลองประชาธิปไตย ในอดีตก็เป็นอย่างนี้ เพียงแต่ในอดีตเคยร่วมและไม่ร่วม สมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เคยเชิญพรรคไปร่วมก็ไม่ได้ร่วม แต่สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปร่วม สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่พรรคเคยจะเข้าร่วม แต่เมื่อมีข่าวเรื่องบุฟเฟต์คาบิเนต พรรคก็ถอนตัว ซึ่งไม่ถือว่าผิดปรกติ เราต้องรักษาเกียรติยศชื่อเสียงไว้ เราเห็นว่าเมื่อไปร่วมแล้วมีการทุจริตโกงกิน พรรคจะไปสนับสนุนให้คนโกงกินไม่ได้ ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. จะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร เราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ต้องเคารพมติ ซึ่งการเคารพมติทำให้พรรคอยู่ได้ถึง 73 ปี แต่ถ้าต่างคนต่างไม่เห็นด้วย พรรคก็ไปไม่ได้


You must be logged in to post a comment Login