- เสียเพราะรักPosted 1 day ago
- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 2 days ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 3 days ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 4 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 5 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 1 week ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 1 week ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 2 weeks ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 2 weeks ago
สรรวัชญ์แสดงสปิริตถอนช้างศึก
กองกลางวัย 29 ปี แสดงสปิริต ถอนตัวจาก ช้างศึก เป็นที่เรียบร้อย ในชุดเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 47
สรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตัดสินใจถอนตัวจาก ทีมชาติไทย เป็นที่เรียบร้อย หลังมีชื่อเป็น 1 ใน 35 ผู้เล่น ชุดเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ในช่วงปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายนี้ ที่จังหวัดบุรีรัมย์
กองกลางวัย 29 ปี เพิ่งถูกแบนยาวถึง 8 นัด จากพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม ในเกมโตโยต้า ไทยลีก 2019 นัดที่ 11 ที่บุกเสมอ การท่าเรือ เอฟซี 1-1 ก่อนที่ล่าสุด จะตัดสินใจถอนตัวจาก ช้างศึก เพื่อเป็นการแสดงสปิริต และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้
“ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของผมเอง ที่สมาธิหลุด และ ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่ดีพอ ผมอยากขอโทษจริงๆ กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไมว่าจะเป็น สโมสร , สตาฟฟ์โค้ช , เพื่อนร่วมทีม , แฟนบอล และ เยาวชนที่ดูอยู่ มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้น แน่นอนว่า ผมจะเก็บมาเป็นบทเรียน และ จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกครับ” สรรวัชญ์ กล่าว
“เรื่องทีมชาติ ผมดีใจทุกครั้งที่มีชื่อติด และ เป็นความตั้งใจของผมมาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ผมก็ได้คิดทบทวน และ รู้สึกว่าตัวเองควรที่จะถอนตัวออกมา เพราะในฐานะที่เป็นนักกีฬา มันไม่ควรที่จะมีพฤติกรรมอะไรแบบนี้ และ ที่สำคัญ ผมไม่อยากให้รุ่นน้อง หรือ เยาวชน ที่ดูเอาเป็นแบบอย่าง”
“แม้ว่าหลังจากนี้ ผมจะไม่มีส่วนร่วมกับทีม แต่ผมก็จะตามเชียร์ และ ให้กำลังใจทุกคนอยู่เสมอครับ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้รับโอกาส มีศักยภาพ ที่จะพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์คิงส์คัพ” สรรวัชญ์ ปิดท้าย
ทั้งนี้ในส่วนของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอน ยืนยันว่าจะไม่เรียกผู้เล่นรายอื่น เข้ามาแทน ก่อนมีกำหนดรายงานตัว วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เวลา 11.00 น. จากนั้น จะเดินทางสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2562 เพื่อเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 โดยมี 4 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) , ทีมชาติเวียดนาม , ทีมชาติอินเดีย และ ทีมชาติคูราเซาองกลางวัย 29 ปี แสดงสปิริต ถอนตัวจาก ช้างศึก เป็นที่เรียบร้อย ในชุดเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอล คิงส์คัพ ครั้งที่ 47
สรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ตัดสินใจถอนตัวจาก ทีมชาติไทย เป็นที่เรียบร้อย หลังมีชื่อเป็น 1 ใน 35 ผู้เล่น ชุดเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ในช่วงปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายนี้ ที่จังหวัดบุรีรัมย์
กองกลางวัย 29 ปี เพิ่งถูกแบนยาวถึง 8 นัด จากพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม ในเกมโตโยต้า ไทยลีก 2019 นัดที่ 11 ที่บุกเสมอ การท่าเรือ เอฟซี 1-1 ก่อนที่ล่าสุด จะตัดสินใจถอนตัวจาก ช้างศึก เพื่อเป็นการแสดงสปิริต และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้
“ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของผมเอง ที่สมาธิหลุด และ ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่ดีพอ ผมอยากขอโทษจริงๆ กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไมว่าจะเป็น สโมสร , สตาฟฟ์โค้ช , เพื่อนร่วมทีม , แฟนบอล และ เยาวชนที่ดูอยู่ มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้น แน่นอนว่า ผมจะเก็บมาเป็นบทเรียน และ จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกครับ” สรรวัชญ์ กล่าว
“เรื่องทีมชาติ ผมดีใจทุกครั้งที่มีชื่อติด และ เป็นความตั้งใจของผมมาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ผมก็ได้คิดทบทวน และ รู้สึกว่าตัวเองควรที่จะถอนตัวออกมา เพราะในฐานะที่เป็นนักกีฬา มันไม่ควรที่จะมีพฤติกรรมอะไรแบบนี้ และ ที่สำคัญ ผมไม่อยากให้รุ่นน้อง หรือ เยาวชน ที่ดูเอาเป็นแบบอย่าง”
“แม้ว่าหลังจากนี้ ผมจะไม่มีส่วนร่วมกับทีม แต่ผมก็จะตามเชียร์ และ ให้กำลังใจทุกคนอยู่เสมอครับ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้รับโอกาส มีศักยภาพ ที่จะพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์คิงส์คัพ” สรรวัชญ์ ปิดท้าย
ทั้งนี้ในส่วนของ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอน ยืนยันว่าจะไม่เรียกผู้เล่นรายอื่น เข้ามาแทน ก่อนมีกำหนดรายงานตัว วันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เวลา 11.00 น. จากนั้น จะเดินทางสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2562 เพื่อเตรียมทำการแข่งขันฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 โดยมี 4 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) , ทีมชาติเวียดนาม , ทีมชาติอินเดีย และ ทีมชาติคูราเซา
You must be logged in to post a comment Login