วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

เมื่อเข้าฤดูผสม

On May 30, 2019

คอลัมน์ : เรื่องจากปก
ผู้เขียน : ทีมข่าวการเมือง

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 31 พฤษภาคม-7 มิถุนายน 2562 )

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 8 จ.เชียงใหม่ นางศรีนวล คำลือ พรรคอนาคตใหม่ ได้ 75,819 คะแนน ทิ้งห่างนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้แค่ 27,781 คะแนน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 163,823 คน และมาใช้สิทธิ 144,271 คน หรือร้อยละ 88.06 ทำให้ต้องคำนวณคะแนนของแต่ละพรรคและจำนวน ส.ส.พึงมีใหม่

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการให้นางศรีนวลเป็น ส.ส. ขณะที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค พรรคไทรักธรรม พ้นจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ

คสช. น่าจะไปนานแล้ว

คะแนนเลือกตั้งซ่อมที่เขต 8 จ.เชียงใหม่ ที่ห่างกันถึง 48,038 คะแนน สะท้อนให้เห็นประชาชนจำนวนมากที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ “ระบอบ คสช.” แม้พรรคพลังประชารัฐจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ แต่ก็เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำที่ไม่มีเสถียรภาพ

ที่น่าสนใจคือผลสำรวจ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เรื่อง “รู้สึกอย่างไรเมื่อ คสช. กำลังจะหมดหน้าที่” ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2562 จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ 1,257 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินและความสุขของคนในชาติ หลังครบรอบ 5 ปีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 24.50 รู้สึกดีใจ น่าจะไปได้ตั้งนานแล้ว ร้อยละ 23.79 ไม่มีความรู้สึกใดๆ ร้อยละ 13.84 รู้สึกอยากขอบคุณที่ช่วยดูแลประเทศ ร้อยละ 13.29 รู้สึกเสียดาย น่าจะอยู่ต่อไป และร้อยละ 9.55 รู้สึกว่าความวุ่นวายทางการเมืองแบบเก่าๆกำลังจะกลับมา

ปชป. เขี้ยวลากดิน

แม้ 2 ขั้วการเมืองจะมีเสียง ส.ส. ที่ก้ำกึ่งกันมาก แต่พรรคพลังประชารัฐก็มั่นใจว่าจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมหรือไม่ เพราะมีเสียง 250 ส.ว. ที่แต่งตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่พร้อมจะโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่จะทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยและไม่สามารถอ้างความชอบธรรมและความสง่างามได้ จึงต้องพยายามให้ได้เสียงสนับสนุนจากพรรคต่างๆเกินกึ่งหนึ่ง แม้จะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำก็ตาม เพราะหากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคขนาดเล็กทั้งหมดสนับสนุน ก็ยังมีเสียงเพียง 254 เสียง

การจัดตั้งรัฐบาลให้มีเสถียรภาพจึงไม่ง่าย โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่มีการต่อรองทั้งกระทรวงเกรดเอและให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคได้ประกาศหาเสียง แต่การประชุมของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐก็ต้องยกเลิก เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่สามารถให้คำตอบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มสามมิตรต้องการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการเช่นกัน

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังทุบโต๊ะขอตรวจรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังติดยึดในอำนาจ ทั้งที่ไม่ได้ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นปัญหาภายในของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่มีความชัดเจนจึงไม่สามารถตกลงกันได้ แต่ที่ไม่สบายใจมากที่สุดคือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องการจะมีส่วนร่วมในการคัดเลือกรัฐมนตรีจากพรรคต่างๆ ซึ่งตนคิดว่าเป็นการก้าวก่าย ครอบงำ และชี้นำพรรคร่วมรัฐบาล

ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลสะท้อนให้เห็นว่าทุกพรรคต่างต้องการผลประโยชน์ของพรรค ของกลุ่ม จึงมีการต่อรองเพื่อให้ได้กระทรวงสำคัญๆที่จะมีผลประโยชน์ระยะยาวกับพรรค แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคกระจอกที่ยื่นอะไรมาก็งับหมดเหมือนบางพรรค เห็นได้จากการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่บีบให้พรรคพลังประชารัฐต้องยอมสนับสนุนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ท่ามกลางความวุ่นวายและสับสนในการประชุมสภาผู้แทนฯ

พรรคประชาธิปัตย์จึงถูกมองว่า “เขี้ยวลากดิน” ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐไม่รักษาคำพูด บิดพลิ้วข้อตกลง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ร่วมรัฐบาลด้วย เพราะกระแสการต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ในพรรคก็มีค่อนข้างมาก

ปชป. ไม่ร่วม-ภูมิใจไทยก็ไม่ร่วม

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศร่วมกับพรรคพลังประชารัฐโดยยืนยันว่าทำเพื่อประเทศและไม่เคยโกหกประชาชนนั้น ก็ถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ซึ่งจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เหนือความคาดหมาย เช่นเดียวกับพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคชาติพัฒนา ยิ่งนายอนุทินอ้างว่าไม่เคยโกหกประชาชนก็ยิ่งทำให้ตัวเองแย่ในสายตาของประชาชน

โดยเฉพาะแฟนบอลสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บางส่วนแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของนายอนุทิน รวมถึงการเผาเสื้อฟุตบอลสโมสรบุรีรัมย์ก็บอกว่าบางครั้งการเมืองและฟุตบอลเป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ขาด

อย่างไรก็ตาม นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์ TNN 16 (28 พฤษภาคม) หลังพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ข้อสรุปว่า ตนไม่เคยพูดว่าจะไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เพราะกติกาตามรัฐธรรมนูญบอกว่าจะต้องเป็นบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่เงื่อนไขที่ตนตั้งไว้คือ จะไม่ยอมให้ ส.ว. 250 คนซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนมากำหนดว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซึ่งถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ได้ทำผิดสัญญา

“หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่มาร่วม พรรคภูมิใจไทยก็ร่วมไม่ได้ เพราะก่อนจะไปโหวตนายกรัฐมนตรีก็ต้องแถลงกันก่อน อันนี้ก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไข” นายอนุทินยังย้ำว่า การจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นเสียงข้างมากจึงจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ หากตนไปร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็จะถือว่าทำผิดคำพูด

“ต่ำกว่า 250 ไปไม่ได้ ผิดหลักการ เรามีรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพไม่ได้ ประเทศไทยไม่เคยมีรัฐบาลเสียงข้างน้อยแม้แต่ครั้งเดียว รัฐบาลต้องเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ นายกฯคนไหนจะกล้าพาคณะรัฐมนตรีที่มีเสียงข้างน้อยเข้าไปถวายสัตย์ และสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการยุบสภา มันจะมีปัญหาอื่นๆมากมายเต็มไปหมด” นายอนุทินกล่าว

ทวงถามจุดยืนประชาธิปัตย์

ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ทำให้หลายคนในพรรคอึดอัดและทวงถามจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศชัดเจนไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และมีกระแสข่าวว่าอาจจะลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ชูป้ายที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมโดยมีข้อความว่า “ไม่เอาประยุทธ์เป็นนายกฯ” พร้อมกล่าวว่า “ผมเป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่ง และเห็นด้วยกับสมาชิกพรรคจำนวนมากที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรคเราเป็นประชาธิปไตย และขณะนี้มติพรรคยังไม่ออกมา ก่อนหน้านายอภิสิทธิ์ก็ได้แสดงจุดยืนมาอย่างชัดเจน พรรคเราเป็นประชาธิปไตย ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ”

นายวัชระยังให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งสำคัญขณะนี้คือต้องรักษานายอภิสิทธิ์ไม่ให้ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ได้ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประชาธิปัตย์ก็กดดันทั้งฝ่ายที่ต้องการให้ร่วมรัฐบาลและฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ร่วมรัฐบาล คณะกรรมการบริหารพรรคจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องฟังเหตุผลว่าฟังขึ้นหรือไม่ เพราะไม่ว่าทางใดก็มีคนผิดหวังเป็นธรรมดา เป็นโจทย์ที่ยากมาก จึงวิงวอน ส.ส. และพรรคการเมืองให้ช่วยกันรักษาสภาไว้ อย่าให้ทหารมายึดอำนาจอีก แม้มันพิกลพิการอย่างไรเราก็แก้ไขกันได้

คำตอบสุดท้ายฝ่ายค้านอิสระ

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊คสนับสนุนให้เป็นฝ่ายค้านอิสระคือคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด โดยหยิบยกอุดมการณ์พรรคมาเตือนสติผู้มีอำนาจ และยังอ้างคำปราศรัยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ที่เคยระบุว่าการให้ ส.ว. ที่ คสช. คัดเลือกมาเลือกนายกฯเป็นประชาธิปไตยวิปริต การตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้จึงมีความสำคัญที่จะส่งผลต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคข้อ 4 ที่ระบุว่า “พรรคจะไม่สนับสนุนระบบและวิธีการแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวิธีการของรัฐบาลใดๆ”

นายเชาว์ยังกล่าวถึงคำสัญญาของนายอภิสิทธิ์ระหว่างหาเสียงว่าพรรคจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ จึงอย่าบิดเบือนว่าการต่อต้านเผด็จการเป็นเพียงแค่จุดยืนของนายอภิสิทธิ์เท่านั้น หากอ้างเหตุผลวิปริตเช่นนั้น ต่อไปคำพูดของหัวหน้าพรรคก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือในสังคมอีกเลย

นอกจากนี้นายจุรินทร์ยังเคยปราศรัยไว้ชัดเจนว่า ประชาชนมีทางเลือก 3 ทางคือ 1.ประชาธิปไตยทุจริตที่นำไปสู่การยึดอำนาจ บ้านเมืองไปไม่รอด 2.ประชาธิปไตยวิปริต เพราะคนไม่กี่คนที่ยึดอำนาจเลือก ส.ว.ได้ 250 คน ไปเลือกนายกฯร่วมกับตัวแทนประชาชนได้ด้วย และ 3.ประชาธิปไตยสุจริตที่ประชาธิปัตย์นำเสนอ

“ผมได้เห็นความเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ของพลังบริสุทธิ์ที่ต้องการแสดงตัวตนในฐานะ 1 ใน 3.9 ล้านคนที่สนับสนุน ปชป. ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาแล้วรู้สึกเต็มตื้นว่า ประชาชนที่ยืนหยัด ไว้ใจ เชื่อถือใน ปชป. ยังมีความมั่นคงและฝากความหวังว่า ปชป. จะยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้อง รับฟังเสียงจากประชาชนที่ไม่มีผลประโยชน์เฉพาะหน้าใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมมั่นใจว่าเราจะเห็นเหมือนกันว่าฝ่ายค้านอิสระคือคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด” นายเชาว์กล่าว

New Dem ประกาศทิ้งพรรค

ปฏิกิริยาต่อต้านการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐเป็นกระแสฮิตในโซเชียลมีเดีย อย่างในทวิตเตอร์ “#ฝ่ายค้านอิสระ” ติด 1 ใน 10 ท็อปเทรนด์ไทย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำกราฟิคแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เช่น ข้อความว่า “เรามาชิงตัวเจ้าสาว ไปกับเราเถอะนะ” พร้อมแฮชแท็กฝ่ายค้านอิสระ และ “บ้านนี้หวงลูกสาว” เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือ New Dem โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ “ไอติม” ประกาศจะขอทบทวนตัวเองหากพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยโพสต์จดหมายเปิดผนึกย้ำข้อเสนอเมื่อ 2 เดือนก่อนที่เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอิสระ อย่าไปเป็นขนหน้าแข้ง คสช.

นายพริษฐ์เชื่อมั่นว่าการทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” ไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศซึ่งตอนนี้อยู่ในมือของพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้เหตุผลว่า

1.อย่าบอกว่า “ฝ่ายค้านอิสระไม่มีจริง” เพราะการที่พรรคฝ่ายค้านมีหลายพรรคและไม่ได้เห็นด้วยกันหมดทุกเรื่องเป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภาในกว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย ต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจากบางพรรคฝ่ายค้านเป็นกรณีๆไป

2.อย่าผูกขาดกับคำว่า “ทำเพื่อชาติ” เป็นเรื่องปกติที่คนเรามีความคิดเห็นต่างกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ เพราะฉะนั้นอย่ามองว่าถ้าจะทำเพื่อชาติต้องเลือกไปด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

3.อย่ามองว่า “ฝ่ายค้านทำประโยชน์ให้กับชาติไม่ได้” การเป็นฝ่ายค้านอิสระต่อรองนโยบายกับรัฐบาลที่อาจต้องพึ่งเสียงในสภาทุกครั้งที่จะผ่านกฎหมาย จึงยังมีโอกาสต่อรองนโยบายได้ดีกว่าการเข้าร่วมรัฐบาล

4.อย่าให้คุณค่ามากจนเกินไปกับคำว่า “เสถียรภาพ” 4-5 ปีที่ผ่านมาประเทศไม่ได้ขาด “เสถียรภาพ” แต่ขาดการ “ตรวจสอบถ่วงดุล” ในระบบรัฐสภาที่เข้มข้น คอยเตือนสติรัฐบาลเวลาทำไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน

5.อย่าปล่อยให้สภาเป็นเพียงเครื่องมือของฝ่ายบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ต่อสู้กับ “เผด็จการรัฐสภา” มาโดยตลอด จึงต้องทำให้สภาเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นและเป็นกระบอกเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง

“ธนัตถ์”ยุติบทบาทหากหนุน“ตู่”

นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หนึ่งในกลุ่มนิวเด็ม พรรคประชาธิปัตย์ ลูกชายนายกิตติ ธนากิจอำนวย มหาเศรษฐีหมื่นล้าน บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Nat Thanakitamnuay ว่า หากพรรคมีมติสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ “ผมจะต้องขอยุติบทบาททางการเมือง จนกว่าจะมีเหตุผลที่ดีพอที่จะกลับมาอีก”

นายธนัตถ์ยืนยันว่า ตลอดการทำงานทางการเมืองไม่เคยได้อะไร ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ อิทธิพล เส้นสาย ทรัพย์สินเงินทอง มีแต่มิตรภาพที่ดีจากเพื่อนร่วมอุดมการณ์ แต่เมื่อการเมืองวันนี้ไม่ตอบโจทย์อุดมการณ์ของตนก็จะไม่ขออยู่ตรงนี้เพื่อขวางทางใครหรือสร้างความขัดแย้งให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ บ้านของตน โดยยอมรับมติพรรค แต่ขอใช้พื้นที่นี้เรียกร้องให้พิจารณาจุดยืนอีกครั้ง “#ไม่สนับสนุนประยุทธ์และเครือข่าย #ไม่สนับสนุนระบอบทักษิณและเครือข่าย #ฝ่ายค้านอิสระ #ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”

ประชาชนสั่งสอนเผด็จการ

ความเคลื่อนไหวต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ในพรรคประชาธิปัตย์กับชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 จึงไม่แปลกที่กลุ่มอำนาจต่างๆที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจจะต้องทำทุกวิธีที่จะไม่ให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีบทบาทในสภา หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ขณะที่นายธนาธรตกเป็น “ผู้ต้องหา” และ “ผู้ถูกกล่าวหา” รวมถึง 7 คดี โดยเป็นคดีอาญา 3 คดี และข้อหาการเมือง 4 คดี

นายธนาธรโพสต์เฟซบุ๊คถึงชัยชนะของนางศรีนวลว่า ไม่ได้เป็นแค่ปรากฏการณ์เฉพาะเขตพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นความรู้สึกร่วมของคนทั้งประเทศเมื่อเห็นสถานการณ์การเมืองไม่กี่วันที่ผ่านมาว่าพรรคใดไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชนบ้าง และพรรคไหนเล่นแร่แปรธาตุในสภาผู้แทนฯจนรู้สึก “รับไม่ได้” นี่คือการสั่งสอนของประชาชน

โลกจับตาสืบทอดรัฐประหาร

นายธนาธรยังโพสต์ถึงกรณีกลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (ASEAN Parliamentarians for Human Rights : APHR) ที่ออกแถลงการณ์เรียกร้องทางการไทยหยุดคุกคามนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามว่า ประชาคมระหว่างประเทศกำลังจับตา “การสืบทอดระบอบรัฐประหาร” การใช้กฎหมายไม่ให้นายธนาธรได้ทำหน้าที่ผู้แทนฯในสภา รวมถึงการตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นหรือความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น ไม่ได้เป็นแค่เรื่องส่วนตัวของตนและอนาคตของพรรค แต่เกี่ยวพันถึงอนาคตของประเทศโดยตรง

ทำให้ประชาคมระหว่างประเทศมองว่า รัฐบาล คสช. ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะคืนประเทศไทยสู่ระบอบประชาธิปไตย ทำให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ได้รับการยอมรับว่าเสรีและเป็นธรรมตามมาตรฐานสากล

อย่าชักศึกเข้าบ้าน

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็อ้างกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมแบบไทยๆ โดยย้อนถามว่าวันนี้ตนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับใคร เพราะถ้าทุกคนทำตามกฎหมายก็คงไม่มีปัญหา เชื่อว่าเรื่องนี้มีกระบวนการสร้างความเข้าใจผิด โดยเฉพาะในเวทีต่างประเทศเพื่อใช้เป็นโล่ป้องกันตัวเอง ถ้าทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบก็จะไม่มีปัญหา เพราะกระบวนการยุติธรรมได้ให้โอกาสต่อสู้คดีอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่า รัฐบาลและ คสช. ไม่เคยได้เข้าไปก้าวก่าย อีกทั้งยังยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ไม่จำเป็นไปหมดแล้ว จึงอยากขอร้องให้พอได้แล้ว อย่าดึงต่างชาติมาเป็นเครื่องมือแทรกแซงกิจการภายในประเทศเลย เพราะเป็นเหมือนกับชักศึกเข้าบ้าน ซึ่งไม่มีอะไรดีขึ้น และต่างชาติจะมากดดันไม่ได้ เพราะกฎหมายไทยเป็นแบบนี้ ถ้าเราไม่เคารพกฎหมายไทยแล้วจะให้ไปเคารพกฎหมายใคร

มาตรฐานของผู้มีอำนาจ

นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ ลูกชายนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊ค Fuadi Pitsuwan (23 พฤษภาคม) คดีนายธนาธรว่า มีใครที่ไม่ได้เลือกธนาธรแต่รู้สึกอึดอัดกับการกระทำสองมาตรฐานของผู้มีอำนาจอธิปไตยของรัฐไทยบ้าง? ขอเสียงหน่อย เพราะรู้สึกเดียวดายมาก

ฝั่งตรงข้ามทางการเมืองคือ “คู่แข่ง” ไม่ใช่ “ศัตรู” เราควรและมีหน้าที่ทางจริยธรรมการเมืองที่จะ #StandWithThanathorn อาจจะไม่ใช่ในฐานะตัวบุคคล แต่ในฐานะมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย เพื่อปกป้องและเรียกร้องการคงอยู่ของการเมืองพลเรือน ถ้าคุณไม่พูดหรือไม่พยายามทำอะไรตอนนี้ วันหนึ่งระบอบยุติธรรมแบบนี้อาจจะย้อนกลับมากัดคุณเองก็ได้

นายฟูอาดี้ยังเตือนว่า ผู้มีอำนาจกำลัง disenfranchise คนอย่างน้อย 6 ล้านคน ซึ่งอันตรายมากกับโอกาสของความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น พวกเราทุกคนต้องช่วยกันลดความเสี่ยงนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม

เลือกตั้งพิสดาร?

การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. การเลือกตั้งระบบจัดสรรปันส่วน และสูตรพิสดารคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ “องค์กรเลือกตั้ง” ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกประณามสารพัด อาทิ นายอดิศร เพียงเกษ ระบุว่า “เฮงซวย” ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง และถามว่าการเลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่ใช้สูตรอะไรคิด พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนน 75,000 กว่าคะแนน ชนะขาดลอย แต่ได้เป็น ส.ส. 1 คน ส่วนอีก 2 พรรคได้ ส.ส. เพิ่ม 2 คน ทั้งที่แพ้ไม่เป็นท่า ใครเป็นคนออกกฎพิสดารนี้มา เป็นการเอาเปรียบกันอย่างเห็นได้ชัดและดูถูกประชาชนที่ใช้สิทธิ

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊คว่าการเลือกตั้ง “กติกามันบิดเบี้ยว” ตามกติกาที่โจรเขียน ทำให้ผลการเลือกตั้งบิดเบี้ยวเข้าข้างโจร พรรค‪เพื่อไทยโดนใบแดง ‪ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยหายไป 1 คน ‪การเลือกตั้งซ่อม‪ฝ่ายสืบทอดอำนาจแพ้ยับเยิน ‪พรรคอนาคตใหม่ชนะขาด  ฝ่ายประชาธิปไตยได้ ส.ส.เขตคืนมา 1 คน ‪แต่ฝ่ายสืบทอดอำนาจกลับได้ ‪ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น 2 คน ”#ชนะเยอะกลับยิ่งแพ้ เราต้องอยู่กับ #กติกาบิดเบี้ยวแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนคะ?”

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ค Jessada Denduangboripant ว่า เห็นด้วยกับคุณหญิงหน่อยที่ว่าการเลือกตั้ง “กติกามันบิดเบี้ยว” แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้เป็นแกนนำต่อต้านตอนทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง และยังลงเลือกตั้งตามกติกาที่โจรเขียนด้วย สุดท้ายเลยได้ผลลัพธ์ที่บิดเบี้ยวเข้าข้างโจรแบบนี้

ปลุกทุกพรรคร่วมแก้รัฐธรรมนูญ

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คระบุว่า วันนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายคงได้ประจักษ์ถึงความบิดเบี้ยวที่พิสดารของรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเป็นผลงานของ คสช. และพวกที่ออกแบบมาเพื่อหวังการสืบทอดอำนาจ ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดให้ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งมีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ได้เห็นลีลาทางการเมืองของพรรคฝ่ายที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจซึ่งมีพลังประชารัฐเป็นแกนนำพยายามจะจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งยังจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว และดูเหมือนว่าการเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลนั้นหนทางที่จะร่วมมือกันดูจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ หากจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพ เนื่องจากเสียงในสภาที่สนับสนุนนั้นอยู่ในสภาพ “ปริ่มน้ำ” แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น วันนี้มีข่าวว่าหากการร่วมจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จอย่างที่ผู้มีอำนาจตั้งความหวังไว้ถึงขั้นมีการกล่าวอ้างว่าอาจจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วจะยุบสภา สภาพดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นว่า “การต่อรองทางการเมืองนับวันจะเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบสิ้นลงง่ายๆ”

ปัญหาของประเทศและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจะยิ่งได้รับการเหลียวแลลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ และจะยิ่งยากลำบากในการแสวงหาหนทางในการคลี่คลายปัญหา การเมืองภายใต้กลุ่มผู้มีอำนาจกลุ่มเดิมนี้ทำให้ปัญหาของประเทศและประชาชนที่เดือดร้อนที่กำลังต้องการการแก้ไขกลับต้องสะดุดเพราะความพยายามของพลังประชารัฐที่จะให้อดีตนายกฯทำหน้าที่ต่อ

“ประชาชนอยู่ตรงไหน” ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจและจัดสรรผลประโยชน์ของกันและกัน หากดูผลการเลือกตั้งล่าสุดที่เชียงใหม่ เขต 8 ซึ่งพรรคฟากฝั่งประชาธิปไตยได้คะแนนอย่างท่วมท้น ถือเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการหลุดพ้นจากการบริหารแบบเดิมๆของ พล.อ.ประยุทธ์และคณะ

การคำนวณคะแนนสัดส่วน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จากการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นรูปธรรมที่ชี้ชัดว่า “ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎกติกาพิสดารทั้งหลายที่สร้างความสับสนให้ประเทศ”

นายภูมิธรรมเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและได้รับผลกระทบจากกติกาของผู้มีอำนาจร่วมผนึกกำลังกันเพื่อต่อรองผลประโยชน์ให้กับประชาชน วันนี้ยังไม่สายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พิสดารและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ประชาชนรอพิสูจน์คำสัญญาที่ทุกพรรคการเมืองได้เคยประกาศไว้ อย่าให้ประชาชนผิดหวัง

เมื่อเข้าฤดูผสม!!??

ภาพการยกขบวนของพรรคพลังประชารัฐเพื่อเชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ แต่การประชุมพรรคประชาธิปัตย์นัดแรกเพื่อจะร่วมรัฐบาลหรือไม่กลับล้มไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะเป็นเพราะเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ลงตัว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ว่าเลือกทางไหนก็เกิดปัญหาความแตกแยกในพรรค เพราะความผิดพลาดที่ยอมให้อดีตกลุ่ม กปปส. กลับเข้าพรรค

พรรคพลังประชารัฐจึงดัดหลังพรรคประชาธิปัตย์ โดยดึงการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลไปหลังจากโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์บีบพรรคพลังประชารัฐให้โหวตเลือกนายชวนเป็นประธานสภาผู้แทนฯ การเจรจาต่อรองร่วมรัฐบาลจึงเหมือน “ละครน้ำเน่า” ที่เป็นการต่อรองผลประโยชน์ของพรรค ไม่ใช่เพื่อประเทศและประชาชน

แม้ 7 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะต่อสู้ตามกติกาที่บิดเบี้ยว โดยอาจเสนอชื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับนายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีเพียง 2 พรรคที่มี ส.ส. เกิน 25 เสียง แม้รู้ดีว่าภายใต้กติกาที่บิดเบี้ยว พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอนไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมหรือไม่ เพราะ 250 ส.ว. ที่ตั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ เกือบทั้งหมดก็มาจากพวกพ้องน้องพี่ที่เคยรับใช้ คสช.

กติกาการเลือกตั้งที่อัปลักษณ์ สูตรพิสดารในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ การให้ ส.ว. ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รวมถึงการพยายามใช้กลไกอำนาจต่างๆเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม จึงสะท้อนถึงความอัปลักษณ์และอัปยศของการเมืองไทยมากที่สุดยุคหนึ่ง

การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็พ “การสืบทอดอำนาจ” ที่วางไว้เพื่อ “ฟอกขาว” ให้ “ระบอบเผด็จการ” แต่ก็ทำให้ประชาชนตาสว่าง โดยเฉพาะ “คนรุ่นใหม่” ที่ต่อต้านการ “สืบทอดอำนาจ” และไม่เอา “ลุงตู่”

การเมืองแบบ “ประเทศกูมี” จึงต้องดูกันยาวๆและลึกๆ เพราะเต็มไปด้วยละครน้ำเน่าของพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ตระบัดสัตย์โดยไม่ละอาย โดยเฉพาะฤดูผสมที่เสี้ยนกันมากก็ต้องโก่งราคากันให้สุดๆ!!??

 


You must be logged in to post a comment Login

Казино левлучший портал для азартных игроков
Игровые автоматызахватывающая игра начинается сейчас
azino777испытай удачу прямо здесь
1win казинооткрой для себя мир азартных игр
Вулкан платинумавтоматы с высокой отдачей ждут тебя
Казино левгде выигрыши становятся реальностью
Игровые автоматыразвлекайся и выигрывай каждый день
азино три топоранаслаждайся адреналином от побед
Казино 1winкаждая игра — шаг к успеху
Вулкан россиятвой шанс на большой выигрыш
Казино левоснова азартного мастерства
Игровые автоматытоповые игры для каждого
Azino777только для настоящих ценителей риска
1win казинокайф от игры начинается здесь
Вулкан 24где каждый день приносит победы
Казино левновые высоты азартных эмоций
Игровые автоматыгде выигрыши реальны
азино три топорасамые горячие игры ждут
Казино 1winвыигрывайте с комфортом
Казино вулкан россияисследуй мир азартных автоматов
Казино левтвой источник азарта и выигрышей
Игровые автоматыискусство выигрыша ждет тебя
azino777почувствуй азарт и драйв
1win казиноидеальный выбор для азартных игр
Вулкан платинумиграй и побеждай с удовольствием
Казино левнаслаждайся азартом без границ
Игровые автоматылучшие призы ждут тебя
азино три топоратвоя игра начинается здесь
Казино 1winновые уровни азарта и удачи
Вулкан россияначни путь к победе прямо сейчас
Coco chat - Rejoignez nouvelles discussions enrichissantes sur Bed and Bamboo
Chatrandom - Discover exciting chats with new people on Bed and Bamboo
Chatrandom - Entdecke spannenUnterhaltungauf Bed and Bamboo
Chatrandom - Ontdek boeienchats op Bed and Bamboo
Coco chat - Partagez des moments uniques sur Hoodrich France
Chatrandom - Connect and chat on Hoodrich France
Chatrandom - Chatte mit der Hoodrich France Community
Chatrandom - Geniet van chats in Hoodrich France gemeenschap
Coco chat - Connectez-vous pour des échanges passionnants sur I’m Famous 51
Chatrandom - Meet and chat on I’m Famous 51
Chatrandom - Führe spannenGespräche auf I’m Famous 51
Chatrandom - Beleef gesprekkop I’m Famous 51
Coco chat - Discutez avec la communauté Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Explore vibrant conversations at Quincaillerie Outillage Thollot
Chatrandom - Tritt spannendChats bei Quincaillerie Outillage Thollot bei
Chatrandom - Ga mee in boeiengesprekkbij Quincaillerie Outillage Thollot
Coco chat - Rejoignez TurboSystem pour discuter
Chatrandom - Engage in exciting chats at TurboSystem
Chatrandom - Genieße spannenChats bei TurboSystem
Chatrandom - Beleef chatplezier bij TurboSystem