วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

โอกาสเดียว

On May 31, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 พ.ค. 62)

การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำพรรคพลังประชารัฐดูเหมือนเหลือโจทย์ข้อเดียวที่ต้องแก้คือ เคลียร์กับพรรคประชาธิปัตย์ให้ลงตัวภายใต้เงื่อนไขที่ว่าต้องมีข้ออ้างให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้บอกกับประชาชนถึงการเข้าร่วมรัฐบาลได้อย่างไม่เคอะเขิน หากยอมให้ได้ก็ตั้งรัฐบาลได้แน่นอน เรื่องที่ขู่ว่าพร้อมตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพื่อยุบสภาเลือกตั้งใหม่เชื่อได้เลยว่าเป็นทางเลือกท้ายๆที่พรรคพลังประชารัฐจะทำ เพราะรู้ดีว่าทันทีที่มีการเลือกตั้งใหม่โอกาสที่จะได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเหลือน้อยลง โอกาสที่ “ลุงตู่” จะได้กลับมาเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้งใหม่แทบมองไม่เห็น มีแค่โอกาสนี้โอกาสเดียวที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและดัน “ลุงตู่” เป็นนายกฯ จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ได้

เกาะติดความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาบริหารประเทศที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ

หลังพรรคชาติไทยพัฒนาเกิดอาการงอนที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ล่าสุดแกนนำพรรคพลังประชารัฐก็เดินทางไปพบ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อขอให้เข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุของอาการงอนเป็นที่รู้กันว่าไม่เกี่ยวกับการยกคณะไปเชิญหรือไม่ไปเชิญอย่างเป็นทางการ แต่น่าจะมาจากผลกระทบเรื่องโควตารัฐมนตรีที่อาจไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำกันไว้ก่อนการโหวตเลือกประธานสภา

แม้พรรคชาติไทยพัฒนาจะขอประชุมพรรคเพื่อมีมติอย่างเป็นทางการก่อนให้คำตอบที่ชัดเจนว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่

แต่เซียนการเมืองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้ไม่มีราคาต่อรอง เพราะเชื่อว่าเข้าร่วมล้านเปอร์เซ็นต์หากพรรคพลังประชารัฐยังยืนยันเงื่อนไขเดิมคือ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ และ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ

งานยากของพรรคพลังประชารัฐในการดึงพรรคการเมืองมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีงานเดียวคือเคลียร์กับพรรคประชาธิปัตย์ให้ลงตัว เพราะจนถึงวันนี้ก็ยังตกลงกันไม่ได้ ทำให้การประชุมร่วมระหว่าง ส.ส. กับกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่เลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่งยังต้องเลื่อนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

ถ้าเคลียร์กันได้เมื่อไรก็พร้อมเดินหน้าต่อ เพราะพรรคภูมิใจไทยประกาศชัดแล้วว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เป็นสำคัญ ถ้าเข้าร่วมก็จบ ถ้าไม่ร่วมก็ตัวใครตัวมัน เพราะไม่อยากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภา

ในสถานการณ์ที่อึดอัดนี้ สิ่งหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐส่งสัญญาณออกมาอย่างชัดเจนที่สุดคือ นายกรัฐมนตรีจะต้องชื่อ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น ถ้าจะมาต่อรองให้เอาคนอื่นเป็นนายกฯพร้อมตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยและพร้อมยุบสภาทันทีเพื่อเลือกตั้งใหม่

แต่อย่างที่บอก การยุบสภาเลือกตั้งใหม่มันเหนื่อยและต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก ดังนั้น คงต้องคุยกันให้มากที่สุดว่าใครจะยอมได้แค่ไหน อย่างไร

แม้ในพรรคประชาธิปัตย์จะมีหลายคนประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่เอา “ลุงตู่” เป็นนายกฯ แต่หากพรรคพลังประชารัฐยอมรับเงื่อนไขเรื่องแก้รัฐธรรมนูญและประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นข้ออ้างอันชอบธรรมเรื่องเดียวที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลได้โดยไม่เคอะเขิน บวกกับยอมสละชิ้นเนื้อในกระทรวงสำคัญๆให้อีกนิดหน่อย การตั้งรัฐบาลก็น่าจะเกิดขึ้นได้

เรื่องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพื่อยุบสภาเลือกตั้งใหม่เชื่อได้เลยว่าเป็นทางเลือกท้ายๆที่พรรคพลังประชารัฐจะทำ เพราะรู้ดีว่าทันทีที่มีการเลือกตั้งใหม่ โอกาสที่จะได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเหลือน้อยลง

ที่สำคัญคือโอกาสที่ “ลุงตู่” จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งใหม่แทบมองไม่เห็น

พูดง่ายๆคือมีแค่โอกาสนี้โอกาสเดียวที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและดัน “ลุงตู่” ขึ้นเป็นนายกฯ จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ได้


You must be logged in to post a comment Login