วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

มท.1สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศ พร้อมรับมือเหตุน้ำท่วม-ดินถล่ม

On June 1, 2019

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนและมีฝนตกในหลายพื้นที่ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่มปี 2562 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือ ได้แก่ 1. กำหนดให้มีกลไกศูนย์ประสานการปฏิบัติ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วม กลุ่มที่ปรึกษา/ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนอำนวยการ และส่วนสนับสนุน เพื่อให้เกิดเอกภาพและประสิทธิภาพในการควบคุม สั่งการ พร้อมกำหนดตัวผู้รับผิดชอบ แบ่งมอบภารกิจ หน้าที่ พื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจน

2. จัดตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ขึ้นในส่วนอำนวยการของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด เพื่อติดตามสภาพอากาศ การบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ หากประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่ามีแนวโน้มการเกิดสาธารณภัยสูง ให้เสนอผู้มีอำนาจตามกฎหมายแจ้งเตือนภัยและสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังจุดปลอดภัยทันที 3. แจ้งเตือนภัยประชาชน ให้ดำเนินการในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เครือข่ายอาสาสมัคร จิตอาสา โดยให้ความสำคัญกับการส่งข้อมูลการแจ้งเตือนถึงประชาชนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ต่อเนื่อง และทั่วถึง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ช่องทางแจ้งข้อมูลการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐในการดูแลประชาชน

4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบจุด/พื้นที่ปลอดภัยให้มีความพร้อมรองรับการอพยพประชาชน และปรับปรุงแผนการอพยพในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีความพร้อม โดยซักซ้อมสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงเส้นทางและสถานที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงจากกรณีน้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในพื้นที่เชิงเขาหรือพื้นที่ลาดเอียง ตลอดจนคลื่นลมแรงในพื้นที่ริมทะเล ให้มอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จัดระบบให้พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดสาธารณภัย

5. ในพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลด้านการคมนาคมทางทะเลและการท่องเที่ยว กำหนดมาตรการในการประกาศห้ามการเดินเรือออกจากหรือเข้ามายังฝั่ง หากฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งของทางราชการให้ดำเนินการทางกฎหมายในทุกกรณี 6.ในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หากมีสถานที่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย เช่น ถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด ให้สั่งการหน่วยงานรับผิดชอบประกาศแจ้งเตือนปิดกั้นพื้นที่ และห้ามนักท่องเที่ยวหรือบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง


You must be logged in to post a comment Login