“พีระวิทย์”ร้อง”ผู้ตรวจฯ-ศาลปกครอง”ขอโหวตนายกฯพรุ่งนี้

On June 4, 2019

นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินวันนี้ (4 มิ.ย.) ขอให้พิจารณาและมีความเห็นเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม และให้การประกาศรับรองตนกลับเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อตามกฎหมาย

นายพีระวิทย์กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากการที่ กกต. คำนวณคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประกาศผู้ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใหม่คือ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แต่เมื่อไปตรวจสอบพบว่ามีความผิดปกติของคะแนน โดยคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งประเทศที่ กกต. ประกาศเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนน 3,947,726 คะแนน และต่อมา กกต. ได้สั่งให้นับคะแนนใหม่ในเขต 1 จ.นครปฐม คะแนนรวมของพรรคประชาธิปัตย์ลดลงประมาณ 50 คะแนน และใน 6 หน่วย 5 จังหวัด พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้คะแนนรวมมาใหม่ไม่ถึง 200 คะแนน แต่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งรวม 349 คน กลับพบว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนน 3,957,620 คะแนน จึงเกิดข้อสงสัยว่าคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ทำไมจึงเพิ่มขึ้นจากคะแนนวันที่ 28 มีนาคม ทั้งที่ในข้อเท็จจริงแล้วเมื่อมีการนับใหม่และคะแนนได้น้อยกว่าเดิม แต่คะแนนรวมทำไมจึงเพิ่มขึ้นถึง 9,894 คะแนน

“ผมไปนั่งกดเครื่องคิดเลขอยู่ 25 รอบ และเปรียบเทียบคะแนนรวมของทุกพรรคจากวันที่ 28 มีนาคมและ 8 พฤษภาคม ทุกพรรคคะแนนลดลงหมด มีพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวที่คะแนนเพิ่มขึ้น ก็หาสาเหตุไม่เจอ สุดท้ายพอจะสรุปได้ว่า ตัวเลข 4 และ 5 ในเครื่องคิดเลขใกล้กัน เจ้าหน้าที่ กกต. คงจะรวมผิด เพราะขนาดนครปฐมยังรวมผิดเลย ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกินมา 9,894 คะแนน”

นายพีระวิทย์ยังบอกด้วยว่า ถ้าเอาคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 28 มีนาคมเป็นฐาน และลบด้วยคะแนนของเขต 8 เชียงใหม่ ที่ กกต. แจกใบส้ม และคะแนนของเขต 1 นครปฐม ก่อนมีการนับใหม่ แล้วบวกคะแนนเขต 8 เขียงใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม โดยนำมาคำนวณ พรรคไทรักธรรมก็จะมีคะแนนชนะพรรคประชาธิปัตย์ 0.1 คะแนน หรือคิดเป็นคะแนนดิบ 7,100 คะแนน ตนก็ยังจะคงได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อเหมือนเดิม แต่นี่กลับเอาคะแนนวันที่ 8 พฤษภาคมบวกด้วยคะแนนของเขต 8 เชียงใหม่ล่าสุด ทำให้พรรคไทรักธรรมแพ้พรรคประชาธิปัตย์ไป 0.0027 หรือคือเป็นคะแนนดิบ 185 คะแนน

“ความผิดปกติเหล่านี้ทำให้ผมต้องมาขอความเป็นธรรมกับผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน เพราะ กกต. บอกว่า ภายใน 1 ปี ถ้าหากมีเรื่องร้องคัดค้านหรือมีการเลือกตั้งใหม่ คะแนนและ ส.ส. จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยตลอด ก่อนหน้านี้ก็ตั้งใจว่าจะยอมรับ ไม่ร้องเรียน แต่เมื่อประชาชนเห็นผลรวมของคะแนนที่มีการประกาศและพบข้อสงสัยจึงขอให้ผมไม่ยอม ขนาดพรรคอนาคตใหม่ยังพูดว่าผมยอมได้อย่างไร แต่เขาไม่ช่วยผมเพราะกลายเป็นคนละฝั่งไปแล้ว ทำให้ต้องมาร้องเรียน และหลังจากนี้ก็จะไปร้องศาลปกครองขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพราะผมได้เป็น ส.ส. มาอย่างถูกต้อง เพราะ 1 เสียงก็มีความหมายที่จะได้โหวตนายกฯ ถ้าศาลคุ้มครองให้ พรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) ก็จะไปโหวตนายกฯ และถ้าศาลบอกว่าการคำนวณของ กกต. ผิดจนทำให้ น.ส.จิตภัสร์เข้าไปเลือกนายกฯ ก็จะถือว่าการเลือกนายกฯนั้นผิดกฎหมาย ก็จะทำการฟ้องนายชวน หลีกภัย ประธานสภาต่อไป” นายพีระวิทย์กล่าว

นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สำนักงานจะเร่งพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของประกาศ กกต. หากจะยื่นต่อศาลก็น่าจะเป็นศาลปกครอง จะพยายามเร่งรัดการพิจารณา

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยื่นขอให้ผู้ตรวจฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. ขัดรัฐธรรมนูญ นายวทัญญูกล่าวว่า ยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นนายพีระวิทย์ได้เดินทางไปยื่นฟ้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลปกครอง โดยขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวให้ได้รับสิทธิกลับมาเป็น ส.ส. เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ก่อน

Featured