“เพื่อไทย”ไม่ส่งคนชิงตำแหน่งนายกฯหนุน”ธนาธร”แทน

On June 4, 2019

แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เรียกประชุม ส.ส. ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและขอมติจากที่ประชุมว่าจะส่งบุคคลของพรรคเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิถุนายนนี้หรือไม่ โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง

นายภูมิธรรมแถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมพูดคุย 2 เรื่องใหญ่ๆคือ การทำหน้าที่ในสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) และการตัดสินใจส่งบุคคลชิงนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. เป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เนื่องจากกติกาที่พิกลพิการ เราจึงจำเป็นต้องประสานกับพรรคต่างๆ

“พรรคเพื่อไทยเข้าใจดีว่าประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่ต่างๆจาก 136 เขตเลือกตั้ง อยากสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยกติกาที่เป็นอยู่ทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย จึงจำเป็นต้องรักษาความร่วมมือของทั้ง 7 พรรคเอาไว้ ดังนั้น จึงมีมติว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอชื่อ แต่จะสนับสนุนแนวทางของทั้ง 7 พรรค ที่เปิดโอกาสให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แข่งขันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยืนยันว่ายังรักษาสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะไม่เป็นเงื่อนไข โดยไม่ขอรับตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น เพื่อทำให้แนวร่วมที่จับมือร่วมกันได้หาทางคลี่คลายกฎกติกา รัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา เป็นอุปสรรคของประเทศ” นายภูมิธรรมกล่าว

ส่วนการที่พรรคไม่เสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีจะชี้แจงประชาชนอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุมถกเถียงกันมาก แต่คิดว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการเห็น พล.อ.ประยุทธ์ยังทำหน้าที่อยู่

เมื่อถามว่าจะถูกมองว่าเลือกพรรคเพื่อไทยแต่ได้นายธนาธรหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้พูดว่าเลือกเราได้ใคร แต่เราต้องฝ่าวิกฤตและกติการัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเห็นว่าคนที่จะมาเป็นผู้น ก่อนจะโหวตควรแสดงวิสัยทัศน์ ควรบอกประชาชนว่าจากนี้จะทำอะไรให้กับสังคมด้วยวิธีการอย่างไร

ด้านนายชูศักดิ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมประเด็นเสนอญัตติอภิปรายนายกรัฐมนตรีหลายประเด็น อาทิ คุณสมบัติต้องห้ามของนายกรัฐมนตรีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 หรือไม่ กรณี พล.อ.ประยุทธ์คัดเลือก ส.ว. 250 คน แล้วมาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งดูแล้วไม่เป็นกลางทางการเมือง จะเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ ส่วนการอภิปรายจะวุ่นวายหรือไม่อยู่ที่การควบคุมของประธานสภารัฐสภา และอยู่ที่ว่าจะมีการเปิดให้อภิปรายอย่างกว้างขวางหรือไม่

เมื่อถามว่าประเด็นที่พรรคเพื่อไทยเตรียมไว้มีมาก คาดว่ากระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีจะจบในวันพรุ่งนี้หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่มั่นใจว่าจะจบในวันเดียวหรือไม่

Featured