วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“ธนาธร”แสดงวิสัยทัศน์นอกสภาลั่นพร้อมรับตำแหน่งนายกฯแห่งความจริง

On June 5, 2019

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงแสดงวิสัยทัศน์ต่อหน้าสื่อมวลชนระบุว่า ถ้าท่านอยากเห็นประเทศไทยไม่ต้องยึดหลักการและความชอบธรรมใด ก็คงไม่จำเป็นที่จะฟังคำที่ผมจะพูด แต่ถ้าอยากเห็นสังคมไทยมีขื่อมีแป เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ท่านกับผมก็คิดเหมือนกัน ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรีจะนำประเทศไทยไปในทางไหน ผมพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความจริง ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลงที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้า

“ผมจะเป็นนายกฯ แห่งความจริง” ที่เห็นปัญหาที่รากฐานหรือเฉพาะตัว ผมมีโอกาสได้พบพี่น้องประชาชนที่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในความลำบากยากจน ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนห่างไปเรื่อยๆ เพื่อจะแก้ปัญหาที่ตรงจุดต้องยอมรับปัญหาที่เกิด เราจะแก้ไขปัญหาทุนผูกขาดที่เอาเปรียบประชาชนได้อย่างไร หากไม่แก้ไขปัญหาระบบทุนอุปถัมภ์ เราจะใช้งบประมาณของประเทศได้อย่างไร ถ้าอำนาจอยู่ที่บุคคลส่วนกลาง แต่ผู้มีอำนาจไม่เคยมองเห็นความลำบากที่แท้จริง

“ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง” การมองปัญหาจากความจริงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เราต้องกล้าเผชิญหน้า คิดอย่างเป็นระบบและทำงานป็นทีม ซึ่งสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ไม่ใชสงคราม แต่เป็นกบที่ถูกต้มอยู่ในน้ำที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว การบริโภคในประเทศอ่อนลงทุกที หนี้สินในประเทสเพิ่มสูงขึ้น คุณภาพการศึกษาเสื่อมลง ถึงแม้ว่าเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่น้ำเดือดอยู่ แต่น้ำเดือดขึ้นทุกที สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยผู้นำเพียงคนเดียว หลายปัญหาเป็นปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับผู้นำประเทศ ทางออกที่ชัดเจนจำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มทุนกลุ่มใหญ่ เราต้องกล้าชนกับโครงสร้างอำนาจที่ไม่เป็นธรรม หลายปัญหาสะสมมาเป็น 10 ปี เราต้องรับฟังและยืนยันในการตัดสินใจบนหลักการชอบธรรมของผู้ที่เสียเปรียบ แต่ก็ใช้เพียงความรู้สึกไม่ได้ แต่ต้องทำด้วยความรอบคอบและรัดกุม ผู้นำคนต่อไปจำเป็นต้องใช้ความรู้และเทคโนโลยีต่างประเทศมาประยุกต์กับสังคมไทย ถ้าเราเลือกทิศทางและข้อมูลที่ถูกต้อง คิดอย่างเป็นระบบและเป็นทีม ผมจะเป็นายกที่พาประเทศไทยไปข้างหน้า นี่เป็นภารกิจของชีวิตผม ของสมาชิกผู้แทนราษฎรที่มีความฝันเหมือนกันกับผม

“ตั้งแต่เราเป็นเด็กจนโต ทุกท่านคงได้ยินคำพูดที่ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา แต่ไม่มีใครเคยบอกว่าเราจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ถีงเวลาแล้วที่เราจะต้องเป็นประเทศโลกที่หนึ่ง” เราควรเป็นประเทศที่เศรษฐกิจก้าวหน้าได้ โดยที่เราสามารถปรับแต่งเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของเราให้เป็นสากลได้เช่นกัน ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี นี่จะไม่ใช่นโยบายของพรรคอนาคตใหม่ แต่จะเป็นภารกิจของรัฐบาลประชาธิปไตย บนความเท่าเทียมและขจัดความเหลื่อมล้ำ มันจะดีแค่ไหนที่สามารถส่งต่อประเทศเราให้กับลูกหลานที่เป็นประชาธิปไตยเท่ากัน ไม่มีรัฐประหาร 

“เราจะส่งเสริมให้มีการตรวจสอบที่ถ่วงดุล มีระบอบพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขควบคู่กับประชาธิปไตย เราต้องช่วยให้ ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชนไม่ใช่เป็นตัวแทนของนายทุนหรือทหาร ให้รัฐสภาไม่ใช่สถานที่ที่ผู้คนสิ้นศรัทธาและเอือมระอา ทั้งหมดนี้คือภารกิจประวัติศาสตร์ ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ผมธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจจึงพร้อมที่จะเป็นนายกแห่ความจริง นายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลงที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้า” นายธนาธร กล่าวทิ้งท้าย


You must be logged in to post a comment Login