วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“ธนาธร”ย้ำมีซื้องูเห่าจริงชี้ถ้าไม่มี250ส.ว.ฝ่ายต้านคสช.ไม่แพ้

On June 8, 2019

ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวก่อนเริ่มงาน ฉลองครบรอบ 1 ปี การก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ภายใต้หัวข้อ “1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน walk with me talk with me” ต่อทิศทางการทำงานหน้าที่เป็นฝ่ายค้านของพรรคอนาคตใหม่ ว่า ตอนนี้ฝ่ายค้านทั้งหมด ต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างวิปฝ่ายค้านให้เข้มแข็ง สำหรับพรรคอนาคตใหม่เตรียมไว้หลายประเด็นที่เราจะทำเป็นญัตติ รวมถึงประเด็นที่อยากผลักดันให้ออกมาเป็นกฎหมาย ซึ่งส.ส.ของพรรคและทีมนโยบายกำลังทำงานอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมการ จากนี้จะทำทีละก้าว การต่อสู้ยังอีกยาวและขอเชิญประชาชนมาต่อสู้ร่วมกัน ผ่านกลไกรัฐสภา ซึ่งเป็นกลไกที่สันติสุขที่สุด และหลีกเลี่ยงความรุนแรงให้มากที่สุด ถ้าพวกเขาปฏิเสธทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ในรัฐสภา ก็เท่ากับการปฏิเสธการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย เสนอนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ก็ยินดีและมีความเหมาะสม ฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน

เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่าพรรคถูกปล้นชัยชนะนั้นขอให้ขยายความ นายธนาธร กล่าวว่า ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนไม่เข้าใจเรื่องนี้เท่าไร ส.ว. 250 เสียงถึงแม้ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐจะเอาออกไป ก็ชนะอยู่ดีนั้น เรื่องนี้ถูกต้องแต่ต้องอย่าลืมว่าการดำรงอยู่ของ ส.ว.250 เสียงบิดเบือนการตัดสินใจของพรรคการเมืองต่างๆไปตั้งแต่แรกแล้ว เหมือนที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องมองโลกแห่งความเป็นจริงว่า ถึงอย่างไรฝ่ายที่สืบทอดอำนาจของคสช. ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ซึ่งฝ่ายที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ตัดสินใจเพราะพรรคพลังประชารัฐมีเสียงข้างมาก แต่ตัดสินใจเพราะพรรคพลังประชารัฐ​มี ส.ว. 250 เสียงหนุนหลัง หากอยู่ฝั่งพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นรัฐบาลแน่ ตนเชื่อว่าหากไม่มี 250 เสียงการจัดตั้งรัฐบาลไม่ออกมาแบบนี้แน่ๆ จึงเป็นการบิดเบือนการตัดสินใจไปตั้งแต่นั้นแล้วและหากอยู่ในภาวะปกติ ฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลได้ ต้องเป็นฝ่ายที่ต่อต้าน คสช. แน่นอน ส่วนใครจะเป็นนายกฯ ต้องดูอีกที

เมื่อถามว่าคิดว่าอายุของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ถ้าเราดูเสียงที่ห่างกันอยู่ไม่กี่เสียง ก็คงทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปอย่างยากลำบาก สิ่งที่ต้องมองมากกว่านี้คือ การซื้อส.ส.ฝ่ายตรงข้ามเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งการซื้องูเห่ายังเป็นไปได้ตลอดเวลา และตนมองว่ามีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะอยู่ไม่ครบเทอม ขณะที่การทำหน้าที่ของพรรค จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนกรณีที่ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างมากนั้น คิดว่า เพราะความไม่พอใจจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่มีความรู้สึกโกรธ และไม่พอใจเสียงของตนเองไม่ได้รับการตอบสนอง ตามที่ได้นายกฯ คือ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ไม่สอดคล้องกับความต้องการ จึงทำให้เกิดความโกรธแค้น ซึ่งก่อนโหวตนายกฯ หลายฝ่ายมองว่า ส.ว. มีเอกสิทธิ์ในการตัดสินใจของตนเอง แต่เมื่อโหวตออกมาแล้ว ส.ว. ทั้ง 249 คนกลับตัดสินใจไปในทิศทางเดียวกัน จึงเห็นชัดว่า ส.ว. ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจของ คสช.

เมื่อถามถึงคดีการถือครองหุ้น บริษัทวี-ลัค มีเดีย นายธนาธร กล่าวว่า เป็นขั้นตอนในศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้พรรคได้ยื่นให้มีการตรวจสอบส.ส.ที่ถือหุ้นสื่อเพิ่มเติมจำนวน 41 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ และตนขอให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้หลักการเดียวกับตนในการวินิจฉัยด้วย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาเพียง 7 วันที่วินิจฉัยกรณีของตน ศาลมีข้อสงสัยเพียงว่าผิดคุณสมบัติ แต่อีก 41 คนนั้น ผิดแน่ๆ เพราะเราใช้งบการเงินที่ยื่นในเดือน พ.ค. ปี 2562 นี้ เป็นข้อมูลการตรวจสอบ จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยตรวจสอบการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญด้วย เรื่องนี้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเมื่อไร ต้องใช้เวลา 7 วันเท่ากับตนด้วย ส่วนการขอขยายระยะเวลาชี้แจง 30 วันก็เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ มีความรัดกุมมากที่สุด

เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นตรวจสอบกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เปิดเผยเรื่องการซื้อตัว ส.ส.​120 ล้านบาท หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรื่องนี้ ส.ส. พรรคเราพยายามหลีกเลี่ยงไม่พาดพิงถึงบุคคลหรือพรรคอื่น แต่ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

เมื่อถามถึงการต่อรองเก้าอี้ของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นใดๆ เพราะอยู่เหนือการควบคุมของเราแล้ว เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เมื่อไม่เอาหลักการเป็นที่ตั้ง แต่เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้งก็ออกมาแบบนี้นั่นเอง

ทั้งนี้เมื่อเวลา 13.30 น. เวทีการจัดงานได้เริ่มต้นผ่านบทเพลงที่เชื่อว่า เดอะ ฟิวเจอร์ ออฟ เอาเออร์ คันทริ ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ที่นั่งอยู่บริเวณห้องประชุม ต่างพากันยกมือชู 3 นิ้ว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ยอมจำนนต่อความไม่ยุติธรรม ตามมอตโต้ของงานที่ว่า “นี่ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้น”


You must be logged in to post a comment Login