วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

แก๊งมีสี?

On June 17, 2019

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 มิ.ย. 62)

วันไหว้ครูปีนี้กลายเป็นข่าวดัง เพราะพานไหว้ครูโรงเรียนชุมพลโพนพิสัย หนองคาย โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี พิษณุโลก โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล สกลนคร และโรงเรียนหอวัง กรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่ตกแต่งพานสวยงามเท่านั้น แต่ยังแสดงความคิดทางด้านการเมืองด้วย

อย่างเช่น พานรูปนาฬิกายืมเพื่อน รูปรถถัง รูปเรือดำน้ำ รูปหีบเลือกตั้ง รูปชูสามนิ้วพร้อมข้อความ #saveThailand รูปรัฐธรรมนูญ และรูปตาชั่ง

หลังจากเผยแพร่ผ่านสังคมออนไลน์ มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อพบนักเรียนที่ทำพานและครูที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือให้ลบภาพพานแสลงใจ “เผด็จการ” ทั้งหมด

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่ากองทัพไม่ได้สั่งเจ้าหน้าที่ ส่วน “พี่ใหญ่” เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ไม่เชื่อว่าเด็กจะคิดแบบนี้ได้

พ.ต.อ.ภูวิศ ศิริพานิช ผกก.สภ.โพนพิสัย หนองคาย อ้างว่า ตำรวจเข้าไปตรวจความเรียบร้อยตามปกติ ไม่ได้สั่งหรือข่มขู่นักเรียนให้ลบภาพออกแต่อย่างใด เพราะการทำพานไหว้ครูถือเป็นความคิดของนักเรียนเอง

ผศ.สาวตรี สุขศรี อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊คว่า มีข่าววงในระบุ “แก๊งมีสี” จำนวนหนึ่งไปขู่โรงเรียนและเด็กที่ทำพานไหว้ครูล้อการเมืองและแชร์จนเป็นที่ฮือฮา โดยขู่ว่าอาจมีความผิดและให้ยุติการเผยแพร่ภาพ ทำให้เด็กกลัวและขอร้องให้ช่วยลบโพสต์ต่างๆนั้น ยืนยันว่าไม่มีความผิดใดๆทั้งคนถ่ายรูปและแชร์ภาพ ไม่ว่าจะเป็น ป.อาญา หรือ พ.ร.บ.คอมพ์

“อาจารย์สาวตรี” ยังเตือน “แก๊งมีสี” ว่า การเที่ยวไปข่มขู่ผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยที่ตัวเอง “ไม่มีอำนาจ” ตามกฎหมายเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา พร้อมสรุปว่า.. “#ไม่ผิด ไม่ต้องกลัว #ไม่ผิด ไม่ต้องลบ #เผด็จการประชาธิปไตยไหมล่ะมึง”

ต้องดูกันว่า หลัง “เผด็จการ” หมดอำนาจ ไม่มี “มาตรา 44” พวก “แก๊งมีสี” จะยังแสดงอำนาจบาตรใหญ่หรือไม่? และจะเปลี่ยนสีเหมือนจิ้งจกจิ้งเหลนหรือไม่?


You must be logged in to post a comment Login