พายุใหญ่กำลังมา

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 17 มิ.ย.62)

ภาพพานไหว้ครูล้อการเมือง ไม่ว่าจะมีคนคิดธีมให้เด็ก มีเบื้องหลัง มีคนสั่งการอย่างที่ฝ่ายคุมอำนาจคิดหรือไม่ สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ากระแสการแบ่งขั้วทางการเมืองแผ่ขยายรวดเร็วทั้งในทางลึกและทางกว้าง และยังสะท้อนว่ากระแสไม่เอากลุ่มอำนาจปัจจุบันเริ่มแทรกซึมไปสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกระดับ น่าสนใจว่าเหตุปัจจัยต่างๆนี้จะนำพาสถานการณ์ไปสู่จุดไหน อย่างไร ถ้ามีการชุมนุมเกิดขึ้นเชื่อว่าครั้งนี้จะแรงและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ฝ่ายคุมอำนาจปัจจุบันต้องการหรือเปลี่ยนโฉมไปอีกทิศทางหนึ่ง มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าอาจเป็นการเมืองบนถนนครั้งสุดท้าย เพราะฝ่ายที่แพ้จะถูกกวาดต้อนไม่ให้มีที่ยืนแน่นอน

สถานการณ์การเมืองวันนี้อย่างที่บอกไปแล้วว่าเชื้อพร้อม รอแค่คนมาจุดไฟ และน่าจะเป็นการจุดติดลุกลามได้อย่างรวดเร็วเมื่อดูจากองค์ประกอบต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองไปถึงการก่อเกิดของพานไหว้ครูในหลายโรงเรียนที่นำเรื่องการเมืองมาล้อเลียน

แม้ว่าฝ่ายคุมอำนาจจะมองว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะไม่เชื่อว่าเด็กมัธยมฯจะคิดเองได้

แม้ฝ่ายสนับสนุนคนคุมอำนาจจะมองว่าเด็กๆทำไปตามกระแสและถูกล้างสมอง

แต่ในความเป็นจริงไม่ว่าจะมีคนคิดธีมให้เด็กหรือไม่ ไม่ว่าจะมีคนสั่งหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นแค่ทำตามกระแสหรือไม่ แต่รูปแบบที่ปรากฏเป็นข่าวก็สะท้อนชัดเจนว่าแนวร่วมไม่เอากลุ่มอำนาจปัจจุบันแผ่ขยายทั้งในทางลึกและทางกว้าง

แผ่ขยายยิ่งกว่าสมัยที่มีการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลพรรคไทยรักไทย รัฐบาลพรรคพลังประชาชน และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ยิ่งมีข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปใช้อำนาจกับเด็กยิ่งช่วยโหมกระพือความไม่พอใจให้มากยิ่งขึ้น เพราะจะตกเป็นประเด็นให้เกิดการซุบซิบนินทาและวิพากษ์วิจารณ์

เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่คอการเมืองที่มองเห็น แต่ฝ่ายสนับสนุนกลุ่มอำนาจบางคนก็มองเห็นและพยายามโพสต์ข้อความเตือนผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ไม่รู้ว่าจะผ่านหูผ่านตาผู้มีอำนาจบ้างหรือไม่

ใครจะถูกกวาดออกจากกระดาน?

นี่คือคำถามจากนายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ

“การต่อสู้ทางความคิดครั้งใหญ่ของสังคมไทยกำลังเกิดขึ้น คนสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทิศทางที่ตนเองต้องการ กลุ่มหนึ่งต้องการนำสังคมย้อนกลับไปเริ่มต้นในยุคสมัยหลังจอมพลสฤษดิ์เขียนพิมพ์เขียวของประเทศไทย สืบทอดอำนาจผ่านจอมพลถนอม จอมพลประภาส นั่นคือ

(1) รัฐประหารยึดอำนาจ

(2) เขียนรัฐธรรมนูญ เขียนกฎหมาย เขียนกติกา เพื่อให้คนในประเทศปฏิบัติตาม เพื่อให้การสืบทอดอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น ควบคุมสังคมไทยให้เป็นไปตามพิมพ์เขียวที่พวกตนเองออกแบบไว้

(3) ตั้งพรรคการเมือง กวาดต้อนนักการเมืองมาเป็นฐานอำนาจ เพื่อสร้างความชอบธรรมทางการเมืองในสายตานานาอารยประเทศ

พรรคพลังประชารัฐก็เหมือนพรรคสหประชาไทยในอดีต กลุ่มประยุทธ์ก็เหมือนกลุ่มถนอมประภาสในอดีต

อีกกลุ่มต้องการนำสังคมให้เดินไปข้างหน้าสู่ความเป็นเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริง การเคลื่อนไหวชัดเจนคือ

(1) ต่อต้านการรัฐประหาร การยึดอำนาจ

(2) ต่อต้านรัฐธรรมนูญ ต่อต้านกฎหมาย ต่อต้านกติกาที่อีกกลุ่มเขียนขึ้น โดยถือว่านั่นคือมรดกของเผด็จการ

(3) เข้าร่วมกับพรรคการเมืองแนวคิดเสรีประชาธิปไตย ร่วมกันตั้งพรรคการเมืองแนวเสรีประชาธิปไตย สร้างกระแสความคิดให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงอายุ ทุกวัย แยกฝ่ายชัดเจนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายเผด็จการ

สนามรบของทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นในทุกอณูของสังคม เกิดขึ้นในครอบครัว เกิดขึ้นในโรงเรียน เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย เกิดขึ้นในบริษัทห้างร้าน เกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน เกิดขึ้นในหน่วยราชการต่างๆ

หลายคนอาจกำลังคาดเดาว่าฝ่ายใดจะชนะ หรือบางคนอาจจะฟันธงไปแล้วว่าฝ่ายใดเป็นผู้ชนะ แต่ที่แน่ๆมีคนฝ่ายหนึ่งถูกกวาดออกจากกระดานแน่นอน

ท่านทั้งหลายคิดว่าเป็นฝ่ายใด?”

ใครจะถูกกวาดออกจากกระดาน? เป็นประเด็นคำถามที่น่าสนใจ และคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็มองเห็นสถานการณ์ที่จะพัฒนาไปถึงจุดนั้นได้ไม่ช้าก็เร็วๆนี้

You must be logged in to post a comment Login