- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
บทเรียนจากฟาโรห์กับโมเสส

คอลัมน์ สันติธรรม
บทเรียนจากฟาโรห์กับโมเสส
โดย บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 21-28 มิถุนายน 2562)
เรื่องราวของฟาโรห์กับโมเสสถูกกล่าวไว้ทั้งในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอาน ชาวยิว ชาวคริสเตียน และชาวมุสลิมทั่วโลกจึงรู้จักดี แต่คัมภีร์กุรอานเรียกโมเสสในภาษาอาหรับว่ามูซา
โมเสสเกิดในชนชาติอิสราเอลที่เคยรุ่งเรืองอยู่ในอียิปต์ก่อนที่จะมีราชวงศ์ฟาโรห์ คำว่าอิสราเอลเป็นฉายานามของยาโกบ บุตรของอิชอัก และเป็นหลานของอับราฮัม
ยาโกบมีลูกชาย 12 คนจากภรรยา 4 คน คัมภีร์กุรอานเล่าว่า ลูกชาย 10 คนของยาโกบอิจฉาโยเซฟน้องชายของตนเพราะเห็นว่ายาโกบรักโยเซฟมากกว่าพวกตน จึงวางแผนกำจัดโยเซฟด้วยการจับเขาไปโยนทิ้งในบ่อน้ำ
แต่โยเซฟรอดตายเพราะกองคาราวานมาพบเขาและนำเขาไปขายให้แก่ผู้มีอำนาจในอียิปต์ หลังจากนั้นด้วยความซื่อสัตย์และความรู้พิเศษที่พระเจ้าประทานให้ในเรื่องทำนายฝัน ในที่สุดโยเซฟได้ขึ้นเป็นผู้มีอำนาจปกครองอียิปต์
เมื่อโยเซฟมีอำนาจสูงสุด ยาโกบยังมีชีวิตอยู่ โยเซฟจึงได้เรียกพ่อแม่และครอบครัวของเขาทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินกันอาน (หรือปาเลสไตน์) มาตั้งถิ่นฐานในอียิปต์ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ให้อภัยพี่ชายทั้ง 10 คน ที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมกันสังหารเขาด้วย
การเข้ามาอยู่ในอียิปต์ทำให้ลูกๆของยาโกบมีอำนาจหน้าที่ในการปกครองอียิปต์ ก่อนยาโกบเสียชีวิตคัมภีร์กุรอานเล่าว่าเขาได้เรียกลูกชายทั้ง 12 คนของเขาเข้ามา และถามว่าถ้าเขาจากโลกนี้ไปลูกจะนับถือศาสนาอะไร ลูกชายทุกคนของเขาตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าจะนับถือศาสนาของพ่อและของบรรพบุรุษ นั่นคือศาสนาที่นับถือพระเจ้าองค์เดียว
ในขณะที่โยเซฟยังมีชีวิตอยู่ ลูกๆทุกคนของยาโกบยังคงนับถือศาสนาที่ตัวเองยืนยันไว้กับพ่อของตน แต่หลังจากที่โยเซฟจากไป ลูกหลานรุ่นหลังๆของยาโกบได้ลืมศาสนาที่บรรพบุรุษของตัวเองนับถือและหันไปบูชาสักการะรูปเคารพต่างๆ ลูกหลานอิสราเอลจึงถูกพระเจ้าลงโทษด้วยการที่ชาวอียิปต์พื้นเมืองได้ลุกขึ้นมาโค่นอำนาจของพวกลูกหลานอิสราเอลและตั้งราชวงศ์ฟาโรห์ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน
ระหว่างที่ฟาโรห์ปกครองอียิปต์ พวกลูกหลานอิสราเอลต้องตกเป็นทาสแรงงานและได้รับความทุกข์ทรมานจากการถูกกดขี่ข่มเหงอย่างหนัก ในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานนี้เองที่พวกลูกหลานอิสราเอลได้หันกลับไปวิงวอนต่อพระเจ้าให้ส่งคนมาช่วยพวกตนจากความทุกข์ทรมาน
เมื่อพระเจ้าทรงเห็นพวกลูกหลานอิสราเอลที่ทุกข์ทรมานสำนึกผิดและหันมาวิงวอนต่อพระองค์ พระองค์จึงได้ส่งโมเสสมาช่วยด้วยการพาพวกลูกหลานอิสราเอลอพยพออกจากอียิปต์
เรื่องราวของฟาโรห์กับโมเสสและลูกหลานอิสราเอลถูกเล่าในคัมภีร์กุรอานโดยมีวัตถุประสงค์หลายประการ
ประการแรก เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าคัมภีร์กุรอานเป็นถ้อยคำของพระเจ้าผู้รู้อดีตและอนาคต มิใช่สิ่งที่นบีมุฮัมมัดเขียนขึ้น เพราะนบีมุฮัมมัดเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ อย่าว่าแต่ภาษาฮิบรูในคัมภีร์โตราห์ที่มีเรื่องราวของฟาโรห์กับโมเสสอยู่เลย แม้แต่ภาษาอาหรับเองนบีมุฮัมมัดก็ไม่สามารถอ่านได้
ประการที่สอง เพื่อต้องการเปิดโปงพฤติกรรมของพวกลูกหลานอิสราเอลที่หลงผิดหันไปเสพติดการบูชารูปเคารพจนถึงขนาดกล้าขอให้โมเสสทำรูปเคารพขึ้นมาบูชาแทนพระเจ้าอีก ทั้งๆที่คนพวกนี้เห็นอำนาจของพระเจ้าที่แยกน้ำทะเลออกเป็นทางให้พวกตนหนีรอดจากการติดตามของกองทัพฟาโรห์ และเห็นทั้งฟาโรห์และกองทัพจมน้ำต่อหน้าต่อตา
ประการที่สาม เพื่อต้องการแสดงให้ชาวมักก๊ะฮฺที่ต่อต้านนบีมุฮัมมัดและชาวโลกในสมัยต่อมาได้เห็นว่าแม้ฟาโรห์จะตั้งตัวเป็นพระเจ้าปกครองอียิปต์และมีแสนยานุภาพทางทหารที่เกรียงไกรที่สุดในยุคนั้น แต่ในที่สุดแล้วเมื่อเผชิญกับอำนาจของพระเจ้าผ่านทางโมเสสผู้มีความศรัทธาอันแรงกล้าและมีไม้เท้าอย่างเดียวเป็นอาวุธ แสนยานุภาพทางทหาร ความมั่งคั่ง และอารยธรรมที่เขาสะสมมา รวมทั้งตัวเขาเองต้องล่มสลายและถูกทำลายในที่สุด
You must be logged in to post a comment Login