วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

อปท.หนุน”นิพนธ์”นั่งมท.2ยันไม่เคยทุจริตชี้มีขบวนการสกัดระดับชาติ

On June 21, 2019

ที่พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย 1.นายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร  2.นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกอบจ.หนองคาย 3.นายนิพนธ์ คนขยัน นายก อบจ. บึงกาฬ 4.นายสมชาย นิติพจน์ นายกอบจ.นครพนม  5.นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายกอบจ.พังงา 6.นายรวยชัย กิตตพรมวงศ์ ประธานสภา อบจ.พังงา. 7.นายชาญยุทธ เกื้ออรุณ เลขานุการนายกอบจ.ตรัง 8.นายวิริยะ ทองผา รองนายกอบจ.มุกดาหาร. 9. นายเกริกพล แสนเมือง ทึ่ปรึกษานายกอบจ. มุกดาหาร และ 10.นายพิกิฏ ศรีชนะ อดีตส.ส.ยโสธร เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกอบจ. สงขลา ซึ่งได้รับคัดเลือกจากพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นว่าที่รมช.มหาดไทย

โดยนายชัยมงคล ในฐานะตัวแทนกลุ่ม อปท. กล่าวว่า มาให้กำลังใจนายนิพนธ์ ในฐานะคนทำงานท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ และเข้าใจปัญหาของคนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจที่ต้องได้คนที่เข้าใจร่วมทำงานกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยเดินหน้าต่อเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนไปสู่ความมั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืนให้ได้

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ กล่าวว่า  ขอขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ พร้อมแถลงแก้ข้อกล่าวหาใน 5 กรณีอีกครั้ง โดยระบุว่าเรื่องที่ค้างในกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) ไม่ใช่การร้องเรียนเรื่องทุจริต แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน มูลค่า 50 ล้านบาท ที่จัดซื้อตั้งแต่นายกอบจ.สงขลาคนเก่า แต่เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินช่วงที่ตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะเดียวกันมีการร้องเรียนเพื่อให้ระงับการสั่งจ่าย เพราะการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาลงนามแจ้งเรื่องมา ตนจึงไม่ลงนามสั่งจ่ายเงิน และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาว่าคำร้องมีมูลหรือไม่ โดยระหว่างที่แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน บริษัทที่ต้องการให้ชำระเงินนั้น ได้ไปฟ้องศาลปกครอง จึงมีการชะลอการจ่ายเงินไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด และผลของคณะกรรมการที่ตั้งตรวจสอบรายงานว่ามีมูลเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดกำหนดคุณสมบัติเอื้อกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการจัดซื้อครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 รวมจัดซื้อ 4 คัน โดยผู้ได้ประโยชน์เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด ตนขอย้ำว่าเรื่องนี้ตนสามารถชี้แจงได้ทั้งหมด ไม่มีการทุจริต มีแต่การนำเอาข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดไปปฏิบัติและเป็นการรักษาผลประโยชน์องค์กรอย่างแท้จริง เนื่องจากมีบทเรียนจากกรณีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาแล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสวนสาธารณะ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยจ.สงขลา แต่ให้ อบจ.สงขลาเป็นหน่วยดำเนินการ จึงไม่ใช่การดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งศาลปกครองได้จำหน่ายคดีที่มีการร้องว่าไม่จัดทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว จึงถือว่าเรื่องยุติ เช่นเดียวกับการจัดซื้อรถตู้พยาบาล 1 คันราคา 5 ล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นราคาตามบัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง ส่วนอีกกรณีหนึ่งที่กล่าวหาว่า อบจ.เงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา เพื่อให้นำงบประมาณไปใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีข้อโต้แย้งเพียงว่าจะใช้ระเบียบการเบิกจ่ายของอบจ.หรือระเบียบของสมาคม ทั้งนี้หากมีการเบิกจ่ายผิดระเบียบก็ต้องนำเงินมาคืนอบจ.สงขลา ซึ่งเรื่องนี้มีการทยอยดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบแล้ว

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ ยังนำตารางการจ่ายเงินงบประมาณไปยัง 16 อำเภอในจ.สงขลา มาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมกล่าวยืนยันว่า มีการจัดสรรกระจายไปยังทุกอำเภอ ไม่ใช่กระจุกในบางอำเภอตามที่มีการกล่าวหา โดยพิจารณาจำนวนประชากร ความสำคัญของพื้นที่ กระจายงบประมาณตามความเหมาะสม  แต่ที่ผ่านมามีการโจมตีตนด้วยเรื่องเหล่านี้ ตั้งแต่ระดับการเมืองท้องถิ่น จนกระทั่งตนเข้าสู่การเมืองระดับชาติก็นำกลับมาโจมตีอีก เป็นการจงใจสกัดไม่ให้ตนเข้ารับตำแหน่ง 

ส่วนกรณีมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีตีกลับรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคนนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจรายชื่อถูกตีกลับเป็นใคร แต่ตนพยายามชี้แจงเรื่องทั้งหมด อาจมีขบวนการของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามทางการเมือง หรือเป็นคู่แข่งขันทางการเมืองพยายามไม่เข้าใจประเด็นนี้ และเอกสารที่ถูกแพร่ในอินเตอร์เน็ตหลายเรื่องเป็นเอกสารเท็จ จึงขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอด้วย ทั้งนี้ ตนได้แจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้วว่าปัญหาคืออะไร ถือว่าที่ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนเป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้ว ตนมั่นใจคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าสามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะไม่ได้ขาดคุณสมบัติ หรือเป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งผู้เกี่ยวข้องก็เข้าใจในทุกประเด็น


You must be logged in to post a comment Login