- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 19 hours ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
2 แชะอัตลักษณ์
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/11/chuk1-300x300.jpg)
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 มิ.ย. 62)
วิจารณ์กันกระหึ่มว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและข้อมูลส่วนบุคคล กรณีประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา ลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือด้วยระบบตรวจสอบใบหน้าและอัตลักษณ์ที่เรียกว่า “2 แชะอัตลักษณ์” ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา
“2 แชะ” คือการกดชัตเตอร์ถ่ายรูปแค่ 2 ครั้ง เป็นอันจบสิ้นกระบวนการลงทะเบียนซิมการ์ดสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงว่า เป็นประกาศ กสทช. ตั้งแต่ปี 2560 โดยรณรงค์กันทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเครือข่ายมือถือแทบทุกค่ายทำแอพพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบซิมการ์ดว่าบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการครอบครองซิมการ์ดกี่ใบ มีใครลอบนำบัตรประชาชนของเราไปซื้อซิมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาการประกอบอาชญากรรมทางการเงินโดยใช้บัตรประชาชนของบุคคลอื่นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ส่วนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กสทช. แค่กำหนดเวลาให้ดำเนินการเท่านั้น เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าคนร้ายและผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้บัตรประชาชนของบุคคลอื่นสั่งซื้อซิมการ์ด หรือซื้อจากนอกพื้นที่ เช่น ประเทศเพื่อนบ้าน มาใช้เป็นตัวจุดระเบิด อย่างกรณีระเบิดรูปปั้นนางเงือกที่หาดสมิหลา คนร้ายใช้บัตรประชาชนของผู้หญิงคนหนึ่งในพื้นที่ชายแดนใต้สั่งซื้อซิมการ์ดจำนวนมากโดยส่งผ่านเคอร์รี่
พ.อ.ปราโมทย์ยืนยันว่า มาตรการนี้เป็นการคุ้มครองสิทธิและปกป้องชีวิตสุจริตชน ปิดช่องโหว่ไม่ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงนำบัตรประชาชนของคนอื่นไปซื้อซิมการ์ดมาก่อเหตุความรุนแรงได้
คำถามขณะนี้คือ 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทหารทุ่มงบประมาณและใช้มาตรการต่างๆ แต่ยัง “ดับไฟใต้” ไม่ได้และมีแนวโน้มเป็นปัญหายืดเยื้อไปอีกนาน เพราะแม้แต่ “การพูดคุยสันติภาพ” ยังถูก “แช่แข็ง” เหมือนการพยายามกลับสู่ประชาธิปไตยทุกวันนี้?
You must be logged in to post a comment Login