- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
“พ็อพส์ (ประเทศไทย)” ชี้สมรภูมิ Influencer Marketing ผ่าน YouTube แข่งเดือด! ชูผลงานระดับมืออาชีพดันยอดพุ่ง3เท่า
นายบานิ แทนผู้อำนวยการประจำภูมิภาค (Regional director) บริษัท พ็อพส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านดิจิตอล เอนเตอร์เทนเมนท์ ผู้ให้ความบันเทิงผ่านYouTube และ Social Media Platformอื่น ๆ ซึ่งในกระแสโลกยุคใหม่ เรื่องของ Influencer Marketingหรือการทำตลาดโดยใช้บุคคล เน็ตไอดอล องค์กรดังๆ แฟนเพจที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือทางสังคมออนไลน์และมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์(Social Media) เช่น Instagram, Facebook และYouTubeโดยในปี 2562เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ผู้ทำเนื้อหา(Content) เผยแพร่ผ่านYouTube (YouTuber/Creator) เพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับปี2561 Influencer Marketingไม่เพียงสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้บริโภค แต่Influencer ยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและโน้มน้าวสู่การตัดสินใจซื้อได้ในท้ายที่สุดซึ่งกระแสความความนิยมดังกล่าวส่งผลให้พ็อพส์ (ประเทศไทย) เติบโตเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากการทำแคมเปญกว่า 200 แคมเปญกับลูกค้าในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีอัตราการเติบโตสูง (Fast Moving Consumer Goods: FMCG) กลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มสายการบิน และอื่นๆ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ YouTube ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากFacebook ได้ลดการเข้าถึง (Reach) ในการมองเห็นโฆษณาและเพจต่างๆ ประกอบกับพฤติกรรมการติดตามและการเข้าชม YouTube Channel ของกลุ่มผู้บริโภคจะมีความสม่ำเสมอมากกว่า ส่งผลให้Influencer หลายรายที่มาจาก Social Media Platformอื่นๆ เริ่มเข้ามาใช้ YouTube โดยเฉพาะกลุ่มดาราและนักแสดงที่เคยใช้ Instagram เป็นช่องทางหลักของผู้ติดตาม ส่งผลให้อัตราค่าจ้างYouTuberมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะYouTuberที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ (Top–tier YouTuber)มีเรตราคาสูงสุดในตลาด ณ ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ1.2ล้านบาทต่อหนึ่ง YouTube Video ในขณะที่YouTuberที่ได้รับความนิยมรองลงมา (Mid–tier YouTuber)มีการแข่งขันและตัดราคากันอย่างรุนแรงซึ่งจากข้อมูลของ YouTube ณ วันที่ 6 มีนาคม 2562 พบว่า มี 6 ช่อง (Channel) ที่มีผู้ติดตาม (Subscriber) เกิน10ล้านรายมี 200 ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1ล้านราย ซึ่งจากสถิติพบว่าในทุกๆ 3 วันจะมี1 ช่องที่มีผู้เข้ามากดติดตามทะลุ1 ล้านราย มี 2,500 ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 แสนราย และมี 3 ช่องที่มีผู้เข้ามากดติดตามทะลุ 1 แสนรายในทุกๆ วันอย่างไรก็ตาม ถึงแม้การทำ Influencer Marketing มีเรตราคาสูงสุดขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่ายูทูปเบอร์ในกลุ่มที่ได้นิยมอันดับต้นๆ (Top–tier YouTuber)ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพราะมีความคุ้มค่า เมื่อพิจารณาจากค่าโฆษณาต่อการชมวิดีโอ(Cost per View)มีเรตที่ต่ำกว่าการทำ Video Production เองและการซื้อโฆษณาเอง
นายบานิ กล่าวเพิ่มเติมว่าในปัจจุบันเจ้าของแบรนด์และนักการตลาดจะให้ความสำคัญกับยอดขายจากผู้เข้าชม (Conversion) มากกว่าการเข้าถึง (Reach) และยอดการเข้าชม (Views) ของกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจัยสำคัญในการทำ Influencer Marketing เพื่อให้เกิดยอดขายคือ การเลือก Influencer ที่มีสามารถสร้างContent และสอดแทรกการโฆษณาแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม (Branded Content) รวมถึงการเลือก Influencer ที่มีภาพลักษณ์ตรงกับสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสาร และมีผู้ติดตามที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์รวมไปถึงการพิจารณาระดับความนิยมของ Influencer นั้นๆ นอกจากนี้ ทีมงานที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ รู้จักและเข้าใจลักษณะผู้ชมของแต่ละ Influencerได้อย่างลึกซึ้งเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริงจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำ Influencer Marketingประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเช่นการทำการตลาดในกลุ่มเด็กจะมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากในบาง Social Media Platformจะมีข้อจำกัดด้านอายุในการสมัคร (Age restriction) ทำให้เด็กๆ เลือกที่จะนำเอาบัญชี (account)ของผู้ปกครองมาใช้แทน จึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวางกลุ่มเป้าหมายหากวิเคราะห์เพียงลักษณะด้านประชากรศาสตร์ (Demographic) ที่ติดตามเพจนั้นๆ เพียงอย่างเดียว ดังนั้น ทีมงานที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ รู้จักและเข้าใจลักษณะผู้ชมของในแต่ละ influencer เป็นอย่างดี จึงมีผลอย่างมากต่อการเสนอ influencer ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการในแต่ละแบรนด์
“แม้ว่า Influencer Marketing จะมีการแข่งขันสูง แต่พ็อพส์(ประเทศไทย) ได้มีการลงทุนด้านทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถส่งมอบผลงานที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าส่วนในด้าน Contentเรา ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของแบรนด์ (Brand Safety) ในการทำโฆษณาออนไลน์ที่โฆษณานั้นไม่ควรไปอยู่ในเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือใกล้กับโฆษณาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงความปลอดภัยด้านเนื้อหาสำหรับกลุ่มผู้ชมที่เป็นเด็ก (Kid Safety)ในช่องทางและรายการเด็กของพ็อพส์ (ประเทศไทย) ส่งผลให้สัดส่วนยอดขายประมาณ 65% ในปีนี้เป็นลูกค้าที่ประทับใจและกลับมาใช้บริการกับเราอย่างต่อเนื่อง” นายบานิ กล่าวในตอนท้าย
You must be logged in to post a comment Login