วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“ปิยบุตร”ลุ้นศาลรธน.ตัดสินปมหุ้นสื่อ

On June 27, 2019

ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส.ส.ฝ่ายค้าน 33 คน เข้าข่ายการถือครองหุ้นสื่อมวลชนว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ให้อำนาจ ส.ส. ในการเข้าชื่อ แต่ก่อนหน้านั้นในช่วงเช้าทราบมาว่าจะใช้วิธีการร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่คงเปลี่ยนการตัดสินใจ เพราะเปิดรัฐธรรมนูญแล้วพบว่าไม่มีช่อง จึงหันมาใช้ช่องนี้ ซึ่งพวกท่านมีวาสนากว่าตน เพราะได้ยื่นถึงมือนายชวน หลีกภัย โดยตรง ขณะที่ตนต้องยื่นผ่านเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะใช้เวลาเท่าไร

นายปิยบุตรกล่าวว่า สำหรับกรณี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 21 รายที่ปรากฏรายชื่อในคำร้องของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐนั้น เรายืนยันว่าหลายกรณีมีการโอนหุ้นไปแล้ว และหลายกรณีก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ ใจความที่ตนย้ำมาตลอดคือ เจตนารมณ์ที่แท้จริงของรัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องการให้นักการเมืองไปครอบงำสื่อเพื่อใช้เอาเปรียบกันทางการเมือง แต่จากกรณีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่ ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาจากหนังสือบริคณห์สนธิ เจอวงเล็บใดเกี่ยวกับสื่อก็ตัดสิทธิทันที จึงเกิดปัญหาซ้ำซ้อนกันแบบนี้ ดังนั้น สิ่งที่พรรคยืนยันคือ เราเห็นว่าการตีความกฎหมายเช่นนี้มีปัญหา ท้ายที่สุดเรื่องนี้จะอยู่ในมือของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราหวังว่าศาลจะมีมาตรฐานในการตัดสินที่เท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ

เมื่อถามว่าพรรคอนาคตใหม่ย้ำเรื่องเจตนารมณ์ แต่ในคำร้องของพรรคอนาคตใหม่ก็ร้อง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลโดยระบุถึงหนังสือบริคณห์สนธิเท่านั้นเช่นกัน นายปิยบุตรกล่าวว่า การที่เราร้องเพราะต้องการเรียกร้องมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับคุณสมบัติต้องห้ามเรื่องถือหุ้นสื่อ ในเมื่อตัดสินคดีนายภูเบศวร์และนายคมสัน ศรีวนิชย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง พรรคประชาชาติ มาแล้ว ทำให้เกิดมาตรฐานขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดครั้งนี้เป็นโอกาสให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เกิดความชัดเจน หากกรณีที่ถือหุ้นในบริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อจริงๆ แต่หนังสือบริคณห์สนธิมีเรื่องสื่อ ถ้าแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญไม่เหมือนศาลฎีกาฯ หากเขารอดเราก็ต้องรอด

เมื่อถามว่าเคยมีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญอาศัยบรรทัดฐานของศาลฎีกาฯในการตัดสินหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า เท่าที่ได้ตรวจสอบพบว่ามีโอกาสที่จะตัดสินไม่เหมือนกัน แต่ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินสอดคล้องหรือวางแนวแบบใหม่ก็ขอให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับ ส.ส. ทุกคน ทุกพรรคการเมือง


You must be logged in to post a comment Login