“ชวน”เมินถูกฝ่ายค้านฟ้องเหน็บขี้โวยวายระวังถูกฟ้องกลับ

On June 28, 2019

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่รัฐสภาแห่งใหม่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี7 พรรคฝ่ายค้าน เตรียมแจ้งความนายชวนและนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานรัฐสภาคนที่ 2 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา157 กรณีไม่บรรจุญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบที่มาของ ส.ว. ว่า ประธานสภาอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าประธานทำผิดทุกฝ่ายก็มีสิทธิจัดการตามกฎหมายได้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ให้ระวังเรื่องที่ไปร้องอย่าเป็นเท็จเดี๋ยวจะโดนแจ้งความเท็จ

เมื่อถามว่าหากพิจารณาแล้วว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเท็จจะดำเนินคดีกลับหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เขายังไม่ได้ยื่น

เมื่อถามว่าญัตติที่ 7 ฝ่ายค้านเสนอได้บรรจุแล้วหรือยัง นายชวนกล่าวว่า ญัตตินี้ได้ผ่านกระบวนการของเจ้าหน้าที่มาถึงรองประธานสภา ซึ่งรองประธานสภาได้วินิจฉัยมาแล้ว แต่ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ จึงขอเชิญเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายทั้งหมดมาหารือก่อน โดยเราจะดูให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะคนทำหน้าที่ประธานสภาจะต้องตรงไปตรงมา และไม่มีประโยชน์ที่จะไปขู่ว่าจะดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกฎหมายที่เชิญมาได้มีการหารือกันไปบ้างแล้วรวมถึงมีข้อยุติกันบางประเด็น คิดว่าตอนออกระเบียบวาระก็สามารถวินิจฉัยได้ว่าจะบรรจุลงระเบียบวาระหรือไม่ บังเอิญเรื่องดังกล่าวนี้รองประธานสภาคนที่ 2 ไปพูดก่อนเลยทำให้เป็นประเด็นขึ้นมา

“เรื่องนี้เป็นสิทธิของประธานสภาที่วินิจฉัยได้ และเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ส่วนที่ 7 พรรคฝ่ายค้านอยากได้คำตอบภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนั้น เรื่องทั้งหมดอยู่ที่สภา จะยื่นเงื่อนไขต่อรองหรือขู่อะไรก็ไม่มีผล เพราะคนเป็นประธานไม่ว่าตนหรือใครโดยทั่วไปต่างก็วางตัวเป็นกลางและวินิจฉัยโดยยึดความถูกต้อง ไม่ยึดเอาตามอำเภอใจ ความจริงเรื่องนี้ผมก็แปลกใจว่าทำไมถึงโวยวาย ทำไมถึงไม่ฟังเหตุฟังผลรีบร้อนไปขู่เสียก่อนโดยยังไม่รู้ว่าเขาตัดสินอย่างไร” นายชวนกล่าว

เมื่อถามถึงบรรยากาศการทำงานของ ส.ส. เริ่มจะมีการฟ้องร้องกันแล้ว นายชวนกล่าวว่า ตนมองว่าบางเรื่องเป็นสิ่งที่เขาเตรียมตัวกันมา ดังนั้น ความพร้อมในการหาหลักฐานเพื่อกล่าวหา เช่น กรณีการถือหุ้นสื่อ บางฝ่ายได้เตรียมพร้อมมาสมควร แต่เรื่องพวกนี้อยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกัน อะไรถูกอะไรผิดก็ให้จัดการตามกฎหมาย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่ออกนอกกฎหมาย เพราะหากทำผิดกฎหมายจะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าสมาชิกให้ความร่วมมือดี ถ้าคิดเป็นร้อยละก็ 99.99 เปอร์เซ็นต์ เช่นเรื่องเวลาในการประชุม ทั้งนี้ เมื่อส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกติกา สภาก็ไปได้ดีแม้จะมีเครื่องมือที่ไม่พร้อมก็ตาม

เมื่อถามถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกรณี 33 ส.ส. ของ 7 พรรคฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ นายชวนกล่าวว่า ตอนนี้ทางฝ่ายเลขาฯจะตรวจสอบความถูกต้องแบบเดียวกับที่ยื่นมาครั้งก่อน เบื้องต้นคือตรวจสอบลายเซ็นผู้รับรองว่าตรงกับลายมือชื่อที่เซ็นไว้กับสภาหรือไม่ คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งมาถึงตนสัปดาห์หน้า ซึ่งระยะเวลาในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาเท่ากับการยื่นครั้งก่อน

เมื่อถามว่ากรณีรองประธานสภาคนที่ 2 ให้ความเห็นว่าอำนาจการสรรหา ส.ว. เป็นของ คสช. นายชวนกล่าวว่า รอให้ออกระเบียบวาระก่อนจึงจะให้ความเห็นเหล่านี้

ต่อข้อถามว่าการให้ความเห็นว่าเป็นอำนาจของ คสช. ไม่สามารถตรวจสอบได้ นายชวนกล่าวว่า ตนไม่ขอตอบประเด็นนอกเหนือจากนี้ เมื่อถามว่าการทำหน้าที่ ส.ส. สามารถยื่นญัตติตรวจสอบการสรรหา ส.ว. ย้อนหลังได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่เรื่อง

Featured