- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 22 hours ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
5ปีผ่านไป.. บ๊ายบาย..จ๊ะเอ๋!!
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2019/07/pok726-237x336.jpg)
คอลัมน์ : เรื่องจากปก
ผู้เขียน : ทีมข่าวการเมือง
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 19-26 ก.ค. 2562 )
ในที่สุดประเทศไทยก็มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ นำโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนตัวประกอบ แปลงกลาย แปลงสถานภาพจากนายกรัฐมนตรีที่มาจากเผด็จการรัฐประหาร มาเป็นเผด็จการประชาธิปไตย ได้นายกรัฐมนตรีจากการเสนอชื่อของพรรคการเมืองคือพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นชื่อเดียวกับนโยบายประชานิยมที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลจากคณะรัฐประหารที่ผ่านมา
อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารรุ่นพี่ปี 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ปัจจุบันนั่งเป็นที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เพิ่งให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นว่า หัวหน้าคณะรัฐประหารปี 2557 นั้นเรียนรู้บทเรียนจากตนที่ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการรัฐประหาร ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก การทำรัฐประหารยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นอีก และที่สำคัญการรัฐประหารจะทำไม่ได้ถ้าไม่มีประชาชนสนับสนุน สรุปคือ “การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจนถึงตอนนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาการเมืองแบบไทยๆที่ยังไม่เติบโต”
กว่า 5 ปีหลังการรัฐประหาร และระหว่างการเลือกตั้งที่ผ่านไป นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งเป็นคนคนเดียวกัน ยังคงมีอำนาจเบ็ดเสร็จ มีดาบอาญาสิทธิ์มาตรา 44 มีเนติบริกรผู้บัญญัติศัพท์ “อภินิหารทางกฎหมาย” จวบจนถึงวันที่มีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีคนเก่าและหัวหน้า คสช. กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือคนเดียวกัน
หลายคนยินดีกันว่าดาบอาญาสิทธิ์มาตรา 44 จะไม่สามารถใช้ได้อีก ขณะที่หลายคนกลับขมขื่นเพราะมองเห็นว่ามาตรา 44 ไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่ถอดวิญญาณไปใส่ไว้ในหน่วยงานความมั่นคงแห่งหนึ่ง และยังคงมีเนติบริกรผู้บัญญัติศัพท์ “อภินิหารทางกฎหมาย” อยู่เคียงข้างดังเดิม
ที่ขมขื่นหนักไปกว่านั้นก็คือ หลังจากการทำรัฐประหาร 2 ครั้ง ปี 2549 และ 2557 หากไม่นับรัฐมนตรีที่ยืมนาฬิกาเพื่อนไม่เรียกว่าโกง หรือรัฐมนตรีที่มีข้อสงสัยพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดต้องติดคุกในต่างประเทศแต่ไม่ได้ติดคุกในไทยแล้ว เรายังคงได้รัฐมนตรีหน้าเดิมคนเดิมหลายคนที่ถูกกล่าวหาว่าโกง และเคยทำงานกับรัฐบาลที่ถูกคณะรัฐประหารขับไล่ออกไปด้วยข้อกล่าวหาว่าโกง กลับมาอยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ในโควตาพรรคแกนนำของอดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารนั่นเอง!!??
You must be logged in to post a comment Login