- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 7 days ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
- บทเรียนพระสายมูPosted 2 weeks ago
ฆาตกรรมคืนเมืองมืด
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 19-26 ก.ค. 2562 )
สายฟ้าฟาดลงบนสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งเมืองนาน 25 ชั่วโมง ในช่วงเวลาโกลาหลเกิดเหตุวางเพลิงราว 1,000 แห่ง ร้านค้ากว่า 1,600 แห่งถูกปล้น ไม่น่าเชื่อว่ามีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นเพียง 1 คดีเท่านั้น แต่ก็เป็นคดีที่ตำรวจยังปิดแฟ้มไม่ลง
เวลา 20.37 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 1977 เกิดเหตุฟ้าผ่าสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าย่อยบูแคนัน รัฐนิวยอร์ก ทำให้ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าจ่ายให้ประชาชนในมหานครนิวยอร์กได้ เวลา 20.55 น. เกิดเหตุฟ้าผ่าอีกครั้งที่สถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าย่อยสเปรนบรู๊ก การสูญเสียสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าย่อย 2 แห่งพร้อมๆกัน ทำให้สถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าย่อยที่เหลือทำงานเกินกำลัง
บริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าพยายามแก้ไขแต่ไม่เป็นผล ในที่สุดเวลา 21.36 น. บริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าตัดสินใจปิดระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งเมืองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่าที่เป็นอยู่ วินาทีนั้นมหานครนิวยอร์กถูกปกคลุมด้วยความมืด และความโกลาหลก็เริ่มขึ้น
คืนกลียุค
การแข่งขันเบสบอลระหว่างทีมนิวยอร์กเมตส์และชิคาโกคับส์ในสนามกีฬาเชียต้องยกเลิกกลางคันขณะที่นิวยอร์กเมตส์เป็นรองด้วยคะแนน 2-1 ผู้ชมกว่า 4,000 คนถูกอพยพออกจากสนามกีฬา อุโมงค์ลอดแม่น้ำ สนามบินนานาชาติลากวาร์เดียและเจเอฟเคถูกสั่งปิด
ไม่นานนักก็เกิดกลุ่มควันไฟจากการลอบวางเพลิงกระจายไปทั่วเมือง คนร้ายใช้เชือกผูกปลายข้างหนึ่งที่ท้ายรถยนต์ ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งผูกที่ประตูร้านค้า เร่งเครื่องยนต์กระชากประตูร้านจนหลุดออกก่อนจะบุกเข้าไปปล้นสินค้าที่อยู่ในร้าน
ในคืนนั้นสินค้าแทบทุกชนิดถูกปล้นจากร้านค้าตั้งแต่เข็มหมุดไปจนถึงเพชรพลอย รถยนต์ป้ายแดง 50 คัน ถูกต่อสายตรงขโมยขับออกจากโชว์รูมนำไปถอดเป็นชิ้นๆขายเป็นอะไหล่ ตามถนนหนทางจะเห็นคนหิ้ววิทยุ โทรทัศน์ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดนตรี ฯลฯ จากร้านที่พวกเขาพังประตูเข้าไปขโมยมา แม้แต่ขโมยเองบางคนยังถูกขมายอีกที
อาคาร 1,037 แห่งถูกลอบวางเพลิง ร้านค้า 1,616 แห่งถูกปล้น ตำรวจจับคนร้ายได้ 3,776 คน มูลค่าความเสียหายราว 300 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบค่าเงินปัจจุบันราว 1,200 ล้านดอลลาร์
กระสุนปริศนา
แคร์โรลการ์เดนส์เป็นย่านอยู่อาศัยของชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียน เป็นหนึ่งในเขตที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำที่สุดในนครนิวยอร์ก ปัจจุบันถูกยกระดับให้เป็นย่านคนรวย อพาร์ตเมนต์มีราคาขั้นต่ำ 1 ล้านดอลลาร์
โดมินิก ซิสโคเน หรือที่เพื่อนๆนิยมเรียกชื่อเล่นว่าดอม หนุ่มน้อยวัย 17 ปี เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน แต่เขามีร่างกายสูงใหญ่กว่าพี่ๆ ด้วยความสูง 180 ซม. น้ำหนัก 250 ปอนด์ ใบหน้าคมคายหล่อเหลาตามแบบฉบับชาวอิตาเลียน
ในคืนไฟฟ้าดับ ดอมและแอนดรูว์ พี่ชาย ออกมายืนรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่ริมถนนห่างจากบ้านไม่ถึงช่วงตึก พวกเขาช่วยกันเก็บเศษขยะมาก่อกองไฟให้แสงสว่าง จับกลุ่มพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกตามประสาวัยรุ่น เพื่อนบางคนนำดอกไม้ไฟมาจุดสร้างความสนุกสนาน
ทันใดนั้นดอมก็ตะโกนบอกพี่ชาย “แอนดรูว์! ฉันคิดว่าฉันโดนยิง” แอนดรูว์หันหน้ามามองดอมแล้วบอกว่า “ไม่ใช่หรอก แค่เสียงดอกไม้ไฟน่ะ” แต่ร่างดอมทรุดล้มลงกับพื้น เขาถูกกระสุนพุ่งเข้าใส่ด้านหลัง แอนดรูว์เห็นชายคนหนึ่งแต่งกายดีวิ่งหนีไปในความมืด เขาวิ่งไล่ตามแต่ถูกคนร้ายยิงสวน กระสุนถากคิ้วด้านขวา เขาจึงหยุดไล่ตาม
บอกไม่ได้
ดอมเสียชีวิตก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึง มิลดริดพี่สาวของดอมสงสัยว่าคนร้ายอาจเป็นคู่กรณีที่เคยมีเรื่องชกต่อยกับดอมเมื่อปีที่แล้ว ชายคนนั้นถูกตำรวจจับกุมตัวและถูกคุมขัง 6 เดือน เพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ตำรวจไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าเขาเป็นคนร้ายในคดีลอบยิงดอม
การสืบสวนไม่มีความคืบหน้า ไม่มีใครเห็นใบหน้าคนร้าย เนื่องจากคืนนั้นไฟฟ้าดับทั้งเมือง จนกระทั่งอีก 20 ปีต่อมา ปี 1997 มีโทรศัพท์ลึกลับแจ้งกับตำรวจสายสืบแพทริก ทัลบอต บอกว่าเขารู้ว่าใครเป็นคนยิงดอมเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ไม่กล้าพูดเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
แพทริกพูดจาโน้มน้าวชายนิรนามให้เล่าต้นสายปลายเหตุและระบุตัวคนร้าย แต่ชายนิรนามอึกๆอักๆแล้วบอกว่าจะติดต่อมาใหม่อีก 2 เดือนข้างหน้า แล้วเขาก็วางสายไป เมื่อถึงกำหนดเวลาชายนิรนามไม่ได้ติดต่อกลับมาตามที่สัญญาไว้
แคร์โรลการ์เดนส์เป็นสถานที่ปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยเพราะพวกเขาล้วนรู้จักหน้าค่าตากันและกันดี หัวหน้าแก๊งอิทธิพล โจ แกลโล เคยอาศัยอยู่ในย่านนี้ เขาตั้งกฎให้เพื่อนบ้านคอยเป็นหูเป็นตาให้กันและกัน ดังนั้น ไม่มีทางที่จะมีคนแปลกหน้าเล็ดลอดสายตาคนในชุมชนไปได้
ยังหาเบาะแส
ดอมเป็นผู้เคราะห์ร้ายเพียงคนเดียวที่เสียชีวิตในคืนไฟฟ้าดับ แต่เขาไม่ใช่คนเดียวที่เสียชีวิตที่หัวมุมถนนระหว่างถนนเนลสันและคอร์ต 2-3 ปีต่อมามีชายคนหนึ่งถูกพบเสียชีวิตในรถ สภาพใบหน้าฟุบอยู่กับพวงมาลัย และคนขายยาเสพติดกับแฟนสาวถูกยิงเสียชีวิต คนร้ายนำศพยัดใส่กระโปรงท้ายรถจอดอยู่ริมถนนตรงจุดเดียวกับที่ดอมถูกยิงเสียชีวิต
แพทริกเสียชีวิตก่อนจะสะสางคดีได้สำเร็จ นักสืบเควิน แมคโดนอ พยายามสานเรื่องต่อ ปี 2014 เควินจับกุมตัวชายจรจัดคนหนึ่ง ผู้ต้องหาต่อรองกับเควินขอให้ปล่อยตัวแลกกับข้อมูลคดีลอบสังหารดอม แต่รายละเอียดที่ชายจรจัดสาธยายนั้นขัดแย้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เควินเชื่อว่าการสืบสวนคดีนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะคนในชุมชนเชื้อสายอิตาเลียนมีธรรมเนียมที่จะไม่นำเรื่องในออก นำเรื่องนอกเข้าในชุมชน พวกเขาต่างปิดปากเงียบไม่ยอมแพร่งพรายข้อมูลใดๆแม้แต่น้อย จนถึงปัจจุบันคดีลอบสังหารดอมยังไม่สามารถสืบหาตัวคนร้ายได้ ขณะที่พี่สาวของดอมเชื่อว่าอาจเป็นการยิงผิดตัว
1.โดมินิก ซิสโคเน (กลาง)
2.สภาพถนนในคืนไฟฟ้าดับ
3.การขนส่งสาธารณะเป็นอัมพาต ผู้คนอาศัยหลับนอนในสถานีขนส่ง
4.คนมารวมตัวกันริมถนนในคืนไฟฟ้าดับ
5.ร้านจำหน่ายเพชรพลอยถูกปล้น
6.ห้างสรรพสินค้าถูกปล้นจนไม่เหลือสินค้า
7.ของเล็กหรือของใหญ่ถูกปล้นไม่เหลือ
8.ส่วนหนึ่งของผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์คืนไฟฟ้าดับ
9.อาคารกว่า 1,000 แห่งถูกลอบวางเพลิง
10.ผู้ชมกว่า 4,000 คนถูกอพยพออกจากสนามกีฬาเชีย
You must be logged in to post a comment Login