โลกส่วนตัวพี่น้องมิตฟอร์ด

• Tweet
• 

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  วันที่ 26 กรกฎาคม-2 สิงหาคม 2562)

การถูกพ่อแม่ปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่เท่าที่ควร ทำให้ 6 สาวพี่น้องสร้างโลกส่วนตัวของพวกเธอขึ้นมา ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามความฝันของตัวเองแต่สะเทือนถึงคนทั้งโลก

เดวิด มิตฟอร์ด เป็นราชาที่ดินในประเทศอังกฤษ แต่เขามักจะถ่อมตัวว่าไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร เอาเป็นว่าเขาเป็นคนจนในกลุ่มคนรวย เดวิดแต่งงานกับซิดนีย์ โบว์เลส มีลูกด้วยกัน 7 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 6 คน เดวิดทุ่มเทเงินทองให้กับการศึกษาของลูกชายเพียงคนเดียว ส่วนลูกผู้หญิงจ้างครูมาสอนที่บ้าน ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องเย็บปักถักร้อยและการทำครัว

แนนซี่ พี่สาวคนโตเกิดปี 1904 พาเมล่า พี่สาวคนรองเกิดปี 1907 โทมัส ลูกผู้ชายคนเดียวเกิดปี 1909 ไดอะน่า เกิดปี 1910 ยูนิตี้ เกิดปี 1914 เจสซิก้า เกิดปี 1917 และเดบาร่าห์ น้องสุดท้องเกิดปี 1920 พวกเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ Asthall Manor เมืองออกซ์ฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ

เดวิดและซิดนีย์ไม่ให้ความใส่ใจลูกสาวเท่าที่ควร ทำให้พวกเธอสร้างโลกส่วนตัว สร้างภาษาใหม่ขึ้นมาใช้สื่อสารกันในกลุ่ม 6 สาวพี่น้อง และตั้งชื่อให้กันใหม่ แนนซี่-นาร์ด, พาเมล่า-ฮ้องส์, ไดอะน่า-เดโบ, ยูนิตี้-โบโบ, เจสซิก้า-เดกก้า, เดบาร่าห์-เบอร์ดี้

ชู้ทางใจ

เมื่อโตเป็นสาวยูนิตี้รู้สึกว่าชีวิตไม่มั่นคงเพราะความสวยสู้ไดอะน่าพี่สาวที่อายุมากกว่าถึง 4 ปีไม่ได้ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าความรู้สึกว่าชีวิตไม่มั่นคงนี้ผลักดันให้เธอสนใจการปกครองระบอบฟาสซิสต์ หลังจากศึกษาไปศึกษามาก็ไปพบระบอบที่ชื่นชอบมากกว่า นั่นคือระบอบนาซี ยูนิตี้หลงใหลในตัวอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ คล้ายๆกับวัยรุ่นบ้านเราบ้าดาราเกาหลี

เมื่อยูนิตี้อายุ 19 ปี เธอเดินทางไปศึกษาระยะสั้นที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมัน โดยมีไดอะน่าเดินทางไปเป็นเพื่อน ยูนิตี้เริ่มแผนการที่เตรียมเอาไว้ทันที เธอรู้ว่าฮิตเลอร์ชอบไปกินอาหารที่ร้าน Osteria Bavaria ยูนิตี้ก็เลยแวะเวียนไปที่ร้านนี้บ่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งความฝันก็เป็นความจริง

ฮิตเลอร์เชื้อเชิญยูนิตี้ให้มานั่งร่วมโต๊ะ หัวข้อหลักที่ทั้งคู่สนทนากันเกี่ยวกับชนเชื้อชาติยิว ยูนิตี้หยิบหนังสือ “ไมน์คัมพฟ์” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุดมการณ์ทางการเมืองของฮิตเลอร์ที่เขาเป็นคนเขียนออกมาให้ทหารนาซีระดับสูงหลายคนเซ็นชื่อเป็นที่ระลึก

ยูนิตี้ใฝ่ฝันว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของฮิตเลอร์จะแผ่ขยายไปถึงประเทศอังกฤษ แต่เมื่อฮิตเลอร์ประกาศสงครามกับอังกฤษ ยูนิตี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอจะชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมืองของฮิตเลอร์ แต่เธอก็รักบ้านเกิดเมืองนอนด้วยเช่นกัน ยูนิตี้ตัดสินใจยิงตัวตายแต่ไม่สำเร็จ เธอเพียงได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยมีกระสุนฝังอยู่ในศีรษะ

สวยซ่อนพิษ

ไดอะน่าได้รับความชื่นชมจากคนรอบข้างว่าสวยงามดุจเทพธิดา เธอคลั่งไคล้การปกครองระบอบฟาสซิสต์ แต่ไม่ปลื้มในตัวฮิตเลอร์มากเท่ากับน้องสาว เธอแต่งงานกับทายาทเบียร์กินเนสส์ ก่อนจะหย่าร้างเพื่อแต่งงานใหม่กับเซอร์ออสวัลด์ มอสเลย์ ผู้นำสมาพันธ์ฟาสซิสต์แห่งอังกฤษ จัดงานที่ห้องวาดภาพของหัวหน้าฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อพรรคนาซี โดยมีฮิตเลอร์เข้าร่วมพิธีวิวาห์

หลังจากอังกฤษประกาศสงครามกับเยอรมัน เดือนมิถุนายน 1940 หน่วยข่าวกรอง MI5 บุกเข้าจับกุมตัวไดอะน่าและออสวัลด์ในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง หลักฐานเอกสารที่พบทำให้เชื่อได้ว่าไดอะน่าเป็นอันตรายมากกว่าออสวัลด์หลายเท่าตัว ขณะที่ไดอะน่ายิ้มรับข้อกล่าวหาโดยถือเอาว่าเป็นคำชม

ไดอะน่าและออสวัลด์ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในปี 1944 แต่ยังคงควบคุมให้อยู่เฉพาะในบ้าน และถูกยึดพาสปอร์ต ห้ามเดินทางออกนอกประเทศจนถึงปี 1949 ไดอะน่าให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าฮิตเลอร์เป็นบุคคลที่น่าสนใจ และคิดว่าทุกคนคงอยากจะพบเขาสักครั้ง

คนละขั้ว

แนนซี่ชอบงานเขียน เธอออกหนังสือเล่มแรกในปี 1931 แต่หนังสือเล่มที่ทำให้คนรู้จักเธอคือ Wigs on the Green ออกวางตลาดในปี 1934 มีเนื้อหาเสียดสีการปกครองระบอบฟาสซิสต์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแนนซี่อยู่คนละขั้วกับน้องสาว ด้วยเหตุนี้เองทำให้ยูนิตี้และไดอะน่าตัดพี่ตัดน้องกับแนนซี่โดยทันที อย่างไรก็ตาม ไดอะน่ายังคงติดต่อมาบ้างเป็นครั้งคราว

หลังจากแต่งงานแนนซี่ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสกับสามี เธอยังคงเขียนหนังสืออีกหลายเล่ม และแปลวรรณกรรมคลาสสิกของฝรั่งเศส ผลงานของเธอได้รับความนิยมอย่างสูงจนเธอได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ Chevalier of the Légion d’Honneur

แนนซี่คือคนที่เขียนจดหมายถึงหน่วยข่าวกรอง MI5 ให้จับตาดูไดอะน่าและสามี โดยระบุว่าไดอะน่าฉลาดและอันตรายกว่าออสวัลด์หลายเท่าตัว ซึ่งดูเหมือนว่าแนนซี่ต้องการให้รัฐบาลควบคุมตัวไดอะน่าระหว่างเกิดสงคราม

หัวใจสีแดง

เจสซิก้ายืนอีกขั้วหนึ่งต่างกับพี่สาวทั้ง 3 คน เธอชื่นชอบระบอบคอมมิวนิสต์ เป็นที่น่าสนใจมากว่าเธอนอนห้องเดียวกับยูนิตี้ นึกภาพไม่ออกว่าสองพี่น้องถกเถียงกันในเรื่องระบอบการปกครองบ้างหรือไม่ เจสซิก้าแต่งงานกับเอสมอนด์ โรมิลลีย์ หลานชายของเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล

ปี 1939 เจสซิก้าและสามีย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศอเมริกา หาเลี้ยงชีพโดยทำงานในบาร์และร้านอาหาร สละทิ้งทรัพย์สินเงินทองของบิดา ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เวลาว่างก็ไปช่วยงานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งอเมริกา

เชื่อว่าการที่สามีของเจสซิก้าเกี่ยวดองกับเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล ทำให้ยูนิตี้ไม่ถูกจับกุมตัว และไดอะน่าได้รับการผ่อนผันลดโทษจากการจองจำเป็นควบคุมตัวที่บ้าน ขณะที่เอสมอนด์ถูกเกณฑ์เข้าเป็นทหารและสูญหายขณะปฏิบัติหน้าที่ เจสซิก้าแต่งงานใหม่กับชาวอเมริกัน เธอเสียชีวิตในปี 1996 โดยเขียนพินัยกรรมให้จัดพิธีฝังศพอย่างเรียบง่าย ใช้เงินเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์

ฝันเป็นเจ้าหญิง

เดบาร่าห์ น้องเล็กคนสุดท้อง ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับพี่น้อง แต่ชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะไก่ เธอสามารถนั่งนิ่งๆอยู่ในเล้าไก่ได้หลายชั่วโมงเพื่อเฝ้ารอดูไก่ออกไข่ ทุกเช้าเดบาร่าห์จะไปตรวจดูว่ามีไข่ฟักเป็นตัวกี่ตัวและทำการจดบันทึกเอาไว้

สมัยเด็กๆเดบาร่าห์ใฝ่ฝันว่าจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย ต่อมาในปี 1941 เธอได้แต่งงานกับลอร์ดแอนดรูว์ คาเวนดิช ดยุคแห่งเดวอนเชอร์ ทำให้เธอได้รับตำแหน่งดัชเชสแห่งเดวอนเชอร์ เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก เธอใช้ชีวิตส่วนใหญ่ดูแลคฤหาสน์แชทส์เวิร์ธของตระกูลคาเวนดิชซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี 1549

พาเมล่าแต่งงานกับดีเร็ก แจ็คสัน นายแพทย์ผู้ร่ำรวย และย้ายไปอยู่คฤหาสน์ในชนบททำปศุสัตว์เลี้ยงหมูเลี้ยงวัว โดยเฉพาะไก่ที่พาเมล่าให้ความสนใจเป็นพิเศษ หลังจากสามีเสียชีวิตพาเมล่าก็หันไปใช้ชีวิตคู่กับกุยดิตตา ทอมมาซี นักขี่ม้าหญิงชาวอิตาเลียน อยู่ด้วยกันอย่างไม่แคร์สายตาชาวบ้าน

พี่น้อง 6 สาวตระกูลมิตฟอร์ดต่างเดินตามความฝันของตัวเอง หนังสือพิมพ์เดอะไทม์ตั้งฉายาให้กับพวกเธอว่า “ฟาสซิสต์ไดอะน่า คอมมิวนิสต์เจสซิก้า ยูนิตี้ผู้หลงรักฮิตเลอร์ แนนซี่นักเขียน ดัชเชสเดบาร่าห์ และพาเมล่าผู้หลงใหลสัตว์ปีก”

1.ครอบครัวมิตฟอร์ด

 

2.(จากซ้าย) ยูนิตี้, โทมัส, เดบาร่าห์, ไดอะน่า, เจสซิก้า, แนนซี่ และพาเมล่า

3.ยูนิตี้ถ่ายภาพคู่กับฮิตเลอร์

4.ฮิตเลอร์หน้าร้านอาหาร Osteria Bavaria

5.เจสซิก้าและยูนิตี้

6.ไดอะน่าและแนนซี่

7.เอสมอนด์และเจสซิก้า

8.ยูนิตี้ถูกหามส่งโรงพยาบาลหลังพยายามฆ่าตัวตาย

9.ดัชเชสเดบาร่าห์หน้าคฤหาสน์แชทส์เวิร์ธ

You must be logged in to post a comment Login