- อย่าไปอินPosted 16 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
เมื่อนบีมุฮัมมัดโดนไสยศาสตร์
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ วันที่ 2 – 9 สิงหาคม 2562)
เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่อิสลาม ศัตรูของท่านไม่ได้มีแต่เฉพาะผู้นำชาวอาหรับที่เกรงว่าตัวเองจะสูญเสียผลประโยชน์และสถานภาพเท่านั้น แต่ยังมีชาวยิวที่คิดจะกำจัดท่านทุกวิถีทางตามสำนวนไทยที่กล่าวว่า “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา” และหนึ่งในวิธีการชั่วร้ายนั้นคือการใช้ไสยศาสตร์
ในบันทึกคำบอกเล่าของนางอาอิชะฮ์ ภรรยาของท่านนบีมุฮัมมัด กล่าวว่า ในช่วงปลายชีวิตมีคนทำมนต์ดำใส่ท่านนบีมุฮัมมัดจนกระทั่งท่านคิดไปว่าท่านทำสิ่งที่ท่านไม่ได้ทำ เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านจึงวิงวอนขอความช่วยเหลือต่อพระเจ้าให้พ้นจากอิทธิพลของมนต์ดำ
แม้ความหลงลืมจะไม่มีผลกระทบต่อการจดจำคัมภีร์กุรอานที่ท่านได้รับจากพระเจ้า แต่ถ้าหากปล่อยไว้เนิ่นนานความหลงลืมของท่านอาจทำให้ผู้คนคลายความเชื่อถือในตัวท่าน ดังนั้น พระเจ้าผู้ทรงคุ้มครองนบีทุกคนของพระองค์จึงทรงคุ้มครองท่านด้วยการส่งทูตสวรรค์มาบอกวิธีการรักษาอาการป่วยของท่าน
นบีมุฮัมมัดเล่าว่า คืนหนึ่งขณะที่ท่านนอนหลับมีชาย 2 คนมาหาท่าน คนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้กับศีรษะของท่านและอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงเท้าของท่าน คนหนึ่งกล่าวว่า “อะไรที่ทำให้เขาป่วย?” อีกคนหนึ่งกล่าวว่า “เขาถูกมนต์ดำ” นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าคนทำที่มนต์ดำใส่ท่านคือชาวยิวชื่อละบีดและบอกถึงวิธีการทำด้วย
ชายคนนั้นได้บอกท่านนบีว่ามีคนเอาเส้นผมของท่านที่ติดอยู่กับหวีของท่านไปให้คนทำไสยศาสตร์ หลังจากนั้นเส้นผมของท่านได้ถูกนำไปผูกกับดอกเกสรตัวผู้ของอินทผลัมและนำไปวางไว้ในบ่อน้ำแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าบ่อน้ำซัรฺวาน
เมื่อรู้สึกตัวท่านนบีมุฮัมมัดจึงได้ไปยังบ่อน้ำแห่งนั้นพร้อมกับสาวกบางคนของท่านและกลับมาเล่าให้ภรรยาของท่านฟังว่า “น้ำในบ่อแห่งนั้นมีสีเหมือนกับน้ำที่ผสมกับใบเฮนนา และยอดของต้นอินทผลัมใกล้บ่อน้ำแห่งนั้นเหมือนกับหัวของซาตาน (กล่าวคือ เหมือนกับหัวของงู)”
ภรรยาของท่านจึงถามว่าทำไมท่านไม่เอาสิ่งที่ท่านพบมาให้ผู้คนได้เห็น ท่านได้กล่าวว่า “เนื่องจากพระเจ้าทรงเยียวยารักษาฉันให้หายแล้ว และฉันกลัวว่าถ้าหากเอามันออกมามันอาจจะนำสิ่งเลวร้ายมาสู่ผู้คน” หลังจากนั้นท่านได้สั่งให้กลบบ่อน้ำแห่งนั้น
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้มันเกิดขึ้นกับตัวของนบีมุฮัมมัดเองเพื่อจะบอกว่าไสยศาสตร์หรือศาสตร์ของซาตานมีจริง แต่ซาตานไม่มีอำนาจเหนือพระเจ้า ผู้ศรัทธาในพระเจ้าต้องไม่เกรงกลัวมัน และต้องไม่วิงวอนขอความช่วยเหลือจากมัน หรืออาศัยตะกรุด เครื่องรางของขลัง เพราะหากใครทำเช่นนั้นก็เท่ากับทำบาปใหญ่ที่มีผลทำให้สิ้นสภาพจากการเป็นมุสลิมทันที
ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงได้สอนวิธีการป้องกันไสยศาสตร์หรือมนต์ดำให้แก่ผู้ศรัทธาในพระองค์ผ่านทางนบีมุฮัมมัด โดยการประทาน 2 บทสุดท้ายของคัมภีร์กุรอานให้อ่านเพื่อขอความคุ้มครองต่อพระเจ้าก่อนนอน
บทหนึ่งมีความหมายเป็นภาษาไทยดังนี้
“จงกล่าว ‘ฉันขอความคุ้มครองด้วยพระผู้อภิบาลแห่งรุ่งอรุณให้พ้นจากความชั่วร้ายของทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง และจากความชั่วแห่งความมืดของกลางคืนเมื่อมันแผ่ลงมา และจากความชั่วของผู้เสกเป่าลงไปบนปมเงื่อน และจากความชั่วของผู้อิจฉาเมื่อเขาอิจฉา’”
และอีกบทหนึ่งมีความหมายดังนี้
“จงกล่าว ‘ฉันขอความคุ้มครองด้วยพระผู้อภิบาลแห่งมนุษยชาติ ราชาแห่งมนุษยชาติ พระเจ้าของมนุษยชาติ ให้พ้นจากความชั่วของผู้แอบเข้ามากระซิบครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้กระซิบเข้าไปในหัวใจของมนุษย์ ทั้งจากพวกญินและมนุษย์’”
หลังจากมนต์ดำถูกทำลายแล้ว ก่อนนอนนบีมุฮัมมัดจะยกฝ่ามือ 2 ข้างขึ้นชนกันและเป่าลมลงไปบนฝ่ามือ หลังจากนั้นท่านจะอ่านบทขอความคุ้มครองทั้งสองแล้วใช้ฝ่ามือทั้งสองลูบบนศีรษะและทุกส่วนของลำตัวไปจนถึงส่วนที่ฝ่ามือของท่านสามารถไปถึง
You must be logged in to post a comment Login