- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 3 hours ago
- สร้างบารมีพาอยู่เย็นเป็นสุขPosted 2 days ago
- ต้องทำชีวิตให้ดีกว่าเก่าPosted 2 days ago
- สิ่งที่อยากเห็นในปี 68Posted 6 days ago
- เล่นอะไรที่สร้างสรรค์ดีกว่าPosted 6 days ago
- ปีใหม่ขอให้มีสติปัญญาใหม่ๆPosted 1 week ago
- ความรู้วิเศษช่วยลดทุกข์Posted 1 week ago
- แก้สันดานหัวดื้อให้หายดื้อPosted 1 week ago
- ลองเป่าเศรษฐกิจให้โป่งทีPosted 2 weeks ago
- วัดสวนแก้วจัดงานต้อนรับปีใหม่Posted 2 weeks ago
เปลี่ยนจากผู้ลึกลับเป็นผู้รู้
คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 5 ส.ค. 62)
ทุกวันนี้โลกเจริญขึ้น แต่สิ่งที่เห็นสะท้อนกลับว่าสติปัญญามันต่ำเสื่อมไปหมด ถูกโฆษณาชวนเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพระรูปนั้นรูปนี้ออกมาทางโซเชียลมากมายอย่างชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีทั้งชนิดที่เรียกว่าแปลกๆ พิสดาร เมื่อก่อนนี้จะมีแต่พระพุทธรูป รูปพระพุทธเจ้า มีรูปหลวงปู่ หลวงพ่อ ห้อยอยู่ด้านหลัง ต่อมาพระพุทธรูปหายไป รูปอะไรต่ออะไรมาขึ้นหน้า โดยเฉพาะเกจิอาจารย์ทั้งหลาย เวลานี้ไม่รู้ว่ากินข้าวบ้านใคร ทำงานให้ใคร
โบราณว่า ทำงานบ้านเจ้า กินข้าวบ้านนาย หากินกับอะไร ทำงานให้ใคร อาตมานึกถึงตอนที่ไปสวนโมกข์ใหม่ๆ มานั่งเอะใจว่าทำไมคนคนเดียวในประเทศไทยเป็นทาสของพระพุทธเจ้าเลยตั้งชื่อตัวเองว่าพุทธทาส แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นทาสไสยศาสตร์ งมงาย หลงใหล เอาร่ำเอารวย เอามั่งเอามีกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชาวพุทธก็เลยไปติดความลึกลับ ไม่ได้รับความลึกซึ้งอย่างน่าเสียดาย ถ้าเรามัวแต่หลงใหลในเรื่องลึกลับก็ไม่มีความลึกซึ้งในเรื่องศาสนา พระธรรมคำสอน บางคนยิ่งแก่ก็ยิ่งไปหมกมุ่นกับการส่องพระ ดูพระเครื่องต่างๆ
พระเครื่องที่เขาทำกันมาใหม่ เรียกว่ามีมามาก เราก็ไม่เข็ด ไม่หลาบ ไม่จำ จตุคามรามเทพก็ล้มเหลวไปแล้ว เหรียญหลวงปู่ หลวงพ่อต่างๆไม่รู้กี่รุ่น หมุนไปหมุนมา ปั้นไปปั้นมาแล้วก็ตกฮวบ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เบญจภาคีทั้ง 5 ก็เห็นมีแต่พระสมเด็จวัดระฆังที่เป็นอมตะยืนนานหน่อย นอกนั้นเกิดขึ้นพักเดียวก็หายไป หมดความนิยม หมดความขลัง หมดความศักดิ์สิทธิ์ หลายหลวงปู่ หลายหลวงพ่อดังอยู่ระยะเดียว ตะกรุดหลวงพ่อโน้น หลวงพี่นี้มาแล้วก็ค่อยๆหายไป ที่แปลกที่สุดตอนนี้ก็คือ มีรูปสิงสาราสัตว์เข้ามา เช่น ลูกเต่า อะไรต่อมิอะไรที่ค่อนข้างจะลามกก็มี เช่น ปลัดขิก อีเป๋อ
พวกเราชาวพุทธจะเป็นทาสพระพุทธเจ้ากันแบบไหน ถ้าเป็นทาสพระพุทธเจ้าจะไม่งมงาย แต่ถ้าเป็นทาสวัตถุนิยม นิยมวัตถุมงคลสติปัญญาก็จะน้อยลงไป ถ้าชาวพุทธยังอยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเข้าไม่ถึงนามธรรมก็จะติดอยู่กับรูปธรรมพวกนี้ หลักธรรมคำสอนที่ดีๆงามๆไม่ค่อยสนใจ สนใจแต่เรื่องที่เป็นเรื่องลึกลับ เรื่องลึกซึ้งก็หายไป หวังว่าอีกสักระยะหนึ่งคงกลับมาใหม่ คงจะกู่กันกลับว่า อย่าไปหลงกับไสยศาสตร์ ศาสนาพุทธเป็นพุทธศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์ พระทั้งหลายก็อย่าทำพิธีปลุกเสกกันนักเลย หันมาหาวิธีดับทุกข์ให้ชาวบ้านกันบ้างดีกว่า จะไปปลุกเสกให้ชาวบ้านงมงายกันทำไม
ช่วยกันหาวิธีแก้จน แก้ทุกข์ เขาจะได้ไม่ผูกคอตาย ฆ่าตัวตายเป็น 4-5 พันศพ มันน่าอายกันบ้างมั้ยว่าพระปล่อยให้ญาติโยมฆ่าตัวตาย เพราะมัวไปปลุกเสก ไม่สอนให้เขารู้จักสู้กับความทุกข์ ต่อต้านความทุกข์ และละลายความทุกข์ไป ไม่ใช่ไปละลายชีวิตโดยการรมควันบ้าง ยิงตัวตายบ้าง ผูกคอบ้าง กระโดดน้ำบ้าง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมากเท่าไรมันก็หยามภูมิปัญญาชาวพุทธมากเท่านั้น ก็หวังว่าคงจะมีใครคิดเป็นเจ้าภาพบ้าง ตอนนี้หายไปพักหนึ่งไม่รู้จะฟื้นขึ้นมาใหม่หรือเปล่า
มหาเถรสมาคมไม่ให้จำหน่ายเครื่องรางของขลังในโบสถ์ ผิดกฎหมาย ก็อย่าได้ไปทำกันเลย โบสถ์เป็นสถานที่ของพระสงฆ์ ไม่ควรจะเกิดเหรียญหลวงพ่อโน้นหลวงพ่อนี้ให้งมงายกันไปเปล่าๆ โชคดีที่สมเด็จพระสังฆราชพระองค์นี้ไม่นิยมการปลุกเสก ทำให้ยังเกรงๆใจกันอยู่ ไม่อย่างนั้นคงทำกันน่าดู หวังว่าสักวันคงจะเปลี่ยนจากผู้ลึกลับมาเป็นผู้รู้กันบ้าง
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login