วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นายกฯจบประเด็นถวายสัตย์ฯ ยันทำตามรธน.

On August 5, 2019

ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 รวมทั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และศิษย์เก่าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เดินทางมาร่วมพิธีวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าครบรอบ 132 ปีอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้วางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ก่อนเดินทางกลับ กทม. ในเวลา 08.30 น.

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยกรณีการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ไม่ครบถ้วนว่า ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการในการถวายสัตย์ฯ ต่อหน้าพระมหากษัตริย์ ซึ่ง ณ ตรงนั้นก็เสร็จไปแล้วว่าจะต้องทำอะไรในการดูแลประชาชน ข้อความต่างๆที่พูดไปแล้วถือว่าครอบคลุมทั้งหมด และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญในการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย ที่สำคัญที่สุดเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งพระองค์รับสั่งมาให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งตรงกับรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าทำเพื่อประชาชนและเพื่อประเทศ ตนคิดว่าเรื่องนี้ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลาย หลายคนในนั้นก็เป็นทหาร ขอร้องว่าเคยเป็นพี่น้องกันมา อย่าให้การเมืองมาทำให้ประเทศชาติปั่นป่วนไปทั้งหมด ถ้าจะดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ให้รอเลือกตั้งคราวหน้าก็แล้วกัน

เมื่อถามว่ากังวลที่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่กังวลอะไรทั้งสิ้น จะกังวลไปทำไม มีเรื่องที่น่ากังวลมากกว่านี้อีกมาก การเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีหลายอย่างต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างมีรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งต้องร่วมมือกับรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองต่างๆ การเซ็นงบประมาณ การอนุมัติโครงการทุกอย่างต้องตอบสนองรัฐธรรมนูญทั้งนั้น โดยรัฐธรรมนูญได้เขียนแบบกว้างๆเอาไว้ ก็ไปทะเลาะกันแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ ต้องไปดูว่ากฎหมายลูกมีอะไรบ้าง เพราะเป็นส่วนที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่รัฐธรรมนูญเป็นเพียงแค่กรอบกว้าง จะไปทำอะไรได้ทั้งหมด ดังนั้น จึงต้องอาศัยกฏหมายลูกที่มีหลายพันหลายหมื่นฉบับ รวมถึงกฎกระทรวง สิ่งที่ตนพูดเป็นวิธีการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกษตรหรือเรื่องอะไรก็ตาม ที่พูดกันเรื่องเสื้อกระดุม 5 เม็ด ขอให้ลองไปดูว่าเราได้ทำอะไรไปหรือยัง บางอย่างมาจากต่างประเทศ เราก็นำหลักการนั้นมาคิดและประยุกต์ว่าสิ่งเหล่านั้นทำกับเราได้หรือไม่ อย่างประเทศเราตนเห็นใจเกษตรกรมากที่สุด เพราะเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมถึงคนที่อยู่ในกระบวนการเหล่านี้ด้วย ทั้งปลูก ผลิต และแปรรูป ถือเป็นห่วงโซ่ทั้งหมด ซึ่งเราก็ต้องดูทั้งหมด ถ้าไปดูแต่ขั้นต้น ตรงกลาง แรงงาน ตลาดก็มีปัญหา การแข่งขันด้านราคาก็มีปัญหาอีก เราต้องกลับมาย้อนดูว่าต้นทางคืออะไร ในประเทศที่เจริญแล้วห่วงโซ่ตรงนี้จะไม่มากนัก เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งไทยยังไปไม่ถึงตรงนั้น เราต้องพยายามไปให้ถึงตรงนั้น

การลดต้นทุนการผลิตเป็นตัวสำคัญที่สุด ถ้าลดไม่ได้ก็ไปไม่ได้ เช่น ประเทศอิสราเอลที่หลายคนอยากเป็นเช่นนั้น แต่เขามีประชากรแค่ 10 ล้านคน และมีประเทศเล็กกว่าเราหลายสิบเท่า ดังนั้น จึงอยากถามคำถามกลับไปว่าเราควรมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมหรือไม่ในการทำการเกษตรในเมืองไทย

ตนไม่ต้องการห้ามทั้งสิ้นว่าจะปลูกอะไร แต่ถ้าปลูกแล้วเกิดความเสียหายรัฐบาลจะเข้าไปอุดหนุนทั้งหมดคงเป็นไปได้ยาก เพราะไม่คุ้มกับต้นทุน จึงเป็นเรื่องการบริหารจัดการให้ปลูกพืชอย่างเหมาะสม มีแหล่งน้ำที่เพียงพอ ประเทศไทยสามารถจัดพื้นที่ชลประทานได้ถึง 40% เพราะมีลักษณะพื้นที่สูงต่ำ มีน้ำท่วมและมีน้ำแล้ง ส่วนใหญ่เป็นนาน้ำฝน และอีกส่วนหนึ่งเป็นนานอกระบบชลประทาน เหล่านี้คือปัญหาของเรา รวมถึงการปลูกอะไรมากเกินไป ในส่วนที่ราคาดีให้สังเกตว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่าจำนวนน้อยลง แรงงานที่มาจากต่างประเทศก็น้อยลง ที่ผ่านมาพอราคาดีขึ้นคนก็ไปปลูกตามกันหมด ทำให้ปัญหากลับมาที่เก่า ต้องคิดแบบนี้ เพราะนี่คือการติดกระดุมเม็ดที่ห้า ตนไม่ขัดแย้ง และขอขอบคุณที่พูดกันมา ขอชื่นชมหลายคน แต่ต้องไปดูว่าในทางปฏิบัติทำได้จริงหรือไม่ การพูดแล้วไม่ปฏิบัติจริงก็ถือว่ายาก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การปฏิบัติทำโดยรัฐบาล ซึ่งก็คือคณะรัฐมนตรีที่ทุกคนได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ตนเคารพกติกาตรงนี้ เขาจะชี้แจงว่าสิ่งไหนทำได้หรือทำไม่ได้ ไม่ใช่ให้มาทำในลักษณะนโยบายทั้งหมด เพราะทำไม่ได้มากขนาดนั้น ทั้งนี้ ต้องมีการประชุมเรื่องงบประมาณและแผนงาน ซึ่งไม่สามารถบรรจุสิ่งเหล่านั้นไว้ทั้งหมดภายในปีนี้ปีเดียวได้ ต้องทยอยไปแบบระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งใช้จ่ายงบประมาณตามห้วงระยะเวลา และประเมินหนี้สาธารณะรายปีว่าต้องตั้งเงินกู้เท่าไรที่คาดการณ์ไว้อีกหลายปีที่จะทำให้ประเทศเรามีรายได้แบบสมดุล อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนรักประเทศไทยให้มาก อย่าไปนำเสนอข่าวที่ขัดแย้ง เพราะจะถอยกันทั้งประเทศ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและทหารทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครอยากจะอยู่ตรงนี้ เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำ จะไปย้อนกลับทำไม ไม่มีอะไรจะให้เดินหน้าสักอัน


You must be logged in to post a comment Login