วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“พิชัย”แนะรัฐบาล7ข้อแก้เศรษฐกิจกบต้ม

On August 14, 2019

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ “ข้อแนะนำและชี้แนะแนวทางเศรษฐกิจสำหรับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี” ที่สมาคมนักข่าว จัดโดยสภาที่ 3 ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบันส่วนหนึ่งเกิดจากสงครามการค้า แต่ส่วนใหญ่เกิดจากผลของการบริหารเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาตลอด 5 ปีกว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำมาตลอด การส่งออกของไทยโตต่ำเฉลี่ยเพียงปีละ 2% กว่าเท่านั้น สภาวะเศรษฐกิจเป็นเหมือนทฤษฎีกบต้มที่น้ำค่อยๆเดือดแล้วแต่กบยังไม่รู้ตัว และกำลังจะตายคาหม้อกันหมด แถมยังมาแจ้งจับคนเตือน ผลของการไม่รับฟังความคิดเห็น คิดว่าทำถูกต้องและดีแล้ว ทั้งๆที่ที่ผ่านมาทำผิดพลาดมาตลอด ผลของการปฏิวัติรัฐประหารที่ทำลายความเชื่อมั่น อีกทั้งทำให้ไม่สามารถเจรจาการค้าได้ และยังลากกันมายาวนานถึง 5 ปี เป็นสาเหตุของการลงทุนที่หดหาย และยังจะสืบทอดอำนาจกันต่ออีก สงครามการค้าจึงเป็นเสมือนการเร่งไฟเพิ่มให้กับหม้อต้มกบ

แม้กระทั่งทุกวันนี้รัฐบาลยังปากแข็ง คิดว่าเป็นความสำเร็จ และ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเอง ก็ยังไม่รู้เรื่อง ไปเปรียบเทียบว่าในช่วงปีนี้ประเทศอื่นมีการส่งออกลดมากกว่าไทย โดยไม่ได้ดูเลยว่า 5 ปีที่ผ่านมา การส่งออกของประเทศเพื่อนบ้านขยายตัวหลายสิบเปอร์เซ็นต์ มากกว่าไทยหลายเท่ามาก นอกจากนี้จากที่นายสมคิดพูดทุกครั้งจะพยายามแสดงวิสัยทัศน์เหมือนกับว่านายสมคิดเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง โดยไม่ได้ดูเลยว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีผลงานเหมือนอย่างที่ได้พูดไหม ถ้ามีผลงานจริงเศรษฐกิจคงไม่ย่ำแย่ขนาดนี้ ประเทศไทยคงเป็นเหมือนเวียดนามที่ขยายการพัฒนาอย่างมากไปแล้ว ดังนั้น หากรัฐบาลยังไม่รู้ตัวและไม่ยอมรับความผิดพลาดที่ผ่านมา รัฐบาลจะไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะสำคัญตนผิด

การที่นายสมคิดติดกรอบความคิดของตัวเองแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจเลยยิ่งไม่ทราบเข้าไปใหญ่ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะยิ่งมีปัญหามากขึ้น ทั้งนี้ อยากขอแนะนำ 7 ข้อ สำหรับหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลดังนี้

1.เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาลที่จะกำหนดแนวทางร่วมกับแบงก์ชาติ โดยอยากให้กลับไปใช้แนวทางในอดีต เพราะที่ผ่านมาแนวทางแบงก์ชาติหลายครั้งไม่ได้ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ แต่แปลกใจที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากลับไม่ทำ จนกระทั่งมีปัญหาหนักจึงคิดจะมาทำ หากจำกันได้ตนได้ออกมาพูดถึงปัญหานี้มาตลอด และออกมาสนับสนุนนายอภิศักดิ์ อดีต รมว.คลัง หลายหน แต่นายสมคิดกลับไม่คิดทำ สิ่งที่สำคัญคือ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าทีมเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความรู้ความสามารถกำหนดแนวทางร่วมกับแบงก์ชาติได้ เพราะขนาดความผิดพลาดของตัวเองที่ทำผ่านมายังไม่สำนึกเลย

2.การที่นายสมคิดขอร้องนักลงทุนไทยอย่าได้ไปลงทุนในต่างประเทศแต่จะให้ลงทุนในไทย แสดงถึงความไม่เข้าใจของนายสมคิดในภาวะพลวัตของเศรษฐกิจโลก การโยกย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าเป็นธรรมชาติของธุรกิจ ในอดีตการโยกย้ายการลงทุนจากญี่ปุ่นมายังไต้หวัน เกาหลี และจากไต้หวัน เกาหลี ย้ายมาไทย และจากไทยย้ายไปประเทศในอาเซียน เป็นพลวัตของเศรษฐกิจโลก แต่ปัญหาของไทยคือ ไทยต้องการการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศไม่ลงมาลงทุนในอุตสาหกรรมแบบนี้ในไทยจากปัจจัยการเมือง ทำให้ไทยขาดการลงทุนมากว่า 5 ปี ถ้านายสมคิดยังไม่เข้าใจเรื่องนี้จะยิ่งสะเปะสะปะ

3.ปัญหาสงครามการค้า และเริ่มลามเข้าสู่สงครามค่าเงิน จะเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อและยาวนาน รัฐบาลต้องวางแผนการรับมือให้ดี โดยต้องดูเวียดนามเป็นตัวอย่าง การเร่งสร้างความมั่นใจจากต่างประเทศ การเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมและยังถูกสื่อหลักต่างประเทศโจมตีจะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ไม่ได้

4.พล.อ.ประยุทธ์จะต้องศึกษาเรื่องเศรษฐกิจโดยตัวเองให้มากๆ การที่นายสมคิดสร้างความสับสน พอส่งออกปีไหนดีก็บอกฝีมือรัฐบาล พอส่งออกปีไหนไม่ดีก็บอกจะไม่พึ่งส่งออก จะอาศัยการบริโภคภายในประเทศ ทั้งๆที่จีดีพีขยายตัวต่ำมาก จะเอารายได้ที่ไหนไปเพิ่มให้ประชาชนบริโภค แถมจีดีพีที่เพิ่มก็ไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัวและมหาเศรษฐีกันหมด อีกทั้งการแจกเงินโดยไม่สร้างรายได้ถาวรจะไม่สามารถสร้างการบริโภคอย่างยั่งยืนได้ อย่างเช่น 6 เดือนแรกของปีนี้ มีทั้งการแจกเงินและมีทั้งเงินหมุนเวียนจากการเลือกตั้ง เศรษฐกิจไทยก็ยังขยายตัวต่ำมาก

5.การช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจำเป็น แต่ต้องมีแผนการสร้างรายได้อนาคตด้วย ไม่ใช่จะคิดแจกอย่างเดียว โดยเฉพาะข้ออ้างว่าแจกไปเที่ยว 1,500 บาท เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลยในภาวะเช่นนี้

6.วัตถุประสงค์หลักของกระทรวงดีอี ควรจะต้องเร่งสร้างเศรษฐกิจสมัยใหม่ให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด โดยร่วมมือกับกระทรวงอื่นๆ แต่ปัจจุบันได้ยินแต่เรื่องศูนย์เฟกนิวส์เท่านั้น ซึ่งคนอาจเข้าใจว่ารัฐจะปล่อยเฟกนิวส์เองหรือไม่ เพราะเศรษฐกิจ 5 ปีนี้ย่ำแย่สุดขีด แต่กลับมีข่าวโต้แย้งว่า 5 ปีนี้เศรษฐกิจดี ไม่แย่อย่างที่นักการเมืองบิดเบือน อย่างนี้จะถือเป็นเฟกนิวส์ไหม?

7.กำหนดแนวทางประเทศที่เป็นรูปธรรมว่าไทยจะมีการพัฒนาอย่างไร ไม่ใช่พูดฟังดูดีแต่จับต้องไม่ได้ รัฐบาลจะเลือกโมเดลของประเทศไหนที่จะให้เป็นโมเดลการเติบโตของประเทศไทย และต้องชี้แจงให้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่บ่นแบบคืนวันศุกร์ ทั้งนี้ ยังไม่เคยปรากฏว่ารัฐบาลที่สื่อหลักต่างประเทศร่วมกันวิจารณ์ว่าเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจของระบอบเผด็จการจะสามารถพัฒนาประเทศให้เจริญได้

นี่เป็นเพียงบางแนวทางหลักๆเท่านั้น หากจะให้พูดหมดคงใช้เวลานาน และอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ค่อยๆทำความเข้าใจทีละเรื่อง เพราะจะรู้เรื่องทั้งหมดทันทีคงไม่ง่าย ห่วงแต่ว่ากว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจทั้งหมด ประเทศไทยอาจจะย่ำแย่ไปเสียก่อนแล้ว กบคงจะถูกต้มตายลอยอืดกันเต็มหม้อหมดก่อนแน่


You must be logged in to post a comment Login